เป็นนักกฎหมายอย่างผม(อัยการ๑๖)คดีหกลังแม่โขง


ถ้ามีคนมาวิ่งหาอัยการจังหวัดขอร้องอย่าจ่ายสำนวนให้คุณทำ คุณอยากจะทำสำนวนนี้ไหมเมื่อมันมีเอกสารมากถึงหกลังแม่โขง

        ในชีวิตการเป็นอัยการของผม มีเรื่องราวที่สนุกกับการทำงานเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีการสู้คดีกันตั้งแต่ศาลชั้นต้นถึงศาลฎีกา เรียกได้ว่าจำเลยสู้ยิบตาและสู้ทุกเม็ด สิ่งที่ประทับใจคดีนี้ก็คือเป็นผมอาสาเข้าทำคดีนี้เอง ในขณะที่เพื่อนๆมักจะหนีเมื่อเห็นเอกสารจำนวนมาก เป็นคดีที่ผมอ่านเอกสารเองเพียงคนเดียว ๖ ลังแม่โขง เป็นคดีนี้ที่ว่ากันด้วยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงและมีความเห็นแตกต่างกันหลายระดับ แต่ในที่สุดอัยการสูงสุดเห็นเหมือนกับผม

        ผมเริ่มต้นคดีจากเย็นวันหนึ่งที่กลับมาจากการไปว่าความที่ศาล อัยการจังหวัดเรียกผมเข้าไปพบในห้องยิ้มๆแล้วบอกผมว่า คุณเห็นเอกสารนี้ไหม สำนวนนี้มาแปลก มีคนมาบอกผมว่า “ขออย่าจ่ายสำนวนให้คุณ คุณอยากทำไหม” ผมเห็นเอกสาร ๖ ลังแม่โขงแล้วก็ร้องอู้ฮูในใจแต่สะกิดใจที่มีคนมาวิ่งคดีขออย่าจ่ายสำนวนให้ผม ผมก็เลยบอกว่า “อยากทำครับ” ของอย่างนี้ชอบ.....อิอิ

        ผมเอาเอกสารมานั่งอ่านทีละปึกๆ อ่านจนหมด ได้ความว่าเป็นเรื่องของตระกูลที่มีความขัดแย้งกันระหว่างลุงกับหลาน(ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา)ในเรื่องราวของบริษัทของตระกูล ที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจและหลานอาสาเข้ามาดำเนินการเพื่อปิดบริษัท ในเบื้องต้นหลานกับลุงคนหนึ่งเข้าขากัน ทำให้ลุงอีกคนหนึ่งไม่พอใจ (หลานคนนี้เป็นลูกของน้องสาว ซึ่งมีกันสามคนพี่น้อง)ในระหว่างนั้นหลานก็เข้าไปจัดการในที่ทำเหมืองของตระกูลเนื้อที่หลายร้อยไร่ นำที่ดินไปออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วนำออกขายเพื่อนำมาเงินมาแบ่งกันและได้ทำสัญญากับผู้ซื้อแล้ว

        ปรากฏว่าพอตกลงขาย ผมจำไม่ได้ว่ากี่ร้อยล้านแต่น่าจะเป็นสามร้อยล้าน แล้วจู่ๆหลานก็ไปทำสัญญากับผู้ซื้อว่าเขาผิดสัญญาเอง ยอมยกเลิกสัญญา แล้วเอาที่ดินไปขายใหม่เหลือเพียงร้อยกว่าล้าน อ้าว....แถมการนำที่ดินไปออกหลักฐานมีการอ้างว่ายายยกที่ดินบางส่วนให้ลูกสาวแล้วลูกสาวยกให้ลูกอีกทอดหนึ่ง(หลาน) โดยมีหลักฐานว่ายายมอบอำนาจให้หลานไปดำเนินการขอออกหลักฐานและดำเนินการโอนสิทธินิติกรรมเองได้ ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ายายบอกว่าไม่เคยยกที่ดินให้ลูกและหลาน ทั้งเรื่องที่ดินก็ไม่ได้ยกให้ลูกสาว(แม่ของผู้ต้องหา)เพราะในเรื่องราวของคนจีน จะยกทรัพย์สมบัติของตระกูลให้ลูกชาย ส่วนลูกสาวเขาจะยกเงินทองของประดับให้ตั้งแต่ตอนแต่งงานแล้ว และเมื่อแต่งงานแล้วก็กลายเป็นคนของตระกูลอื่นไปจึงไม่ให้ทรัพย์สินใดอีก เอาละสิ.....

        เดิมลุงคนหนึ่งไปฟ้องหลานกับน้องชายในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ในศาล แต่ในระหว่างนั้นพี่น้องเขาคุยกันรู้เรื่อง ในที่สุดก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับหลานในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ที่พบว่ายังมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมจากคดีเก่า แล้วมาถอนฟ้องคดีที่ฟ้องกันเองโดยอ้างว่าจะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ในขณะที่อัยการยังไม่ได้สั่งฟ้อง การกล้าถอนฟ้องอย่างนั้นเหมือนกับชัวร์ป๊าดว่าอัยการต้องฟ้องแน่ เห็นไหมล่ะว่าคดีนี้มันสนุก...อิอิ  ผมมานึกได้ตอนที่สู้คดีกันใกล้จบแล้วว่า อ๋อ..ทำไมเขาจึงไปวิ่งคดีว่าอย่าจ่ายสำนวนให้ผม เพราะภรรยาของลุงคนหนึ่งเคยเป็นอาจารย์ในโรงเรียนที่ผมเคยเรียนสมัยมัธยม เพราะถ้าคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีก็จบแบบสบายๆ เอามาฟ้องใหม่ก็ไม่ได้เพราะเคยฟ้องมาแล้ว ถ้าสำนวนนี้อยู่ในมือผม อาจารย์มาขอผมก็ต้องมีความเห็นควรสั่งฟ้องอยู่แล้วทำนองนั้น(ทำไมคิดไม่ออกตั้งแต่แรกก็ไม่รู้ อิอิ)...หาว่าผมอคติว่างั้นเหอะ...แต่ในความเป็นจริงอาจารย์ท่านนั้นก็ไม่เคยสอนผม ไม่เคยมาเซ้าซี้ผม ท่านบอกเพียงว่าช่วยดูเรื่องนี้ให้เป็นธรรมหน่อยแค่นั้น และตั้งแต่เริ่มคดีจนจบคดีผมก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นจากอาจารย์หรือครอบครัวอาจารย์เลยแม้แต่น้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ต้องหาเขาอคติกับผม เพราะผมทำคดีตรงไปตรงมาทุกคดี แต่...ผมมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีไหน ผมก็ต้องเชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่าสามารถลงโทษผู้ต้องหาได้ หากลงโทษผู้ต้องหาไม่ได้ผมจะเสนอความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เพราะฉะนั้นคดีของผมจึงไม่ค่อยแพ้...

        ผมอ่านสำนวนจนเข้าใจรูปเรื่องทั้งหมดแล้ว เขียนความเห็นยาวหลายหน้าวิเคราะห์ข้อหาต่างๆอย่างละเอียด วิเคราะห์ข้อกฎหมายในความผิดฐานยักยอกว่าคดียังไม่ขาดอายุความ ความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ของผู้ชำระบัญชี สรุปก็คือผมมีความเห็นควรสั่งฟ้องทุกข้อหา แถมด้วยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จและใช้เอกสารราชการเท็จดังกล่าวเพิ่มเข้าไปอีก ผู้ต้องหารู้ไต๋...เขาก็เลยยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยังอธิบดีอัยการเขตเพื่อเบรกเกมผม เพราะระเบียบงานคดีสมัยนั้นพอร้องขอความเป็นธรรมปุ๊บก็ต้องส่งสำนวนไปให้อธิบดีตรวจ ไม่เหมือนสมัยนี้แม้ร้องขอความเป็นธรรมแต่หากมีคำสั่งฟ้องแล้วก็จบ แต่ถ้ามีการร้องขอความเป็นธรรมและจะมีคำสั่งไม่ฟ้องบางข้อหาหรือทุกข้อหาต้องส่งสำนวนไปให้อธิบดีฯเป็นผู้สั่ง

        ปรากฏว่าได้ผลครับพี่น้อง อธิบดีมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาเพราะคดีขาดอายุความหมดแล้ว ข้อหาที่ผมเสนอให้มีการแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาเพิ่มเติมก็สั่งให้ยุติเพราะผู้เสียหายเขาไม่ได้มีความประสงค์จะดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ไม่ต้องไปยุ่งว่างั้นเหอะ (ทั้งๆที่ระเบียบงานคดีเขาบอกว่าให้อัยการพิจารณาสำนวนด้วยความรอบคอบให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกความผิดที่ตรวจพบ อิอิ) แล้วส่งสำนวนกลับมาให้อัยการจังหวัดมีคำสั่งใหม่

        อัยการจังหวัดก็ต้องมีคำสั่งตามที่อธิบดีเขตสั่งเอาไว้ แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ เพราะเมื่อมีคำสั่งไม่ฟ้องก็ต้องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ความเห็นชอบ ผู้ว่าฯเกิดเห็นชอบกับความเห็นผม เว้นแต่ความผิดเกี่ยวกับการแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการและใช้เอกสารดังกล่าว เพราะอธิบดีสั่งยุติการดำเนินคดีผู้ว่าจึงไม่มีอำนาจทำความเห็นแย้ง เรื่องกำลังมันแต่ปวดหลังครับพี่น้อง รอตอนต่อไปก็แล้วกันนะ จุ๊บๆ

       

หมายเลขบันทึก: 367351เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2010 08:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีท่านอัยการชาวเกาะครับ

แวะมาอ่านและมาเยี่ยมครับ...

สวัสดีครับคุณ Phornphon

ขอบคุณที่แวะมาทักทาย ผมมาขอบคุณครั้งหนึ่งแล้ว แต่นำขึ้นบันทึกไม่ได้เน็ตหลุดพอดี เมื่อวานก็เข้าไปตอบบันทึกเกี่ยวกับข้อความดีๆในบันทึกของคุณ แต่พอโพสต์ข้อความเน็ตก็หลุดเหมือนกันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเน็ตในภูเก็ตมีปัญหาหรือเปล่า คราวนี้คิดว่าน่าจะสำเร็จนะ อิอิ

อัยการมีฝีมือนั้นพอเห็นอยู่ แต่อัยการที่มีทั้งฝีมือและคุณธรรมเห็นได้น้อย ดีใจแทนตัวเองที่มักคุ้นกับอัยการชาวเกาะที่มีทั้งฝีมือและคุณธรรม

สวัสดีค่ะ ท่านอัยการ

แวะมาเยี่ยมคารวะ ด้วยความระลึกถึงค่ะ

รออ่านตอนต่อไป...กำลังสนุก  แต่เรื่องราวดูยุ่งจังเลยค่ะ

อย่ามัวเพลินกับงาน...จนลืมสุขภาพนะคะ

โชคดีมีความสุขค่ะ

 

 

  • สวัสดีครับ
  • อิอิ รอตอนต่อไปครับผม

ต้องขออภัยทุกท่าน เน็ตที่บ้านล่มครับเนื่องจากมีไฟดับอยู่สองสามครั้งทำเอาค่าต่างๆที่เซ็ทไว้มันปั่นป่วนครับ ลูกชายเพิ่งมาแก้ไขให้เมื่อคืนครับ

ขอบคุณครูหยุยที่มาชม แต่ผมไม่ใช่ผ้าขาวบริสุทธิ์หรอกครับ ผมทำงานตามหน้าที่ซึ่งมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ลูกน้องก็ไม่ใช่จะชอบซะด้วยเพราะขอไม่ค่อยให้ อิอิ ผมรังเกียจเรื่องการวิ่งเต้นคดีครับ

ขอบคุณน้องมีนา ที่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ตอนนี้มีเรื่องเดียวคือปวดหลังนั่งพิมพ์นานๆไม่ได้ ขอให้น้องมีสุขภาพแข็งแรงเช่นกันครับ

สวัสดีน้องมะเดี่ยว ความจริงเขียนเสร็จแต่โพสต์ไม่ได้เลยต้องให้รอ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท