สัปดาห์ที่ผ่านมา ไปขึ้รถไฟ ได้ยินเสียง "Attention please" สถานรถไฟที่เคยมีขาเข้า และขาออก เงียบกริบ ไม่มีให้เห็นสักคน
สองวันที่ผ่านมาไปประชุมที่โรงแรมในกรุงเทพ อาหารเช้า กลางวัน นักท่องเที่ยวที่เคยเห็นเพียบ
แต่เสาร์อาทิตย์ ที่ 5-6มิถุนายน 2553 นี้ ไม่มีให้เห็นสักคน โอออออ...บ้านของเรา ประเทศของเรา.... เป็นถึงขนาดนี้เชียวหรือ
หันมาดูการศึกษาก็เศร้า ประชุมอบรมสัมมนาแบบแม่ไก่ ลูกไก่ กลุ่มเล็กๆ รู้กันลึกๆ มีแผนหลัก แผนปฎิบัติการประจำปี ระดับกรม ระดับเขต จังหวัดในอดี วันนี้ดูเหมือนจะหายไป มีกิจกรรมที่ผู้เข้าประชุมห้าร้อยคน พันคน สามพันคนให้เห็นบ่อยๆ ลงเวลามาครบทุกวัน ลงแล้วจะไปไหนก็ได้ ติดงานก็ได้ เพราะ การประชุมจากหน่วยเหนือ ไม่มีแผนแต่ต้น คิดจะทำอะไรตามใจชอบ ไม่แจ้ง ไม่บอกล่วงหน้าไว้เป็นเดือน คุณภาพการประชุมทางการศึกษาจึงหาไม่ค่อยเจอ
ประชุมแบ่งกลุ่มคนสามพันคนใช้เวลา75 นาที ก็เห็นมาแล้ว แล้วคุณภาพจะไปถึงโรงเรียนหรือไม่ ไปถึงเด็ก ถึงครู หรือไม่ เด็กในวันนี้ในวันข้างหน้า จะเผ้าบ้านเผาเมืองอีกไหมหนอ... เมื่อวันที่ 6 เช้า มีการเผาอาคารเรียน โดยนักเรียนคนหนึ่ง ก็น่าจะมาจากตัวอย่างของผู้ใหญ่ ที่มีคุณภาพน้อยยกกำลัง??ใช่ไหม
ขอบันทึกความเศร้าไว้ ณ ที่นี้หน่อยนะครับ
เรียนท่านอาจารย์ชัด
ความรู้สึกของคนไทยหลายๆคนก็คงไม่ต่างกันหรอกค่ะ ดิฉันเองเป็นแค่เศษดินเล็กๆก็พยายามจนสุดความสามารถ ทำอะไรได้ก็ทำ ถ้าพอมีเวลาก็ออกไปให้ความรู้ตามโรงเรียน โดยแฝงแง่คิดเล็กๆไว้ด้วย เพราะเด็กสมัยนี้ ไม่เหมือนตอนที่ดิฉันเป็นด็ก วันนี้มีโอกาสออกไปเยี่ยมบ้าน ซึ่งอยู่บ้านนอก เค๊ามีบุญบั้งไฟ มีกลุ่มวัยรุ่น ม.1 - ม.4 ตั้งวงดื่มเบียร์และร้องคาราโอเกะ เห็นแล้วหดหู่มากค่ะ ทนดูไม่ได้ ต้องรีบกลับ