ย้อนรอยอดีต...โยนกเชียงแสน


ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙  พงศาวรดารโยนกกล่าวไว้ว่าได้เกิดชุมชนนครโคมคำ
เมืองโยนกนาคนครเชียงแสน และอาณาจักรล้านนาไทยขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง
แม่น้ำกก แม่น้ำอิง แม่น้ำปิง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ตั้งแต่สิบสองปันนาลงมา
จนถึงเมืองหริภุญชัยนั้น ได้มีเจ้าครองนครสำคัญคือ พญาสิงหนวัติ พระเจ้าพังคราช พระเจ้าพรหมมหาราช และพญามังราย (ครองราชย์ที่เมืองเงินยาง ราว พ.ศ. ๑๘๐๔)

      

     พญาสิงหนวัติ สถาปนาเมืองโยนกนาคพันธุสิงหนวัติ ขึ้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง  
ดินแดนที่ราบในเมืองเชียงราย เมื่อ พ.ศ. ๑๑๑๗  โดยทำการแย่งชิงที่ดิน
จากพวกขอมดำ หรือกล๋อม ที่มีอิทธิพลอยู่ในแถบนั้น ทำให้ต้องพากันหนี
ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ทางใต้  บริเวณถ้ำอุโมงค์เสรานครครั้งนั้น  พญาสิงหนวัติ
ได้รวบรวมเอาพวกมิลักขุ หรือคนป่าคนดอย เข้ามาอยู่ในอำนาจของเมืองโยนก
นาคนคร  ทำให้มีอาณาเขตทิศเหนือติดเมืองน่าน  ทิศใต้จรดปากน้ำโพ  
ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำดำในอ่าวตังเกี๋ย  ทิศตะวันตกจรดแม่น้สาละวิน  
โดยมีเมืองสำคัญ คือ เมืองไชยปราการ บริเวณแม่น้ำฝางและแม่น้ำกก  
ดินแดนใต้สุดคือเมืองกำแพงเพชร

         

       อาณาจักรโยนกนาคนครแห่งนี้มีพระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์
เช่นพระเจ้าพังคราช   พระเจ้าพรหมมหาราช    พระเจ้าไชยศิริ  
ต่อมาในสมัยพระเจ้ามหาชัยชนะ พ.ศ.๑๕๕๒ อาณาจักรโยนกนาคนคร
ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน  เนื่องมาจากผนังกั้นน้ำ หรือเขื่อนเหนือน้ำพังทลายลง  
ทำให้ที่ตั้งของเมืองกลายเป็นแหล่งน้ำใหญ่ (เวียงหนองหล่ม) เป็นเหตุให้
บรรดาราชวงศ์กษัตริย์และขุนนางของโยนกนาคนครเสียชีวิตทั้งหมด
ด้วยเหตุน้ำท่วมเมืองในครั้งนั้น  ชาวบ้านที่รอดชีวิตได้ประชุมปรึกษา
เลือกตั้งคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมิใช่เชื้อสายราชวงศ์ขึ้นดูแลพวกตน
เรียกว่าขุนแต่งเมือง จึงเป็นเหตุของชื่อ "เวียงปรึกษา"ขึ้น
ต่อมาอีก ๙๘  ปี  อาณาจักรโยนกนาคนครจึงสิ้นสุดลง

        

           ..................เวียงหนองหล่ม.....................

      ต่อมาพญามังราย ผู้สืบเชื้อสายจากเมืองเงินยางเชียงแสน  
ได้ทรงรวบรวมดินแดนที่กระจัดกระจายให้เป็นปีกแผ่นขึ้นมาใหม่  
และสร้างเมืองเชียงรายเมื่อ พ.ศ. ๑๘๐๕  ครั้งนั้นพระองค์ทรงยกทัพ
เข้ายึดอาณาจักรหริภุญชัยจากพวกมอญ เชื้อสายของพระนางจามเทวีได้
ใน พ.ศ. ๑๘๓๕  แล้วตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นเรียกว่า อาณาจักรล้านนา  
โดยระยะแรกมีเวียงกุมกามเป็นราชธานี  แต่เวียงกุมกามเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง  
จึงปรึกษากับพระสหาย คือพญางำเมือง(พะเยา แคว้นอิสระแคว้นเดียว
ในขณะนั้น และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (กษัตริย์สุโขทัย)  
เพื่อหาชัยภูมิที่ดีเหมาะแก่การสร้างเมือง  จึงพบกับที่เหมาะสมข้างแม่น้ำปิง
และได้สร้างเมืองชื่อ "นพบุรีศรีนครพิงเชียงใหม่"

        

      ...........................เวียงกุมกาม.........................

หมายเลขบันทึก: 364241เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2010 20:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ไม่เคยไปเที่ยวที่นี่ เลยค่ะ แต่คิดว่าต้องสวยมากเลย อยากไปจัง

ื่ั

หวังว่าอนาคตอันใกล้นี้จะได้ไป จะพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน

htank for a good history

จากบันทึกเคยไปแต่ที่เวียงกุมกามค่ะ ที่อื่นยังไม่เคยไปเลย

สวัสดีค่ะน้องมดตะนอย

เชียงแสนเป็นเมืองเก่าหลายยุคสมัยค่ะ เข้าประตูเมืองมาแล้วจะรู้สึกถึงความร่มรื่น กรุ่นด้วยบรรยากาศโบราณๆ มีวัดวาอารามเก่าแก่เรียงรายอยู่ทั่วเมือง เดินดูทั้งวันก็ยังไม่จบค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง Baby

ถ้ามีโอกาสก็ขึ้นมาแวะชมโยนกนาคนครนะคะ มี unseen ให้ดูอีกหลายแห่งค่ะ

เมืองเชียงแสนนี้เก่าแก่มากเลยนะคะ

ชอบเรียนมากคะ

เชียงรายเคยไปมาหลายครั้งค่ะ โดยเฉพาะเชียงแสน-พระธาตุจอมกิตติ-เวียงกุมกาม ความรู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้าน ไปทุกปีตั้งแต่ปี51 แต่ปี59นี่ยังไม่ได้ไปแต่คิดว่าต้นปี60ต้องได้ไปแน่ๆค่ะ
ปีแรกที่ไป เคยไปขอขมากรรมที่พระธาตุจอมกิตติในขณะที่กล่าวขอขมาด้วยความสำนึกผิดที่เราได้จากที่นี่ไป อยู่ดีๆก็ร้องไห้ออกมา พยายามที่จะหยุดร้องค่ะแต่มันหยุดไม่ได้เลยยิ่งจะหยุดก็ยิ่งร้อง คงเป็นสัญญากรรมเก่าเนอะ

ทำงาน/เคยอยู่ในเวียงเก่า 2 ปี พ.ศ.2531-2533 เปลี่ยนไปมาก ไม่เคยลืมเชียงแสน 

ตอบคุณนกน้อย

เคยได้ยินแบบนี้บ่อยค่ะ คงเป็นเพราะอดีตชาติ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท