เรื่องที่ 2/24
เข้าโรงพยาบาลตามสิทธิฯดีกว่า.......จะได้ไม่ต้องจ่ายเอง
คุณเอก เป็นชาวสวนจังหวัดระยอง ไม่ชอบทำสวนจึงสมัครใจทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ในอีสเทอร์นซีบอร์ด ขณะทำงานมีอาการเจ็บหน้าอก หน้ามืด เป็นลมเพื่อนร่วมงานนำส่ง รพ.”ข” เป็น รพ.ประจำอำเภอของรัฐ แพทย์วินิจฉัยว่าเป้นหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องขยายหลอดเลือดและใส่ขดลวด คุณเอก เกรงว่า รพ.”ข” จะให้การรักษาไม่ได้มาตรฐานจึงขอย้ายไปรักษาต่อที่ ณ รพ.”ค” ในวันเดียวกัน โดยไม่มีการแจ้ง รพ.”ก” ซึ่งเป็น รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯ หลังการรักษาคุณเอก นำใบเสร็จรับเงินไปเบิกกับสำนักงานประกันสังคม
คณะกรรมการการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคม พิจารณาจากเวชระเบียนของ รพ.”ข” แล้ว เห้นว่า มีการบันทึกเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ ว่าเต้นเร็วผิดจังหวะ อาการแรกรับมีเจ็บหน้าอก เหงื่อออก ตัวเย็น รู้สึกตัวดี ความดันโลหิต 80/50 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 124 ครั้ง/นาที หายใน 32 ครั้ง/นาที ซึ่งสัญญาณชีพปกติคือ ความดันโลหิต 110/70-130/90 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 70-80 ครั้ง/นาที หายใน 16-24 ครั้ง/นาที จำเป็นต้องได้รับการรักษาในทันที ถือเป็นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานประกันสังคม ส่วนการเข้ารับการรักษาที่ รพ. “ค” อาการทางคลินิกที่ปรากฏในเวชระเบียน สัญญาณชีพปกติ จึงไม่ถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ คุณเอก สามารถไปรับการรักษาที่รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯหรือแจ้ง รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯ ให้ดำเนินการ เรื่องการรักษาพยาบาลต่อไปได้ ดังนั้น การเข้ารักษาที่ รพ.อื่น ซึ่งไม่ใช่รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯ จึงไม่ใช่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้
การที่คุณไม่เชื่อมั่นแพทย์ ประสงค์ขอย้ายไปรักษาที่สถานพยาบาลอื่นเองและไม่ใช่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน คุณก็ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเองค่ะ ทางที่ดี คุณเอก ควรจะแจ้ง รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯ ให้ทราบเรื่องการเจ็บป่วยให้เร็วที่สุด คุณเอก จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเอง
ข้อคิดจากผู้เขียน
สำหรับผู้ประกันตน—หากไม่ได้เข้ารพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯ ควรแจ้ง รพ.ที่กำลังรักษาถึงความต้องการในการใช้สิทธิการรักษาพยาบาลของตนเองค่ะ เพื่อให้ รพ.มีการประสานงานในการรับรองค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุดค่ะ
สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล---การบันทึกเวชระเบียนสำคัญมากนะคะ ใช้เป็นหลักฐานเพื่อพิจารณาการต่างๆได้ค่ะและข้อสำคัญใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายด้วยค่ะ
ขอขอบคุณ--กลุ่มงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม
ไม่มีความเห็น