ความสุขเกิดจากอะไร?


"ผมไดัเรียนรู้ว่า ความสุขจากการได้รักเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่งในโลกที่แท้แล้วก็เริ่มจากการรักและอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้าเราในขณะนั้นๆ"

เช้าวันอาทิตย์ (16 พ.ค.53) เปิดโทรทัศน์ดูรายการตอบปัญหาธรรมมะ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ท่านเห็นว่าความสุขเกิดจาก 3 ทาง

  1. สุขที่เกิดจากตัณหา ที่ต้องได้สิ่งที่อยู่ภายนอกตัวมาสนองจึงเกิดความสุข
  2. สุขที่เกิดจากฉันทะ ที่แต่ละคนสร้างขึ้นเองได้ เช่น อยากรู้ก็ฟัง ก็อ่าน ก็ทำ
  3. สุขที่เกิดโดยไม่ขึ้นกับตัณหาหรือฉันทะ ที่มีอยู่กับตัวทุกเวลา

หลังจากนั้นผมได้เปิด พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ของพระพรหมคุณาภรณ์ดู
พบว่าท่านให้ความหมายคำ สุข ว่า  ความสบาย, ความสำราญ, ความฉ่ำชื่นรื่นกายรื่นใจ
มี 2 คือ

  1. กายิกสุข สุขทางกาย
  2. เจตสิกสุข สุขทางใจ

อีกหมวดหนึ่ง มี 2 คือ

  1. สามิสสุข สุขอิงอามิส คือ อาศัยกามคุณ ผมตีความคำ กาม ในที่นี้ว่าไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องเพศ แต่เป็นเรื่องของความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ทุกอย่าง
  2. นิรามิสสุข สุขไม่อิงอามิส คือ สุขที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อวัตถุ

ผมก็เลยเข้าใจว่า นิรามิสสุข นี้แหละคือสุขที่เกิดจากทางที่ 3 ตามที่ท่านตอบคำถามในทีวี
เป็นสุขที่ไม่ขึ้นกับปัจจัยภายนอก มีอยู่ในตัวเราทุกเวลา
เป็นสุขทางใจอยู่ภายในจากความรู้สึกเป็นอิสระ

ผมพอจะเข้าใจและมีประสบการณ์กับความสุขภายในใจอย่างนี้อยู่บ้าง และเคยเขียนบันทึกลงในบล็อกแรงบันดาลใจนี้ มีตอนหนึ่งที่ผมประทับใจตนเองมาก

เรื่องมีอยู่ว่า ปลายปีที่แล้ว มีวันหนึ่งผมกลับมาถึงบ้าน แฟนกลับมาหลังจากผม เธอบอกว่าเอารูปครอบครัวไปอัดมา ให้มาดูด้วยกัน

พอดูหมดทุกรูป ผมอยากดูบางรูปซ้ำอีก ขณะเดียวกับที่เธอก็อยากดูบางรูปซ้ำเช่นกัน
ขณะทีผมกำลังยื่นมือออกไปจะแย่งพลิกอัลบั้มไปที่รูปที่ผมต้องการดูก่อน ตาผมสังเกตเห็นมือตนเองที่กำลังพุ่งออกไปนั้น ก็เลยหยุดมือที่ยื่นค้างอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ วางมือตนเองลงข้างตัว 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่ววินาทีนั้น ทำผมเกิดความรู้สึกดี รู้สึกมีความสุขที่เห็นอะไรบางอย่างในตนเอง ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคงไวกว่าที่เธอจะรู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรเกิดขึ้นในตัวผม แต่สำหรับผมทั้งมือและทุกอย่างของการเคลื่อนไหวมันเนิ่นช้า ชัดเจน เหมือนตื่นขึ้นจากหลับ  มันอาจเร็วกับเวลาภายนอกตามเข็มนาฬิกาที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแค่ชั่วเสี้ยววินาที  ในความเนิ่นนานของความรู้สึกภายในนั้น มัน(จู่โจม)มาพร้อมกับความสุขภายในที่ผมคงสัมผัสได้เฉพาะตนเอง

แล้วผมก็ร่วมดูรูปที่เธออยากดูซ้ำก่อน ฟังเธอพูดถึงรูปนั้นๆ ฟังอย่างเปิดใจฟังจริงๆ หูเปิด ตาเปิด จมูกเปิด รู้สึกประสาทสัมผัสมันเปิดออกหมด  ผมรู้สึกมีความสุขกับการที่ได้ใส่ใจฟังเธอ ทำให้ผมได้เข้าใจความหมายที่เธอมีต่อรูปนั้น ทำให้ได้เข้าใจว่าแต่ละรูปนั้นมีคุณค่า มีความหมายต่อเธอ และที่สำคัญต่อครอบครัวของเราอย่างไร

ทำให้ผมผู้มักหลงรักตัวเอง มักสนใจอยู่แต่เฉพาะเรื่องราวที่สนุกๆ มันๆ ของผมเอง ได้สัมผัสกับความสุขที่ได้ "อยู่กับคนอื่น" จริงๆ ด้วยใจขึ้นมาบ้าง

ทำให้ผมไดัเรียนรู้ว่า ความสุขจากการได้รักเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่งในโลกที่แท้แล้วก็เริ่มจากการรักและอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้าเราในขณะนั้นๆ นั่นเอง  Cry

ทำให้ผมได้เรียนรู้อีกครั้งว่า  "ความสุขภายในที่ลึกล้ำและได้มาฟรีๆ" นั้นมีจริงๆ

ยังมีอีกหลายเรื่องในชีวิตประจำวันที่ผมได้พบการความสุขเช่นนั้น เช่น

ความในใจของพ่อคนหนึ่งที่เริ่มรู้สึกว่าความสุขของตนอยู่ที่ไหน

สุขฟรีๆ มีจริงๆ (บันทึกจากการสอนเรื่องนี้แก่นักศึกษา)

สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
17 พ.ค. 2553

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 359264เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2010 09:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท