อาจารย์ ดร. สนอง วรอุไร ตอบปัญหา สนทนาธรรม


ให้ใช้จิตตามดูร่างกาย ว่าดำเนินไปตามกฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา)

 ฝึกสมาธิอยู่ที่บ้าน แล้วจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียง ไม่มีความรู้สึกทางกาย นั่นแสดงว่าจิตได้เข้าถึงสมาธิสูงสุด หรือเรียกว่าเป็นสมาธิระดับฌาน ซึ่งมีผลทำให้เกิดความสุขที่ละเอียดประณีต (ฌานสุข) สมาธิระดับนี้ไม่สามารถนำมาใช้ฝึกจิตให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งได้ ส่วนเรื่องการนำจิตออกจากฌาน แล้วเกิดเป็นความกลัว ถือเป็นเรื่องปกติของคนไม่รู้จริง

   วิธีแก้ปัญหาความหลงและความกลัว ต้องถอยจิตให้ออกมาตั้งมั่นเป็นสมาธิจวนแน่วแน่ (อุปจารสมาธิ) จิตจึงจะรับสิ่งกระทบที่อยู่รอบตัวได้ เมื่อใดปรากฏส่วนของร่างกายเกิดขึ้นในจิต ให้ใช้จิตตามดูร่างกาย ว่าดำเนินไปตามกฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา) เมื่อใดที่จิตเห็นกายเป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตนแท้จริง) จิตจะปล่อยวางร่างกาย จิตเป็นอิสระจากร่างกาย ปัญญาเห็นแจ้งในกายจึงเกิดขึ้น

   หากเวทนา (สุข,ทุกข์,ไม่สุขไม่ทุกข์) ปรากฏขึ้นกับจิต ต้องใช้จิตตามดูเวทนา จนเห็นว่าเวทนาเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนแท้จริง ปัญญาเห็นแจ้งในเวทนาจึงเกิดขึ้น

   เช่นเดียวกัน หากจิตที่รับสิ่งกระทบเข้าปรุงอารมณ์ดับไป (อนัตตา) ปัญญาเห็นแจ้งในจิตย่อมเกิดขึ้น และสุดท้ายหากธรรมที่เข้ากระทบจิตดำเนินไปตามกฎไตรลักษณ์ ปัญญาเห็นแจ้งในธรรมย่อมเกิดขึ้น การพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ตามกฎไตรลักษณ์ เรียกว่า พิจารณาสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นหนทางทำให้จิตเกิดปัญญาเห็นแจ้ง ซึ่งอริยบุคคลทุกคนต้องมีปฏิปทาตามแนวทางนี้

คำสำคัญ (Tags): #ขอบคุณ http:www.kanlayanatam.com
หมายเลขบันทึก: 360823เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2010 13:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม 2013 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อ่านแล้วอยากปฏิบัติคะ แต่อารมณ์ยังปรุงแต่งด้วยกิเลส
ทุกวันนี้ก็พยายามรู้เท่าทันอารมณ์ของตนอยู่ทุกขณะจิตคะ

แต่ยังไปไม่ถึงไหนเลยนะคะ

...ขอบคุณ ที่เผยแผ่ธรรมแล้วทำให้อยากปฎิบัติ

...เช่นกัน ผู้เขียนก็ยากต่อการตามจิต ฝึกดูจิต

...อาจารย์ท่านสอนว่าต้องใช้ศีลคุมเป็นนิจ และฝึกอยู่กับปัจจุบันขณะ ทุกเมื่อ ก็จะเข้าถึงธรรม

มาแสดงความยินดีกับความก้าวหน้าในการปฏิบัตินะครับ

...

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บันทึกครับ
ดีใจมาก ๆ ครับที่สนใจเรื่องราวในบันทึก
พยายามจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้านแถบนี้มาแบ่งปันอีกเรื่อย 

...ขอบคุณครับ หนานเกียรติ

ชอบวิถีชีวิต ซื่อๆ ไม่ซับซ้อน ครับ

...อยากจะเรียนทุกท่านว่า บันทึกนี้ ผู้บันทึกได้คัดลอกมาจากการสนทนาธรรมในเว็บ กัลยาณธรรม หาเป็นการปฎิบัติของผู้บันทึกไม่ ผู้บันทึกได้แต่ฝึกในขึ้นสงบจิต ตามดูจิต ในขั้นต้นๆของสมาธิเท่านั้น ยังไม่ถึงระดับญาณ

   ผมเองที่ไปปฎิบัติธรรมมาที่เสถียรธรรมสถาน  

   กาย   วาจา  สงบขึ้น  สำรวมขึ้น 

   แต่ใจยังฟุ้งซ่านเหมือนเดิมครับ  เพียงแต่ว่าเห็น "จิต" ได้ชัดเจนขึ้น

   ทุกครังที่นั่งสมาธิ หริอ เดินจงกรม   จิตมันไม่สงบหรอกครับ

   ผมชอบแม่ชีท่านหนึ่ง ท่านพูดตอนนั่งสมาธิ ท่านบอกว่า  พยายามทำใจให้เบิกบาน ไม่ขุ่นมัว แต่ถ้าใจขุ่นมัว ก็ไม่เป็นไร  ให้รู้ว่าใจขุ่นมัว

    ตอนผมนั่งสมาธิ หรือ เดินจงกรม   ใจผมมันวุ่นๆยังไรบอกไม่ถูก  จะว่าเบิกบานก็ไม่ใช่    จะว่าขุ่นมัวก็ไม่เชิง   แต่รู้ว่ามันวุ่น

    ยากจังเลยครับ ที่จะให้ใจมันสงบ 

ได้รู้จักท่านครั้งแรกเพราะได้อ่านหนังสือ ทางสายเอก ที่ท่านเขียน อ่านแล้วรู้สึกชอบมากเลยคะอ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนคะ และตอนนี้ก็พยายามฝึกตัวเองอยู่คะ ไม่ค่อยมีสมาธิเลยคะ แต่ก็กำลังพยายามอยู่คะ

ขอให้ท่านเจริญในธรรมของพระพุทธเจ้าครับ

ขอบคุณที่อ่านบันทึกแล้วให้ใจใฝ่ธรรม

ผมชอบฟังท่านอาจารย์สนองครับ ฟังท่านบ่อย จากเน็ทนี่แหละครับ ท่านเล่าธรรมจากการปฏิบัติจริงของท่านเอง ฟังแล้วพยายามทำตาม แต่ก็ไม่ค่อยจะได้อะไรเท่าใด เพียงแต่ชอบทำเรื่อยๆ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท