ภาวะฝนแล้ง


หยุดทำนา!เพราะน้ำในเขื่อนมีน้อย (ทั้งชีวิตของพวกเขาประกอบอาชีพทำนา ปลูกข้าวปลูกผักมีรายได้หลักทางเดียว แต่ไม่เคยได้ยินการประกาศจากภาครัฐให้บริษัทนายทุนใหญ่ๆ หยุดประกอบกิจการหรือหยุดผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาแพงหรือหยุดขึ้นราคาปุ๋ยยาฮอร์โมน เพราะประชาชน (เกษตรกร) กำลังจะอดตาย)

เกษตรกรไทย ในปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะหนีพ้นปัญหา สภาวะฝนแล้งหรือแล้งซ้ำซากไปได้ ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยก็มีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากถึง 800,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เรามีความสามารถในการบริหารจัดการกักเก็บน้ำได้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือก็ปล่อยปละละเลยปล่อยลงทะเลไปจนหมด ทำให้ทุกๆปี ในฤดูแล้งและกันดารนี้จะมีข่าวเกษตรกรแย่งน้ำกันทำนาทำสวนเป็นประจำทุกปีไม่เปลี่ยนแปลง แม้แต่ในเขตพื้นที่ชลประทานก็ไม่แตกต่างกัน

                   เกษตรกรบางคนก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยใช้บ่อตอก (บ่อบาดาล, ปั๊มน้ำบาดาล) เพื่อสูบน้ำขึ้นมาทำนาปลูกข้าวประทังชีวิต เพราะไม่สามารถหยุดกิจกรรมการมีชีวิตที่ไม่ต้องกินต้องใช้ได้ เนื่องจากว่าภาครัฐมีประกาศนโยบายออกไปสั่งให้ชาวนา หยุดทำนา!เพราะน้ำในเขื่อนมีน้อย (ทั้งชีวิตของพวกเขาประกอบอาชีพทำนา ปลูกข้าวปลูกผักมีรายได้หลักทางเดียว แต่ไม่เคยได้ยินการประกาศจากภาครัฐให้บริษัทนายทุนใหญ่ๆ หยุดประกอบกิจการหรือหยุดผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาแพงหรือหยุดขึ้นราคาปุ๋ยยาฮอร์โมน เพราะประชาชน (เกษตรกร) กำลังจะอดตาย) เมื่อไม่มีน้ำแล้วประกาศให้เขาหยุดประกอบอาชีพ โดยที่ไม่เสนอทางเลือกว่าควรให้เขาประกอบอาชีพอะไรทดแทน คิดว่าก็น่าจะเป็นอะไรที่ดูหดหูและรันทดยิ่งนัก

                   เกษตรกรที่ยังไม่ท้อแท้สิ้นหวัง น่าจะลองหาวิธีช่วยเหลือตนเองโดยการคิดค้นหาวิธีการทำนาที่ไม่ต้องใช้น้ำมาก โดยใช้กลุ่มของสารอุ้มน้ำ (โพลิเมอร์ Polymer) ไม่ว่าจะเป็นชนิดละเอียด ชนิดหยาบ นำไปหว่านตอนลูบหรือคราดเทือกก่อนที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป สารอุ้มน้ำตัวนี้จะช่วยให้เมล็ดข้าวได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำได้อย่างยาวนานและเพียงพอต่อการงอกและเจริญเติบโต อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรชาวนา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วง จะได้มีแนวทางการปลูกข้าวโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมากได้อีกทางหนึ่ง สนใจข้อมูลหรือต้องการร่วมทำแปลงทดสอบกับชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทรติดต่อ 0-2986-1680-2 หรือ 08-1313-7559

มนตรี  บุญจรัส 

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 367353เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2010 08:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ที่ มหาสารคาม ตอนนี้ผักแพงมาก ผักชีจีน ก.ก. 300 ผักบุ้ง ก.ก. ละ 15 มะละกอ ก.ก. ละ 30 พริกสด ก.ก. ละ 100 อื่นๆ แพงมาก ใครปลูกคะน้าได้ 1 ไร่ จะมีเงินเป็นกอบเป็นกำ.........แวะมาทักทายครับ

ที่ มหาสารคาม ตอนนี้ผักแพงมาก ผักชีจีน ก.ก. 300 ผักบุ้ง ก.ก. ละ 15 มะละกอ ก.ก. ละ 30 พริกสด ก.ก. ละ 100 อื่นๆ แพงมาก ใครปลูกคะน้าได้ 1 ไร่ จะมีเงินเป็นกอบเป็นกำ.........แวะมาทักทายครับ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท