๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ใน Facebook ระบุว่าเป็นวันเกิดของลูกศิษย์ของผมคนหนึ่ง ผมพบว่า นิสิตท่านนี้ได้ตามอ่านงานของผมให้กำลังใจผมในการเขียน blog เสมอมา ผมได้เข้าไปอวยพรวันเกิดนิสิตท่านนั้นและพบว่านิสิตท่านนั้นได้หลบหายไปจากสาระบบ หวังว่าคำอวยพรผม และความปรารถนาของผมที่จะเห็นนิสิตท่านนนั้นรับปริญญาบัตรคงไม่ได้ไปทำร้ายจิตใจนิสิตท่านนั้น...
ครูไม่ได้เขียนจดหมายหาใครมานาน สำนวนการเขียนอาจจะไม่ดีนัก แต่สิ่งที่ครูมีอย่างเดียวและให้กับบรรดานิสิต โดยเฉพาะกับคนที่ครูเรียกว่าลูกศิษย์เสมอมา คือความหวังดีและปรารถนาดีครับ ในสายตาครู เธอเป็อคนใช้ได้ทีเดียวและมีศักยภาพพอที่จะเอามาแปลเป็นประโยชน์ได้มาก ครู ไม่ทราบว่าปัญหาที่แท้จริงของเธอคืออะไร ทราบคร่าวๆจากเพื่อนรอบข้างและตัวเธอเองบางส่วนว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่สิ่งที่ครูจะบอกคือ ครูอยากเห็นเธอเรียนจบครับ ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อ "ตัวของเธอ"เอง
ครูจำตอนที่เธอทำรายงานได้ และตอนที่เธอออกมารายงานหน้าชั้นได้ดี เธอยังปอดๆ และประหม่าแต่ก็ถือว่าเธอทำออกมาได้ดีพอตัวทีเดียวสำหรับการค้นหาข้อมูลด้วยตัวเธอเอง และออกมารายงานขนาดนั้น ครูจำแววตากระหาย สนใจใคร่รูในตัวเธอได้ดี และครูดีใจมากที่ครูมีลูกศิย์อย่างเธอ ครูได้แต่หวังว่าวันหนึ่งครูจะเห็นลูกศิษย์ที่ครูรักคนนี้เดินไปถึงฝั่งอีกฟากของแม่น้ำ ในชีวิตเรามีแม่น้ำต้องข้ามหลายสาย เราต้องเริ่มข้ามมันให้พ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเราเอง และเป็นเครื่องสร้างความมั่นใจว่าเรามีศักยภาพครับ สิ่งที่ครูอยากบอกเธอเสมอมาคือ "ครูเชื่อในศักยภาพของเธอครับ" ครูก็ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่หมดกำลังใจกับการเรียนเสียก่อน
จริงอยู่ปริญญาบัตรไม่ใช่เครื่องวัดคุณค่าของคน เพราะหลายคนได้ชื่อว่าเรียนจบมาสูง แต่ทำตัวต่ำอย่างหน้าใจหาย ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่เห็นในบ้านเมืองเราก็มีอยู่ แต่ครูอยากบอกว่าสำหรับเธอ ครูคิดว่าปริญญาใบนี้เป็นมากกว่าใบรับรองความรู้ แต่มันคือหลักฐานว่า เธอทำได้ เธอมีศักยภาพพอที่จะทำ และจัดการกับชีวิตได้ดีมากพอสมกับที่จะถูกเรียกว่า "บัณฑิต"
สุดท้ายนี้ครูขออำนวยพรให้ลูกศิษ์ครู โชคดีประสบความสำเร็จในทุกสิ่งดีๆ ที่เธอทำ เพื่อตัวเธอเอง และเพื่อให้เธอมาเป็นกำลังสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ของพวกเราต่อไป
รักและปรารถนาดี
ไม่มีความเห็น