Brain Map คุณสมบัติพิเศษของการจำด้วย "การใช้แผนที่ความคิด"


เปลียบเทียบความแตกต่าง ระหว่าง "การจำด้วยวิธีใช้แผนที่ความคิด" กับ "การจำด้วยวิธีธรรมดา"

สวัสดีครับ ความจำนั้นมีความสำคัญไฉน ? ถ้าเราไปไหนแล้วแล้วกลับบ้านไม่ถูก เพราะจำไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้น ? ถ้าเราตั้งใจว่าจะออกไปซื้อของแต่พอไปถึงที่แล้วนึกไม่ออกว่าจะมาซื้ออะไร ? ถ้าเราเรียนอะไรก็แล้ว แต่ก็ลืมทันที เราก็เรียนแล้วไม่ได้อะไร ? ...

          ตกลงไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม จะอยู่อย่างไรก็ตาม จะทำงานใด ๆ ก็ตาม ล้วนแล้วจะต้องใช้ความจำทั้งสิ้น ความจำจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของทุก ๆ คน ทั้งในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการทำงานใช่หรือไม่ครับ ? ขอเชิญท่านอ่านในตอนต่อไปครับ ...

          เมื่อเรามั่นใจว่าความจำมีความสำคัญอย่างไรแล้ว ตอนนี้ถึงตองที่เราต้องคำนึงถึงว่า ทำอย่างไรเราสามารถจำได้โดยสะดวกในเรื่องที่เราต้องการจำ และเป็นการจำที่จำให้ได้นานด้วย ในที่นี้คือ

            1. จำแบบธรรมดา หรือจำแบบท่องจำ วิธีนี้ไม่ค่อยสะดวก และเป็นภาระในการเก็บความรู้ เพราะความรู้รั่วไหลได้ง่าย ลืมได้ง่าย ๆ จำได้ไม่ถาวร เป็นภาระในการจำมาก ต้องใช้เวลามากในการท่อง นับเป็นการจำอย่างที่เราใช้กันอยู่โดยทั่วไป

            2. จำโดยวิธีใช้ "แผนที่ความคิด (Brain Map)" มีข้อดีกว่า "จำด้วยวิธีธรรมดา" ดังนี้....

                 1) จำได้โดยไม่ต้องท่องจำ

                 2) เป็นการจำที่คงทนอยู่ในสมองได้มากกว่า อยู่ได้นานกว่า

                 3) เป็นความจำที่เรียงลำดับได้ เดินหน้าได้ ถอยหลังก็ได้โดยไม่สับสนสุดแล้วแต่เราจะใช้ความจำนั้นอย่างไร

                 4) เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว จะดึงเอาความจำออกมาใช้ได้ทันที่ ณ เวลาใด ๆ ได้ตามต้องการ อย่างอัตโนมัติในเวลานั้น ๆ

                  5) ในขณะที่ใช้ความจำนั้นอยู่ แม้มีสิ่งขัดขวางเข้ามาแทรก เมื่อเหตุการณ์ขัดจังหวะนั้นได้สิ้นสุดลง ก็สามารถเรียกความจำในส่วนที่เหลือออกมาใช้อย่างต่อเนื่องได้ทันที โดยไม่สดุดหยุดนิ่งขาดหายไปเฉย ๆ

                  6) เป็นความจำที่ท้าทายผู้จำ เป็นความจำที่ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีความสุข เป็นผลดีมาก ๆ ต่อการเสริมพลังการเรียนรู้ และช่วยสร้างผลงานอันเกิดจากการเรียนรู้ใหม่ ๆ อีกด้วย

                  7) เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดนอกกรอบ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เชิงบวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยผลิตไอเดียใหม่ ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ช่วยหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผลสูงขึ้น และช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางงานได้ด้วย

                  8) เป็นตัวช่วยในการเพิกถอนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ทางใจ เพื่อให้เอื้อต่อการดึงพลังศักยภาพที่แฝงอยู่ภายใน ได้ดียิ่งขึ้น ฯลฯ

                  จึงขอเรียนเชื้อเชิญมาแด่ทุก ๆ ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์ หรือมีข้อคิดเห็นที่หลากหลาย ได้โปอดช่วยส่งข้อคิดเห็น เพื่อจะได้รับฟังไว้ปรับปรุงบทความ อันเกิดจากประสบการณ์ของผู้เขียงนี้ ให้ได้รับการปรับปรุงบทความนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านได้มากยิ่งขึ้น ขอบคุณครับ 

หมายเลขบันทึก: 359916เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2010 21:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท