บ่นระบาย : ศึกษา เรียนรู้ เพื่อการเป็นมืออาชีพในงานของตนรับผิดชอบ รึ?


คำถามว่า การเป็นมืออาชีพในงานประจำ จะทำเช่นใด ?

 

ผมก็ตอบแบบความคิดเห็นส่วนตัว เลยว่า....

 

ต้อง และต้อง และต้อง ศึกษา และศึกษา อ่านและอ่าน อ่านสิบรอบยี่สิบรอบ หรือมากกว่านั้น จนจำได้ทุกวรรค ทุกคำ ลองผิดลองถูก ครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งแล้วครั้งเหล่า จนไม่รู้จะอ่าน จะศึกษาอะไรอีกแล้ว จนมีคำตอบให้กะคนที่มาศึกษาทีหลังทุกคำตอบ ทุกสถานการณ์ นี้หล่ะผม เรียกว่า การเริ่มเป็น มืออาชีพ ในงานประจำ

 

วันหนึ่งคุณได้รับมอบหมายงานใหม่ งานนี้งานหน้าเดียว

 

ถามว่า .... คุณจะเริ่มอย่างไร ? โดยมีโจทย์ว่า คุณต้องทำให้คนในองค์กร เข้าใจในงานใหม่งานนี้เหมือนกัน...

 

หมกมุ่น กะมัน เปิดมัน คลิ๊กมันให้ทุกเมนู หาปัญหา และหาทางแก้ไข ยี่สิบ สามรอบ หรือมากกว่านั้น จนกลายเป็นมืออาชีพ

 

และก็สามารถแนะนำคนอื่นได้ ตอบปัญหาได้ทุกคำตอบ จากประสบการณ์ลองผิดลองถูก

 

ถ้าคุณไม่ทำเช่นนี้ คุณก็จะเรียกร้องความช่วยเหลือจากคนอื่นที่คุณไม่รู้จัก คนที่สร้างงานใหม่งานนั้น ให้มาทำหน้าที่แทนคุณ ทั้งๆงานนี้เป็นงานของคุณ และไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย ถ้าตั้งใจจะลอง เรียนรู้ ลองผิดลองถูก ทั้งๆที่มีเวลาเหลือเฟือ แล้วเมื่อไหร่ คุณจะเป็นมืออาชีพ

 

หรือให้ใครซักคนที่ไม่ได้รับผิดชอบงานนี้ที่คุณรับมอบหมาย คันไม้คันมือ ต้องเปลืองตัวลงมาทำแทนคุณ แบบไม่ได้ตั้งใจจะก้าวก่ายอะไร เพียงเขาคนนั้นอยากจะบอกว่า เรื่องนี้มันขี้หมา ถ้าตั้งใจจริงที่จะทำมัน สุดท้ายคือคุณไม่ได้อินท์กับสิ่งที่คุณได้รับมอบหมาย

 

คำถาม ? ทำไมหล่ะต้องให้ใครอื่น มาช่วยบอก ช่วยเล่างานของเรา แทนเรา

 

แล้วคุณจะอยู่ไปทำไม เมื่อไม่ตั้งใจเป็นมืออาชีพในงานที่ได้รับมอบหมาย คุณค่าของคุณอยู่ที่ไหน ฝีมือมีรึเปล่า ฝีมืออาจจะมี แต่ไม่ใส่ใจ และไม่ตั้งใจทำอะไรเลย

 

หรือเราจะเป็นแค่ผู้จัดการในงานของเรา ไม่อยากรู้ลึก รู้ซึ้ง ขออยู่ไปวันๆ รอให้คนอื่นนอกองค์กร มาเล่างานของเราให้คนในองค์กรของเราฟัง แล้วคุณจะอยู่ไปทำไม

 

ทำไมหล่ะ เราไม่ทำเอง ไม่เล่าเอง ไม่แนะนำเอง

 

คำตอบผม คือ ถ้าราไม่ได้คิดจะเรียนรู้ และศึกษางานของเราที่ได้รับมอบหมาย แล้วตั้งใจทำแบบมืออาชีพ

 

คำถามต่อ คือ แล้วเราจะอยู่ในองค์กรนี้ไปทำไม อยู่แบบไม่มืออาชีพ แบบไม่รู้เนื้องานของตัวเอง

 

คำตอบผม คือ พิจารณาตัวเอง ไปหาที่ชอบที่ชอบที่คิดว่าดีกว่า อย่าเป็นตัวถ่วงขององค์กร bye & good luck

(ผมตอบเลยได้ว่าไม่มีองค์กรใดจะรับคนอย่างคุณได้แน่ เพราะแค่งานเล็กๆ ที่คุณได้รับมอบหมาย คุณยังไม่คิดจะทำเองเลย ประวัติมันจะบอกเอง)

 

ระยะเวลาพิสูจน์ม้า กาลเวลาก็พิสูจน์คนเหมือนกัน แต่ถ้าคนอยู่ไปวันๆ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีเป้าหมายในสิ่งที่รับผิดชอบ

 

ถามแล้วถามอีก ว่าถึงไหน อย่างไร ก็ไม่มีคำตอบก็คงต้องบอกว่า ต้องพิจารณาตัวเองซะ มีอีกหลายคนที่รอจ่อคิวมาทำงาน ที่ดีกว่าคุณอีกมาย

 

คนน่ารัก เค้าจะถามว่า เอ้ จะเริ่มยังงัย จะต้องไปศึกษาอะไรก่อน แล้วจะทำอย่างต่อ และจะเป็นยังงัยต่อ

และเค้าจะไม่ปฏิเสธในคำแนะนำ

 

คนที่ต้องไป คือ คนที่บอกว่า ทำไม่ได้ ไม่กล้า ไม่มั่นใจ บอกแต่ว่าให้คนข้างนอกมาบอกแทนเราดีกว่า

 

บันทึกนี้ผมบันทึกไว้เข้าใจผู้เดียวในความรู้สึก หลายคนอ่านแล้ว คงงงๆ แค่อยากให้ใครบางคน อ่านแล้วฉุดคิด และปรับเปลี่ยน แต่ตั้งใจ ... แต่ก็เถอะ...”คงยาก” จากที่เห็นแล้วผ่านเวลาอันนานพอสมควร

เพราะนี้แน่คือคำตอบสุดท้ายของผม สำหรับโอกาส ไม่มีอีกแล้ว คงเจอแบบว่า เมื่อชาติต้องกาำร

 

ผมคนพูดจริง และพูดตรง จากใจจริง ... เพื่อพัฒนา มมส. ที่ผมรัก

หมายเลขบันทึก: 365844เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2010 20:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

มาให้กำลังใจน้องชาย JJ ครับ ชีวิต ต้องหาที่ชอบที่ชอบครับ

เรียน ท่านอาจารย์จิตเจริญ

ขอบคุณครับ

ให้โอกาสแล้ว ไม่ทำโอกาสที่ให้ไว้ ก็ต้องบอกว่า ไปหาที่ชอบที่ชอบครับ

ต้อง AAR เจ้าของ

แจ๊ค

น้องชายท่านJJ ตรงไปตรงมาแบบนี้ชัดเจนค่ะ

ขอบคุณค่ะ

บางทีก็ต้องเชิญคนข้างนอกมาเพราะเค้าเป็นต้นตำหรับของเค้า

เพราะเรายังไม่รู้สิ่งที่เค้าสร้างขึ้นและไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าสร้างขึ้นอย่างถ่องแท้

สวัสดีครับ krutoiting

ผมพูดตรงไปตรงมา ทั้งต่อหน้า ก็พูด และก็ลับหลังก็พูดอย่างที่พูดต่อหน้า

และยังหาช่องทางที่จะสื่อสารถึงใครบางคน ก็ทำแล้วทำอีก

ผมทำถึงขนาดนี้ แล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ก็คงกับท่านอาจารย์ผม ท่านอาจารย์จิตเจริญ JJ

คนๆนั้นต้อง พิจารณาเจ้าของเพื่อ ไป หาที่ชอบที่ชอบแล้วครับ

ขอบคุณครับ

แจ๊ค

สวัสดีครับ "คนคนหนึ่ง"

ผมว่าเวลาทุกคน ไม่ว่าอาชีพไหน ตำแหน่งไหน อายุเท่าไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่นั้น

ทุกคนมีเวลาต่อวันเท่าๆกัน โดยเฉพาะเวลาทำงาน แค่ 7 ชั่วโมง

แต่ก็หลายคนที่ใช้เวลาทำงาน มากกว่า 7 ชั่วโมง ทั้งทีำเงินเดือนเท่ากัน หรือ ตำแหน่งเท่ากัน

การเรียนรู้ การลองผิดลองถูก ผมว่าทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่เราเองก็ไม่ได้เป็นคนสร้างระบบขึ้นมาเอง

คำว่่า ถ่องแท้ ผมว่าไม่อาจจำเป็น แต่ว่า ทำแล้วให้ได้งานออก และเ้ข้าใจ เห็นใจกัน เดินไปเส้นทางแห่งการพัฒนาด้วยกัน ด้วยความตกลงที่ร่วมกัน

อะไรเราทำเองได้ ผมเอง คิดว่าเราน่าจะทำ ใครมีประสบการณ์กว่า หรือ เรียนมากกว่าเรา ก็ให้เขา เล่าให้เราฟัง ไม่อาย แต่ยอมรับความคิดเห็นของทุกคน

บริบทใคร ความเป็นไปของใคร ปัญหาภายใน เป้าหมายร่วมกัน ผมว่าไม่มีใครที่จะรู้ดีไปกว่าคนในองค์กรของเราหรอกครับ

แม้เราจะทำไม่ดีีอย่างต้นฉบับ (ซึ่งเราก็ไม่รู้ถ้าต้นฉบับ หรือ คนนอกมาเล่าสู่กันฟังจะดีไปทุกอย่าง) แต่ถ้าคนในของเรารู้ความตั้งใจที่เราทำ เขาก็จะเข้าใจ เดินก้าวไปร่วมกัน เพื่อกู่สร้างสรรค์ มมส. เราต่อไป ผิดๆ้บ้าง ไม่รู้บ้าง ก็ต้องแชร์กันไป

ว่ามั้ย มันไม่น่าอายเลย เพราะเราไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่เรารู้ว่าสิ่งที่ต้นสังกัดเขาทำมาเพื่ออะไร วัตถุส่งค์

ขอบคุณครับที่แสดงความคิดเห็น

ร่วมกู่สร้างสรรค์ พัฒนา

แวะมาร่วมความคิดเห็นกันบ่อยๆนะครับ

แจ๊ค มมส

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท