My Skin & My life (2)... ความจริงปรากฎ

โรคหนังแข็ง ชนิด linear morphea มี 1 ในแสนคน ไม่ทราบสาเหตุของการเกิด

D-Day วันที่ 6 พค. 2553 ก็มาถึง วันนี้ได้กำลังใจจากสามีและลูกสาวที่มาร่วมรับฟังดัว

12.30 น. หมอนัด ซึ่งปรากฎว่า หมอนัดมาทั้งหมด 4 ราย เรามาถึงเป็นรายที่ 3 พยาบาลผู้น่ารักก็พาขึ้นไปรอหน้าห้องประชุมเล็กที่ชั้น 4

13.00 น. ลงมารอคิวตัดไหมที่แผลที่โดนตัดชิ้นเนื้อ ก็เจ็บนิดๆ เหมือนมดกัด

13.30 น. กลับขึ้นมารอที่ชั้น 4 เหมือนเดิม คราวนี้ มีหลายคนมานั่งด้วย case แรก เป็นคุณป้า case ที่ 2 เป็นคุณลุง case ที่ 3 คือ ดิฉันเองค่ะ case ที่ 4 เป็นเด็กชาย ก็นั่งคุย อ่านหนังสือรอไปเรื่อยๆ จน.....

15.00 น. ไชโย คุณพยาบาลเรียกแล้ว  ก็เข้ากันไปทั้งครอบครัว ห้องใหญ่นั้นแบ่งเป็นส่วนที่ใช้เรียน และมุมประชุม  โดยเราต้องไปนั่งที่เก้าอี้ หน้าห้องเรียน ส่วน family ก็ให้นั่งในส่วนประชุม พอนั่งปุ๊บ มองไปก็เห็นคุณหมอ / แพทย์ Resident ไม่แน่ใจว่า เรียกถูกหรือไม่ มีประมาณ 10 กว่าคน มารุมดูที่หลัง มือ เล็บ เท้า และมีอาจารย์หมออีก 1 ท่าน  หมอๆก็ถามว่า เป็นมานานรึยัง มีอาการอย่างอื่นอีกมั๊ย ปวดตามข้อหรือไม่ กลืนน้ำลายลำบากมั๊ย ตรวจสุขภาพประจำปีหรือไม่ เป็นอย่างไร  มีปัญหาเรื่องไตมั๊ย  ซึ่งก็ได้ตอบโดยรวมว่า ยังไม่มีอาการผิดปกติใด การปวดข้อก็มีนิ้ว หรือ แขนบ้าง หากพิมพ์งานหนัก ส่วนตรวจสุขภาพก็มิได้ตรวจมาสัก 4 ปีแล้ว (เฮ้อ รู้สึกแย่จัง)  พอคุณหมอดูกันประมาณ 10 นาที ก็ให้ออกไปรอข้างนอก ซึ่งก็รอไม่นาน.... จน......

15.30 น. ก็ได้เข้าไปพร้อมกันในส่วนประชุม ก็ได้พบคุณหมอคนสวยอีกท่านหนึ่ง คุณหมอบอกว่า ตกลงคือ เป็น โรคหนังแข็ง(scleroderma) แต่เป็นชนิด Morphea   มี 1 ในแสนคน  ส่วนใหญ่เกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ที่อายุ 40 - 50 ปี ไม่ทราบสาเหตุว่า เกิดจากอะไร  โอ๊ย! อะไรจะแจ็คพอทขนาดนี้  แต่สิ่งที่โชคดีคือ ยังเป็นแบบภายนอก( Linear Morphea) มีอาการที่ผิวหนังด้านนอก มิใช่ systemic scleroderma คือ ลามไปถึงระบบอวัยวะภายใน เช่น ไต  เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังแข็งและนำไปสู่ไตวายได้ โรคนี้น่าจะพอรักษาหายได้ภายใน 2-5 ปี  ( สาธุ ขอให้เป็นจริงเถิด)   คุณหมอได้ให้กำลังใจว่า ก็ยังดีกว่า เป็น SLE หรือ มะเร็ง นะ และที่สำคัญ ไม่เป็นพันธุกรรม (ลูกสาวดีใจสุดขีด เราเองก็โล่งใจ) 

 

Source:http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/7/71/MercMorphea.JPG/436px-MercMorphea.JPG

คุณหมอได้ให้ยามาทาทั้งหมด 3 อย่างคือ1.P-TOCORT ทาตรงรอยดำ   2.   Betamethasone ทาขอบแดง และ 3. 10% Urea cream, 30 GM #2 SBOX ทาบำรุงผิวแห้ง บ่อยๆ  แล้วนัดอีก 1 เดือน ประมาณ ต้นเดือนมิถุนายน

 

สำหรับการใช้ชีวิตก็ตามปกติ ทานอาหารได้ทุกอย่าง ออกกำลังเพื่อรักษาสุขภาพ และหลีกเลี่ยงแดด  ประเด็นยากของเราก็คงเป็นเรื่องแดด และการทายา เพราะต้องเอื้อมทาด้านหลังด้วยโดยส่วนใหญ่จะอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตามวันนี้ มีความสุขอย่างหนึ่งคือ ได้เป็นกรณีศึกษาให้คุณหมอด้วย  นอกจากนี้ก็ได้ไปทำการบริจาคร่างกาย

 

ค่าเสียหาย: ค่าหมอ 50 บาท ค่ายา ( 220 )   บาท  ค่าตัดไหม  70 บาท รวมแล้วประมาณ 340 บาทจ้า