Sakura Trip 2010: ตอนที่ ๕ เที่ยววันแรก ๑ เมษายน (๑) เริ่มใช้ JR Pass


เช้าวันที่ ๑ เมษายน สายการบินแจแปนแอร์ไลน์พาเราลงสนามบินนาริตะอย่างราบรื่น แม้ว่ากว่าห้าชั่วโมงที่ออกจากสุวรรณภูมิค่อนดึกและการนั่งในชั้นประหยัดจะทำให้เมื่อยไปหมด นอนก็ไม่หลับดี

ทำให้คิดได้ว่าอายุปูนเราต้องการการนอนและพื้นที่ยืดแข้งขายามนอนพอประมาณ(จะนั่งชั้นธุรกิจก็เสียดายเงินค่ะ) หากเดินทางออกจากเมืองไทยเช้า ไปถึงญี่ปุ่นราวหกโมงเย็นจะดีกว่า เพื่อให้ไม่รู้สึกว่านอนไม่พอ เพราะกลางวันไม่ใช่เวลานอนอยู่แล้ว ได้นอนพักหลับสบายคืนแรกที่มาถึง รุ่งเช้าจะมีความสดชื่นมากกว่า

เราวางแผยว่าจะเริ่มใช้ JR Pass ตั้งแต่วันแรกเลย และไปสิ้นสุดเอาวันที่ ๗ เมษายน ลงเครื่องรับกระเป๋าก็ไปที่ JR Ticket Office ที่สนามบินนาริตะ

ทำการแลกใบสั่งซื้อที่ถือมาจากเมืองไทย

 

ออกเป็นบัตรแข็ง

 

ในการนี้เขาต้องดูการประทับตราวีซ่ารับรองการเข้าเมืองเป็นสำคัญ ไปคณะเดียวกันก็เขียนคำร้องของสี่คนได้ในใบเดียวกันเลย แต่เขาจะออกบัตร JR Pass แยกสำหรับแต่ละคน ระบุวันเริ่มใช้และวันสิ้นสุดชัดเจน

 

ออกบัตรเสร็จ เจ้าหน้าที่ถามว่าเราจะไปไหน เราบอกว่าจะไป Fujisawa นึกว่าเธอถามเฉยๆ ปรากฎว่าเธอทำตั๋วที่นั่งให้เสร็จสำหรับขบวนรถเที่ยวที่จะมาถึง ได้นั่ง JR Narita Express หรือ JR NEX จาก Terminal 2 ผ่านโตเกียวไปลง Yokohama และเปลี่ยนไปนั่งอีกขบวนที่จะจอดสถานี Fujisawa คือรถหลายขบวนรวมทั้งชินคันเซ็นไม่ได้จอดทุกสถานี

ในขบวน JRNex กาแฟและอาหารเช้าซื้อกันบนรถไฟ กระติกน้ำร้อนพี่สาวและผู้เขียนเตรียมไปจากเมืองไทยคนละอัน ทั้งตู้แทบจะมีแต่พวกเรา

Fujisawa เหมือนสถานีเมืองเล็ก JR Nex ไม่จอดและชินคันเซ็นก็ไม่จอดที่สถานีนี้

ผู้ร่วมคณะอีกสามคนแม้จะเคยมาญี่ปุ่น(เมื่อ ๑๐-๓๐ ปีมาแล้ว) ก็ตื่นเต้นกับสถานีรถไฟและรถไฟญี่ปุ่นมาก สถานีก็ใหญ่โต ผู้คนมากมาย รถแต่ละขบวนก็รูปทรงทันสมัยไฮเทค ขนาดรถไฟที่เป็นขบวนธรรมดาหรือวิ่งในท้องถิ่นเป็น Local Train และ Rapid Train ก็ยังดูดี๊ดีเหลือเกิน สีสันสดใส สะอาดสะอ้านทั้งภายในและภายนอก

 

เราอัพเกรดตั๋วJR Pass ตลอดเจ็ดวันเป็นชั้นหนึ่งหรือ Green Car เพิ่มเงินอีก 3500 บาท

Green Car เป็นตู้ที่หากนั่งขบวนที่เป็นชินคันเซ็นที่นั่งจะกว้างขวางสบาย หรูหราราวที่นั่งชั้นธุรกิจบนเครื่องบิน หรือแม้นว่าเป็นแค่ขบวน Limited Express ที่นั่งก็ยังหรูมาก

Green Car จะมีรูปใบโคลเวอร์สีเขียวที่ตู้นั้นๆ และถึงจะมี JR Pass Green Car ก็ควรทำตั๋วจองที่นั่งเขาจะมีตู้ที่เป็น Reserved Seats หากไม่ทำจองต้องไปนั่งตู้ที่เป็น Non-reserved Seats ซึ่งอาจจะมีปัญหาได้หากเป็นช่วงที่คนเดินทางมาก สู้ทำจองที่นั่งให้เรียบร้อยสบายใจดีกว่า เขาไม่ได้คิดเงินค่าจองที่นั่งเพิ่มซักหน่อย

ตัวอย่างตั๋วจองที่นั่ง ขบวนนี้เราจะได้นั่งชินคันเซ็นชื่อ Max Tanigawa ซึ่งมีสองชั้น เราได้นั่งชั้นบนด้วย

 

ตั๋ว JR Pass ที่เราใช้สามารถใช้กับรถไฟ JR ได้ทุกชนิด ทุกสาย เป็นวิธีการที่คุ้มค่ามาก คนญี่ปุ่นยังอิจฉา เพราะJR Pass นี้เขาให้ใช้ได้เฉพาะนักท่องเที่ยว

บัตรนี้ยกเว้น JR สาย Sanyo ขบวน Nozomi หากขึ้นแล้วต้องเสียเงินเองเต็มๆเลย เป็นขบวนที่ทันสมัยที่สุด วิ่งเร็วกว่าชินคันเซ็นของบริษัทJRอื่นๆ

ถึงFujisawa เราจะพักที่บ้านญาติ ๓ คืน เธอมารับที่สถานีรถไฟ ทานอาหารกลางวันกันที่ร้านในสถานีนั่นแหละ

อิ่มแล้วนั่งแท็กซี่ไปอพาร์ทเมนต์ใช้เวลาสิบนาที เก็บข้าวเก็บของ นั่งคุยกันสักพักแล้วก็ออกไปเที่ยวกันเลย วันนี้เที่ยวใกล้ๆ มีเวลาสามสี่ชั่วโมงก่อนค่ำ ไปเมือง Kamakura ซึ่งอยู่ห่าง Fujisawa ไปแค่ไม่กี่สถานี

หมายเลขบันทึก: 362475เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2010 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • พี่นุชเจ้า..

เอาต้อมยัดใส่กระเป๋าไปด้วย ^^  อิอิ   เห็นบันทึกพี่นุช  รีบตีตั๋วจองแถวหน้าค่ะ  

ตามน้องต้อมมาติดๆๆ กลัวไม่ทัน เห็นอาหารน่ากิน หิวข้าว สมัยก่อนๆๆได้ข่าวว่าเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งไวที่สุดในโลกคู่แข่งกับ เตเจเว ของฝรั่งเศส

  • พี่นุชเจ้า..

ต้อมอุตส่าห์ไม่พาดพิงถึงเรื่อง "อาหารญี่ปุ่น" แล้วนะเจ้า ^^  พี่ขจิต โจ บา เอ พาแวะเข้าไปจนได้   ต้อมว่า..ความเห็นส่วนตัวนะคะ   อาหารญี่ปุ่นดูเรียบง่าย  สะอาด สวยงาม   อย่างละนิด  อย่างละหน่อย  กระจุ๋มกระจิ๋ม  จืดชืด ไม่เหมาะกับปากท้องต้อมแน่ๆ    แต่ก็อยากทาน อิอิ  ^^  เสพศิลป์..อร่อยไม่อร่อยค่อยว่ากันอีกที

แต่ต้อมชอบอะไรที่เป็นญี่ปุ่นอยู่อย่างหนึ่งเท่าที่จะนึกออก  นั่นคือ "ความใส่ใจ"

 

ป.ล. เกิดมาไม่เคยนั่งรถไฟเลย   ยิ่งรถแบบนี้คงไม่มีโอกาส  อิอิ

ชอบนั่งรถไฟค่ะ ยิ่งเห็นรถไฟญี่ปุ่นแล้วหน้าตาน่ารักเหมือนรถไฟในสวนสนุกเลยนะคะ ;)

เคยไปทานอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อนๆ แต่ลิ้นปูไม่ถึงแน่ๆ ต้องขอพริกขี้หนู มะนาว เพิ่ม อิ อิ

เมื่อวานได้ชมรายการท่องแดนน้ำพุ วิวงามๆ แล้วชอบจังเลยค่ะ รอชมสาวๆ กะซากุระนะคะ

ตามมาเที่ยวค่ะ แต่ถ้าจะให้ยัดลงกระเป๋าเหมือนน้องต้อมเนปาลี...คงไม่ได้...อิอิ

แบบว่า มวลต่างกันมาก

เอาเป็นว่าจะรอตามจากบันทึกฉบับหน้านะคะ

สวัสดีเจ้าคุณต้อมเนปาลีตีตั๋วแถวหน้าเลยนะคะ ขอบคุณที่รีบมาให้กำลังใจคนเล่าเรื่องค่ะ

พี่ว่าอาหารญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับอาหารไทยแล้วของไทยต้องมีรสชาติมากกว่าอยู่แล้ว แต่จะเป็นความเข้าใจผิดว่าอาหารญี่ปุ่นจืดชืด เพราะอาหารญี่ปุ่นมีหลากหลายและมีรสชาติแบบญี่ปุ่นคือเน้นที่ความสด รสชาติแท้ๆของอาหารนั้น และเขาก็มีเครื่องปรุงรสที่ทำให้เผ็ดร้อนขึ้นได้ เช่น วาซาบิ ซอสพริก ผงพริกผสมเครื่องเทศ พี่ว่าอร่อยดีค่ะ พี่ไปญี่ปุ่นจึงชอบทานอาหารพื้นๆเช่นอาหารเส้นๆทั้งหลาย น้ำซุปหวานกลมกล่อม ซดเกลี้ยงชามเลยค่ะ

ยังมีอาหารอีกหลากหลายที่จะนำเสนอ ทั้งคาวและหวาน โปรดติดตาม...^____^

อีกหน่อยก็ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ได้ข่าวว่าเวียดนามกำลังทำโครงการรถไฟความเร็วสูงอิ อิ คนไทยก็ไปนั่งเป็นของแปลกใหม่ได้ เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องไปนั่งรถไฟฟ้าที่สิงคโปร์กว่าเราจะมีรถไฟฟ้าใช้เองเกือบสิบปีให้หลัง อืม...ไม่ได้ว่าใครนะคะเนี่ย

พี่นุชครับ

บันทึกนี้คือบางส่วนในหนังสือทำมือเล่มนั้นใช่ไหมครับ...

ผมเคยมีโอกาสไปเมืองนอกเมืองนามานิดหน่อย

คิดแล้วอยากเขกหัวตัวเองสักโป๊ก ที่ไม่ยอมบันทึกไว้

...

พรุ่งนี้ผมจะไปดอยมูเซอครับ

de'Musoi ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว

เสร็จสรรพเมื่อไรจะส่งเทียบเชิญพี่นุชให้มาเยือน จะเตรียมกาแฟอร่อย ๆ พร้อมกับอาหารเมนูพิเศษไว้ต้อนรับครับ

สงสารคนหิวข้าวขจิต ฝอยทอง ^____^

รถไฟในชาติที่เจริญแล้วทั้งหลายเขาแข่งกับตัวเองและแข่งระหว่างกันเพื่อให้รถไฟเป็นพาหนะที่สำคัญนะคะอาจารย์ขจิต อย่างเตเจเวของฝรั่งเศสนั้นเมืองต่างๆก็อยากให้เมืองของตัวมีสถานีรถไฟที่เตเจเวไปจอดเพราะหมายถึงการกลายเป็นเมืองสำคัญที่ใครๆเข้าถึงได้ง่าย และหากเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงแค่แค่ชั่วโมงสองชั่วโมงคนก็อยากนั่งรถไฟเพราะไม่ต้องเสียเวลาไปสนามบินและผ่านกระบวนการต่างๆ นี่เพื่อนฝรั่งบอกมาค่ะ

ญี่ปุ่นนั้นขณะนี้ก็กำลังขยายเส้นทางที่ชินคันเซ็นจะวิ่งไปถึง แม้ว่าบางเมืองใหญ่เช่น คานาซาว่า ซึ่งยังไม่มีชินคันเซ็น แต่เขาก็มีรถไฟ Super Express ที่เขาแสนภูมิใจ สวยงาม รวดเร็วสะดวกสบาย

เมื่อไม่กี่วันนี้เองเพิ่งเห็นคลิปการทดลองรถไฟรุ่นใหม่ของฝรั่งเศส เร็วกว่าห้าร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟความเร็วสูงวิ่งระหว่างเมืองใหญ่และระหว่างประเทศในยุโรปของแต่ละประเทศเช่นของ ฝรั่งเศส เยอรมัน และเบลเยี่ยม รถเท่มากเลยค่ะ

ของไทยเราไม่ต้องไปอยากเท่ตามเอาแค่บริการให้ ปลอดภัย สะอาด ตรงเวลาพี่ก็อยากใช้บริการค่ะ

น้องปูจ๋าpoo ต้องตามไปดูรถไฟไปเมืองคาวากูชิโกะเมื่อทริปใบไม้แดงของพี่ รถเป็นการ์ตูนเลยค่ะ หน้าตารถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นเท่มาก และการที่เขามีหลายบริษัท รถไฟจะมีรูปร่างหน้าตาแปลกๆให้ชมด้วยค่ะ แถมตั้งชื่อที่หากแปลแล้วก็จะเท่สุดยอดจะยกตัวอย่างมาให้ฟังก็จำไม่ได้เสียแล้ว อิ อิ สว.ความจำสั้นเวลาต้องการจำต้องจดไว้นะคะ

รายการท่องแคว้นแดนน้ำพุพี่ก็ชอบดูค่ะ ยิ่งตอนมื้ออาหารแหมสวยงามจริงๆ ยังไม่เคยไปพักหรูๆอย่างนั้นสักทีค่ะ ที่พักแบบนั้นเขามักรวมค่าที่พัก ค่าอาหารเช้า อาหารเย็นไว้ ตกคนละหมื่นกว่าบาทขึ้นไปเชียวค่ะ

ฮ่า ฮ่า ถูกใจน้องตุ่นสิริพร ทิวะสิงห์ tuk-a-toon บอกว่ามวลต่างกัน ที่จริงคนช่างเที่ยวไป กินไปนี่พี่ชอบมั่กๆ เหมาะชวนเป็นเพื่อนร่วมทางเพราะพี่คิดว่าการได้ลิ้มชิมรสอาหารในแต่ละถิ่นที่เราไปเป็นการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญ

สวัสดีค่ะคุณพ่อน้องเฌวาหนานเกียรติ ขอบคุณค่ะที่เตรียมต้อนรับกัน ไปแน่ๆ คุยกับคุณเอกแล้วยิ่งเห็นความตั้งใจที่คุณหนานเกียรติกำลังทำเพื่อท้องถิ่น ชุมชน น่าชื่นชมและได้แรงสนับสนุนจากเหล่ากัลยาณมิตร

หนังสือทำมือชุดเที่ยวญี่ปุ่น พี่ทำเสร็จไปเล่มหนึ่งแล้วค่ะเป็นการไปชมใบไม้แดงเมื่อปี51 ตอนที่กำลังเขียนนี่คือการเรียบเรียงข้อมูลเพื่อทำเล่มที่สอง เป็นตอนไปชมซากุระบานค่ะ โอย สงสัยจะยาวนานกว่าจะเสร็จ ทำเสร็จจะมอบให้หนึ่งเล่มค่ะ^___^

สมัยช่วงที่พี่กำลังเรียนป.เอกได้เดินทางค่อนข้างมาก เพราะไปประชุมไปเสนองานวิชาการเมืองต่างๆ หลายประเทศ บางที่ก็แปลกๆไม่ใช่ที่ที่คนไทยไปเที่ยว แต่ตอนนั้นใจมันพะวงกับงานที่ทำ ต้องคิดอะไรๆเยอะ ไม่ได้เก็บภาพเก็บเรื่องเขียนเลยค่ะ ไม่เหมือนพอจบแล้ว และที่สำคัญการลาออกจากงานแล้ว ได้ไปเที่ยวแบบเที่ยวเองใจมันปลอดโปร่ง อีกประการก็คือ กล้องดิจิตัลนี่ทำให้การแชร์ภาพทำง่ายกว่ากล้องฟิล์มมากเลยค่ะ

  • พี่นุชเจ้า..

มานั่งรอตอนที่ 2 ค่ะ ^^  อีกนานไหมคะ?

เอาเข้าจริงๆ ต้อมว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย   มีอาหารรสชาติที่มีรสชาติหลากหลายได้ทานครบทุกรส..    ไม่หนักไปทางจืดชืด หรือเผ็ดร้อนอย่างอาหารประจำชาติที่มีในบางประเทศ

อิอิ  จริงๆ แล้วเข้ามาชมเจ้า JR  แต่ไพล่ไปพูดถึงเรื่องอาหารกันซะงั้นเนอะ  ^^

ตอนที่สองไม่นานค่ะคุณต้อมเนปาลี 
เพราะที่จริงเที่ยววันแรก มีสองตอน เขียนไว้แล้ว เลือกรูปไว้แล้วแต่เพิ่งจะเอาลง

ตอนต่อจากนี้สิคะนาาาาาานแน่ เพราะเดือนมิถุนายนนี้จะต้องเขียนหนังสือเกี่ยวกับค่ายเบาหวาน ใช้ยาใจ ไม่ใช้ยากินให้เสร็จ

ตอนสองได้อ่านวันนี้เลยค่ะ ^____^

  • พี่นุชเจ้า..

ได้อ่านตอนที่ 2 แล้วนะคะ  ^^  ดอกซากุระดูบอบบางแสนสวยงามค่ะ  

ว่าแต่.. ขอ "ยาใจ" สักสองแผง  จะเอามาทานหลังอาหารเช้าค่ะ  ^^  อิอิ  แซว..แซว..

ขอบคุณค่ะคุณต้อมเนปาลี

ยาใจ แค่สองแผงคงไม่พอ อิ อิ ต้องให้เป็นตะกร้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท