เมื่อตอนบ่ายของวันที่ (๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓) ระหว่างที่นั่งดูช่างก่ออิฐทำกระถางต้นไม้อยู่ก็เห็นมีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามา เห็นรถแล้วคุ้น ๆ เห็นหน้าคนขับยิ่งคุ้น ๆ อ้อ ช่างจากบริษัทเตาเผาศพ (บริษัททีมเทคแอนเอ็นจิเนียริ่ง) มานี่เอง
เขามาทำไมหว่า...?
จากนั้นเราก็เดินไปถามว่า เอ้า เป็นอย่างไร มาทำไมเหรอ...?
ผมมาเช็ดสลิงดึงประตูให้ครับ มาดูว่ามันมีปีนเกลียวกันบ้างหรือเปล่า
อื่ม...! เรื่องแค่นี้ต้องขับรถมาถึงเชียงใหม่เลยเหรอ (คิดในใจ) แต่ตอนนั้นก็พอรู้ว่า เขาคงจะมาทำงานที่ไหนสักแห่งที่เชียงใหม่ เขาเลยแวะเข้ามาดูให้
ทำไมเขาต้องเข้ามาดู ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ที่อยู่ใน Job Description ตามอนุกรมมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 ตามที่บริษัทเขากำหนดไว้ให้เข้ามาซ่อมบำรุง
การที่ใครสักคนหนึ่งจะทำอะไรเกินหน้าที่ที่ตนเองถูกสั่งมาจากบริษัทหรือนอกเหนือจากสิ่งที่ตนเองได้รับคำสั่งมานั้นเป็นสิ่งที่น่าคิด น่าถอดบทเรียนว่าทำไมเขาถึงทำ มีสิ่งชักจูงอะไรให้เขาทำอะไรดี ๆ ที่นอกเหนือจากหน้าที่เช่นนี้
เพราะหลาย ๆ ครั้งแค่ที่เราจะทำงานตามหน้าที่ที่ถูกสั่งมาให้ครบก็แทบแย่ เมื่อทำเสร็จแล้วก็อยากที่จะพัก แต่การที่ใครสักคนหนึ่งนำเวลาที่เขาสามารถพักได้มาดูแลลูกค้าเป็นพิเศษ มาดูแลซึ่งกันและกัน มาหาสู่กันด้วยความห่วงใย สิ่งนี้เป็นมิตรภาพที่หายากทางธุรกิจ
เราจึงได้นึกย้อนกลับไปถึงครั้งหนึ่งที่เราเคยไม่พอใจในเรื่องของคุณภาพสินค้าบางเรื่อง แต่ด้วยการบ้าน ๓ ข้อที่ท่านอาจารย์ให้ไว้ โดยเฉพาะข้อแรกว่า "ห้ามด่าใคร" เราก็ทบทวนพิจารณาคำพูด เปลี่ยนจากคำพูดที่รุนแรง หรือแม้กระทั่งคำพูดเหน็บแนมให้เจ็บช้ำน้ำใจ เป็นคำพูดที่ดี ๆ ให้กำลังใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคำพูดที่ให้อภัยซึ่งกันและกัน
และในวันนี้สิ่งที่เราให้อภัยกันนั้นซึ่งเมื่อก่อนเป็นเพียงนามธรรม แต่วันนี้กลับกลายเปลี่ยนแปลงมาเป็น "รูปธรรม" ซึ่งแสดงออกมาด้วยสิ่งที่เรียกว่า "ความห่วงใย"
ปีกว่าแล้วที่วันนั้นเรายืดอกบอกกับท่านอาจารย์ว่า "ผมขอตัดสินใจเลือกซื้อเตาเผาศพจากบริษัททีมเทคครับ ถ้ามีปัญหาหรือเกิดอะไรขึ้นมา ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"
เพราะวันนั้นมีคนมาเสนอราคา เสนอสินค้าแข่งกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเจ้าถิ่นในเชียงใหม่เอง จังหวัดใกล้เคียง และทีมเทคซึ่งมาจากกรุงเทพฯ
แต่จากการหาข้อมูล และความมั่นใจที่เคยได้รับมิตรภาพที่ดีจากทั้งประธานบริษัท ซึ่งก็คือคุณวีรศักดิ์ รวมถึงบุคลากร ช่างทุก ๆ คนที่ติดต่อ ตอนนั้นเรามั่นใจลึก ๆ ว่าบริษัทนี้แหละดีที่สุด แต่ตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกลึก ๆ ที่สัมผัสได้ แต่จับต้องไม่ได้
ซึ่งช่วงเวลาปีกว่า ๆ นี้ บริษัททีมเทคก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง บริษัทฯ เองได้แปรเปลี่ยนความเชื่อมั่นที่เป็นนามธรรมให้กลายเป็นมิตรภาพเชิงรูปธรรม การดูแล เอาใจใส่ ทั้งจากหน้าที่โดยตรง และจากความเสียสละของพนักงานทุกคนที่ทุ่มเทดูแลเรานอกเหนือจากงานที่รับผิดชอบ
น้ำจิต มิตรภาพเช่นนี้ เป็นความซึ้งใจที่ผู้รับได้สัมผัสจากผู้ให้ การให้ใดที่ประเสริฐก็ไม่เท่ากับการให้อภัย
ให้อภัยกันเถิดจักเกิดมิตร มิตรภาพที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดจะเปิดโลกกว้างตามทางธรรม...
ขอบคุณมากครับ..ขอให้โชคดีมีสุขนะครับ
ทำงานตามหน้าที่ ตัวเองให้ดีที่สุด หากมีโอกาส ทำด้วย "จิตอาสา" เราให้ผู้อื่นก่อนแต่ผลลัพธ์ที่ได้รับ จะทำให้เราได้มากกว่านั้นคือ "อิ่มใจ" ค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่แบ่งปัน
การที่เราจะทำอะไรให้ใครสักคนหนึ่ง บางครั้งอาจจะทำเพราะถูกสั่ง ถูกใช้ หรือบางครั้งก็ต้องทำไปเพราะหน้าที่ ทำไปงั้น ๆ สักแต่ว่าทำ
แต่การที่ใครสักคนจะทำอะไรให้เราด้วยความรัก ความห่วงใยนั้นจะต้องมีเหตุ มีปัจจัยก็เพราะเรามีความรักความห่วงใยให้เขาก่อน
การเมตตาถือว่าเป็นสิ่งที่คนเราควรมอบให้ซึ่งกันและกัน และการให้ที่ยิ่งให้ที่สุดนั้นคือ "การให้อภัย"