ถ้าหัวใจของท่านเต้นผิดปกติ มันกำลังส่งสัญญาณอันตรายให้รีบปรึกษาหมอ


ถ้าหัวใจของท่านเต้นผิดปกติ มันกำลังส่งสัญญาณอันตราย ให้รู้ว่าท่านจะต้องมีความจำเป็นมากที่จะต้องรีบปรึกษาหมออย่างรีบด่วน

ถ้าหัวใจของท่านเต้นผิดปกติ   มันกำลังส่งสัญญาณอันตรายให้รีบปรึกษาหมอ

           ความรู้เกี่ยวกับหัวใจมีความจำเป็นมากที่ทุกคนต้องรู้ต้องใส่ใจไว้เพื่อจะได้ดูแลสุขภาพของตนเองโดยเฉพาะอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่นวูบหวิว หรือเป็นลมบ่อยๆแบบไม่มีสาเหตุ ล้วนแต่เป็นสัญญาณอันตราย ที่พบมากในคนวัยทำงาน และผู้สูงวัย ยิ่งทิ้งไว้นานวัน อาการป่วยยิ่งรุนแรงหนักขึ้นทุกที ดีไม่ดีอาจถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นโดยไม่ทันตั้งตัวซึ่งก็เป็นไปได้สูงมากและเริ่มพบบ่อยขึ้นในปัจจุบัน 

            ศ.นพ.เกียรติชัย ภูริปัญโญ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและคลินิกหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรงพยาบาลเวชธานี ได้อธิบายถึงอันตรายของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะว่า

             หัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนสูงวัย เกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆคือ ภาวะหัวใจเต้นช้า และภาวะหัวใจเต้นเร็วเกินไป ทั้งสองภาวะจะส่งผลให้ความดันลดลง เลือดสูบฉีดไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการมึนงง วูบหวิว หรือหมดสติร่วมด้วย

            สำหรับแนวทางการรักษานั้น คุณหมอแนะนำว่า ควรเริ่มต้นจากการตรวจอย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดใด และมีความรุนแรงแค่ไหน โดยทำได้หลายวิธี เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, ตรวจคลื่นไฟฟ้าแบบพกพาเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง และตรวจสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ โดยใส่สายสวนหัวใจ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนรักษา โดยจี้หัวใจด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงเท่าคลื่นวิทยุ วิธีรักษาแบบนี้ แพทย์จะสอดสายสวนหัวใจชนิดพิเศษที่มีขั้วโลหะที่ส่วนปลาย และขยับสายสวนหัวใจเพื่อหาตำแหน่งวงจรไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ จากนั้นจึงส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังตำแหน่งดังกล่าว ทำให้การนำไฟฟ้าที่จุดนั้นถูกทำลาย หัวใจจะได้ไม่เต้นผิดปกติอีก      

           อีกวิธีที่นิยมรักษาในปัจจุบันคือ การฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) เป็นเครื่องมือขนาด 4 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร เมื่อมีสัญญาณหัวใจเต้นผิดปกติ เครื่องจะส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้หัวใจกลับมาเป็นปกติโดยอัตโนมัติ

          พญ.ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวเสริมว่า อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด คนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ก็อาจพบความผิดปกติเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจได้ เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ยาขยายหลอดลม สารคาเฟอีนที่อยู่ในชา กาแฟ การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือหัวใจถูกกระตุ้นเพราะความแปรปรวนในระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น เครียด กังวล กลัว คิดมาก สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นระบบประสาทที่ส่งผลต่อการกระตุ้นหัวใจทำให้ใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหนื่อย หายใจไม่เต็มอิ่ม หายใจแรง เร็ว และอาจ เจ็บหน้าอก อาการเหล่านี้ มักเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆไม่ได้ออกแรง ขณะที่คิด มาก เครียด โมโห กรณีนี้การรักษาด้วยยา หรือการจี้ด้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูงสามารถทำให้หายเป็นปกติได้ 

             สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบความผิดปกติของหัวใจแล้ว ควรหลีก เลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ที่ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ขณะเดียวกันก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงยากระตุ้นบางชนิด ที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจ และถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อนรับประทานยาทุกครั้ง

              อย่าลืมสิ่งสำคัญอย่าประมาทคือเมื่อมีเหตุต้องสงสัยว่าเรากำลังผิดปกติในร่างกายให้รีบไปปรึกษาหมอในทันที  เราอาจจะเสียเวลาและเงินทองแต่เราก็ไม่ต้องเสียชีวิต ชีวิตซึ่งมีคุณค่ามหาศาลที่จะให้คงอยู่คู่ลูกหลานและได้ทำความดีอีกยาวนาน

 

  แหล่งอ้างอิงที่มา.....ข่าวไทยรัฐออนไลน์    18  มิถุนายน  2553

 

หมายเลขบันทึก: 367369เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2010 09:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน 2012 09:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท