ธุรกิจ 4 ประเภทกับคนติดเถ้าภูเขาไฟ (2)

พูดความจริงครึ่งเดียวก็เหมือนโกหก

ธุรกิจขนส่ง

ธุรกิจขนส่งเป็นธุรกิจที่สองที่ออกฤทธิ์ให้เห็นไม่ต่างจากธุรกิจโรงแรม

ไม่ใช่แค่เรื่องหาที่นั่งรถไฟไม่ได้ แต่เป็นเรื่องกลไกตลาดที่ถูกเอามาใช้อย่างไม่น่าเชื่อ

ตอนแรกผมก็ไม่ได้เห็นอะไรมาก และคิดว่า ปัญหาสำคัญที่ผมจะต้องเจอคือปัญหาเรื่อง supply ตำ่กว่า demand ในเรื่องรถไฟ และการผละงานที่ฝรั่งเศสทำให้หาช่องทางการเดินทางไม่ค่อยได้

แต่พอลองหาทางเลือกที่ผมลืมไปสนิทคือทางเรือ จึงได้พบความจริงที่น่างงงวย

ปกติเรามีวิธีเดินทางออกจากอังกฤษ 4 วิธี

วิธีแรกคือ รถไฟ eurostar ที่ผมเล่าโดยละเอียดไปแล้ว

วิธีที่สองคือทางรถเมล์ ซึ่งผมไม่ได้เล่าโดยละเอียดแม้จะได้ลองไปหาทางจองตั๋วอยู่บ้าง

วิธีที่สามคือเครื่องบิน ซึ่งตอนนั้นถูกปิดตายใช้ไม่ได้

วิธีที่สี่ คือนั่งรถหรือรภไฟในอังกฤษไปที่ช่องแคบใดช่องแคบหนึ่งที่มีเรือข้ามฟากไปยุโรปได้ ที่รู้จักกันดีคือช่องแคบโดเวอร์ ที่มีเรือข้ามไปที่เมือง คาร์เล่ในฝรั่งเศส

มีคนแนะให้ผมลองนั่งเรือข้ามช่องแคบแล้วไปหารถ หรือรถไฟต่อไปปารีส หรือไม่ก็หารถไฟตรงไปโรมเลย ผมลองเข้าไปจองตั๋วทางอินเตอร์เน็ต ดีใจมากที่พบว่ายังมีให้จอง กำลังจะคลิก ก็พบว่า มันเป็นราคาสำหรับคนที่เอารถข้ามฟากด้วย เลยไปเปลี่ยนเป็นแบบไม่มีรถ (foot passenger)

ปรากฏว่า มันบอกว่าไม่มีตั๋ว เปลี่ยนไปเป็นแบบมีรถ มันก็บอกว่ามีตั๋ว ราคา 45 ปอนด์ ผมก็ไม่เข้าใจแต่ลงท้ายไม่ได้จอง เพราะคิดว่ายังไงก็คงหาที่ได้ แค่ที่ยืนคนเดียว (ไม่มีที่นั่งก็ว่าจะเอา) จะไปจริงๆค่อยซื้อก็คงได้

คืนนั้นก็ได้ดูข่าวชายคนหนึ่งเล่าว่า พยายามจะขึ้นเรือจากฝั่งคาร์เล่ มาที่โดเวอร์ แต่เขาไม่ให้ขึ้นเพราะไม่มีรถ ไม่รับ foot passenger ชายคนนั้นหัวแหลม เลยไปเดินที่ท่าเรือ ซื้อจักรยานเก่าๆมาคนนึง แล้วไปขอซื้อตั๋ว เพราะไม่ได้เป็น foot passenger แล้ว ก็เลยได้ตั๋ว แต่ถูกบังคับให้ขี่รถขึ้นเรือ เพื่อยืนยันว่า เดินทางโดยมีกระเป๋าสองใบ พร้อมรถจักรยานได้จริง

หลังจากนั้นก็มีข่าวคนอังกฤษบ่นว่า ค่าเรือข้ามฟาก ขึ้นราคาหน้าตาเฉยกว่าเท่าตัว

ทางบีบีซีไปสัมภาษณ์ผู้จัดการก็ได้ข้อมูลว่า เป็นธรรมดาเพราะต้องเพิ่มเที่ยว เพื่อบริการผู้โดยสาร ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เลยต้องเพิ่มราคา

เลยได้ความรู้ว่า พวกชอบอ้างเหตุผล มีคำอธิบายได้ทุกเรื่องทั้งที่เป็นคำอธิบายที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่ได้มีแต่ที่เมืองไทยเท่านั้น พวกฝรั่งที่เราเคยพากันเชื่อว่า เป็นคนมีเหตุมีผล ทำอะไรก็อยู่บนหลักการ ก็มั่วได้ไม่ใช่ย่อย

ผมเล่าให้หลายคนฟัง ปฏิกริยาแรกก็คือ เพิ่มค่าใช้จ่ายนะ่มันของแน่ แต่ก็เพิ่มรายได้ด้วย ทำไมไม่พูด

นั่นสิ คนที่จะเข้าข้างตัวเอง ก็ย่อมหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเอง และไม่เอาข้อเท็จจริงที่จะมาทำให้ข้ออ้างตัวเองลดนำ้หนักลงมาคำนึงถึง เป็นเรื่องธรรมดา

มิน่าเขาถึงว่า พูดความจริงครึ่งเดียวก็ไม่ต่างอะไรกับพูดเท็จ

ตอนนี้ก็เห็นมีเต็มไปหมด ไม่ว่าที่บ้านเรา หรือบ้านเขา

ขนาดมีหนังสือออกมาชื่อว่า the origin of political lyingกำลังขายดีที่อังกฤษ เพราะใกล้เลือกตั้งพอดี

เอะ ไปถึงเรื่องนี้ได้ไงนี่ จบก่อนดีกว่าสำหรับเรื่องการขนส่ง