คุณธวัชกล่าวกับที่ประชุมว่า AAR เป็นเครื่องมือที่ สคส.ใช้ตลอด กลับไปก็ต้องไปเล่าว่ามาจัดตลาดนัดครั้งนี้ได้อะไร ไม่ได้อะไร ใช้เป็นเครื่องมือเรียนรู้ระหว่างที่ทำงาน .....บรรยากาศของการพูดคุยต้องอิสระ เป็นกันเอง ต้องทำเร็วที่สุดหลังเสร็จกิจกรรม ให้คนที่มาในวงได้พูดอย่างอิสระ พูดออกมาจากใจ อยากจะได้อะไรจากเวทีนี้ มีอะไรที่คิดว่าได้เกินความคาดหวัง มีอะไรที่ได้น้อย หากจะจัดเวทีแบบนี้อีกจะต้องปรับจุดไหน แล้วจะกลับไปทำอะไรต่อ พูดไม่ครบทุกข้อก็ได้
๑. ภก.นฤพนธ์ นวลเจริญ โรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา
ความคาดหวังคือจะมาเรียนรู้กระบวนการที่เรียกว่ากระบวนการจัดการความรู้ที่ทางทีมงานได้นำมาใช้ในการจัดการประชุม แล้วก็ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ได้แนวทางร่วมกันในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
สิ่งที่ได้คือได้เรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งในการทำงานของแต่ละที่ แล้วก็ได้แนวความคิดใหม่ที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยของโรงพยาบาล
สิ่งที่ยังไม่ได้หรือได้น้อยก็คือตอนนี้ยังไม่ค่อยเห็นรูปร่างหรือเห็นเครือข่ายที่ชัดเจนจากการจัดการประชุมครั้งนี้
สิ่งที่ควรปรับปรุง หากมีการจัดกิจกรรมแบบนี้อีกก็อยากให้เสริมกิจกรรมในส่วนของวิชาการเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเบาหวานให้
จะกลับไปทำอะไรต่อก็คือจะกลับไปคุยกับทีมงานในโรงพยาบาล แล้วก็มาทบทวนอีกครั้งหนึ่งว่ากิจกรรมในครั้งนี้ได้อะไรกลับไปบ้างเพื่อจะพัฒนาแผนงานต่อไป
๒. คุณวทัญญู วรรณไกรโรจน์ PCU ลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต
ความคาดหวังคืออยากจะได้ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ป่วยเบาหวานปรับพฤติกรรมของเขาให้กินเท่านี้เท่านั้นแล้วสามารถคุมน้ำตาลได้ดี แต่ก็ยังไม่ได้อะไรเท่าไร
สิ่งที่ได้ก็คือว่าได้ทราบว่าที่อื่นมีการให้ความรู้เรื่องสุขศึกษาโดยใช้ทีมสหวิชาชีพ โภชนาการก็ให้ความรู้เรื่องอาหารอย่างเดียวเลย พยาบาลก็ให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาพยาบาล การดูแลเรื่องเท้า เรื่องตา เรื่องไต เรื่องกายภาพก็มีเจ้าหน้าที่ดูแล เรื่องยาก็จะมีเภสัชกรให้การดูแลอย่างเดียวเลย อาทิตย์ละครั้งก็จะให้ผู้ป่วยได้รู้เรื่องไปเลย
สิ่งที่ยังไม่ได้หรือได้น้อย อะไรที่ได้น้อยกว่าที่คาดหวังก็ไม่มี ที่จัดแบบนี้ก็ดี
จะกลับไปทำอะไรต่อก็คือกลับไปทำกิจกรรมให้กับผู้ป่วยเบาหวานในเรื่องของการออกกำลังกาย และการฝึกจิตไม่ให้ผู้ป่วยเบาหวานได้รับความเครียด แล้วก็การปรับพฤติกรรมในการกินอาหารก็ต้องทำต่อ
๓. สมาชิกจากโรงพยาบาลท่าตะเกียบ
ความคาดหวัง คือการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับใช้ในการทำงานของโรงพยาบาลตนเอง
สิ่งที่ได้ สิ่งที่บรรลุเป้าหมายก็จากเรื่องเล่าที่ได้เล่าคือมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานกัน และได้แนวทางในการทำงานว่าบางครั้งมุมมองของเราเป็นมุมมองที่แคบ แต่หลังจากที่เราได้คุยกับโรงพยาบาลอื่นๆ เราก็ได้รู้ว่ามันไม่ได้แคบอย่างที่เราคิด มันสามารถปรับไปทำงานอย่างอื่นได้ เพื่อที่จะมาประยุกต์ใช้กับโรงพยาบาลของตนเอง
สิ่งที่ควรปรับปรุง หากมีกิจกรรมอย่างนี้อีกจะปรับปรุงอะไร ก็อยากให้การแลกเปลี่ยนความรู้ที่จับเป็นคู่ระหว่างโรงพยาบาล ก็ไม่ได้คุยกับทุกโรงพยาบาล อยากให้ได้คุยกับทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่ ๒ โรงพยาบาลแบบนี้
๔. ภก.ภัทรพล สิทธพล โรงพยาบาลแปลงยาว
ความคาดหวัง ไม่ได้คาดหวังอะไร ก็คือว่าคาดหวังว่าอาจจะได้มาเรียนรู้อะไรบ้างในเรื่องของเบาหวาน
สิ่งที่ได้ บรรลุผลแน่นอน เพราะไม่ได้คาดหวังมา ซึ่งเป็นเรื่องของอะไรบ้าง ก็ตั้งแต่ในเรื่องของการรวบรวมระดับความคิดของแต่ละบุคคลว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรในด้านของโรคเบาหวาน หรือว่าแต่ละคนมีทัศนคติอย่างไร แล้วก็องค์ความรู้ในแต่ละบุคคล แล้วก็จะนำมารวบรวมเป็นกลุ่ม เป็นกรุ๊ปขึ้น และหลังจากนั้นก็นำความรู้มาขยายเพื่อจะนำไปใช้ได้จริงซึ่งเป็นประโยชน์ แล้วนอกจากความรู้ในเรื่องของเบาหวานแล้วเราก็สามารถนำความรู้ในเรื่องของขั้นตอนต่างๆ ตรงนี้ไปใช้ในเรื่องต่างๆ ได้ด้วย
สิ่งที่ควรปรับปรุง อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้อีกในเรื่องของเบาหวาน อยากให้มีในเรื่องอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหาร ความดัน การคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องของอาหารปลอดภัย หรือว่า Clean food good test ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญเยอะเหมือนกัน ก็เลยว่าถ้าหากจะให้มีการจัดอีก ก็อยากให้มีการจัดตรงนี้ด้วย
จะกลับไปทำอะไรต่อ คิดว่าคงจะกลับไปทำก็คือจะให้แต่ละฝ่ายที่ดูแลเรื่องเบาหวานก็จะนั่งคุยกัน เหมือนที่เราทำแบบนี้แล้วก็จะทำเป็นแผนภูมิ ตารางเหมือนที่เราทำ 2 วันนี้ แล้วก็คนไหนมีแนวทางที่ดีจะได้นำมาพูดคุยกัน แล้วก็จะได้มีการพัฒนาในเรื่องของการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่ดียิ่งขึ้น
๕. ภญ.ปณิตา สิงห์แก้ว โรงพยาบาลพนมสารคาม
ความคาดหวัง จากการประชุมครั้งนี้ก็น่าจะได้จากการเรียนรู้จากการให้บริการคนไข้เบาหวานของแต่ละโรงพยาบาลว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วก็ทราบจุดอ่อนและจุดแข็ง อย่างเราอาจจะมีจุดอ่อนอย่างไร ก็จะทำให้เป็นจุดแข็งมากขึ้น แล้วก็ดูข้อแตกต่างของแต่ละโรงพยาบาล
สิ่งที่ได้ เกินความคาดหวังก็คือจากการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จากการเข้ากลุ่มก็แต่ละคนก็จะมีความรู้และแนวคิดที่แตกต่างกัน การได้มาเข้าร่วมกลุ่มกันก็ทำให้ได้ร่วมกันคิด แล้วก็สังเคราะห์ความรู้ให้มีรูปแบบแนวทางเดียวกัน หรือว่ามีรูปแบบที่ชัดเจนมากขึ้น
สิ่งที่ได้น้อยหรือยังไม่ได้ ได้น้อยกว่าความคาดหวังยังไม่มี ในส่วนของการปรับปรุงกิจกรรมก็ยังไม่มี
จะกลับไปทำอะไรต่อ ก็คือในส่วนของเภสัชกรอาจไม่ได้ใกล้ชิดกับคนไข้เบาหวานมากเหมือนพยาบาลหรือแพทย์ที่จะต้องคุยกับคนไข้ทุก case เภสัชกรก็คุย แต่เนื่องจากเวลาก็อาจไม่ได้ contact มาก ในส่วนของการให้ความรู้ก็อาจจะเป็นการให้ความรู้บางกลุ่ม ถ้าได้ร่วมพัฒนางานด้วย ก็จะให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นสหวิชาชีพ แล้วก็ถ้าได้รับการเรียกร้องให้ช่วยงาน ก็ยินดีที่จะทำ แล้วก็ช่วยทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ
๖. ภก.ชารินี ลิ้มสินธะโรภาส โรงพยาบาลบ้านโพธิ์
ความคาดหวัง จะมาทราบข้อมูลว่าแต่ละโรงพยาบาลแตกต่างกันอย่างไร การเข้าถึงผู้ป่วยแตกต่างกันอย่างไร สามารถนำมาปรับใช้กับโรงพยาบาลของตนเองอย่างไรบ้าง
สิ่งที่ได้ สิ่งที่เกินความคาดหวังก็คือรู้สึกว่าแต่ละโรงพยาบาลมีวิธีการเข้าถึงผู้ป่วยที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราสามารถเรียนรู้วิธีการเข้าถึงผู้ป่วย และได้ทราบว่าการดูแลผู้ป่วยได้ดีจะต้องทำอย่างไรบ้าง
สิ่งที่ได้น้อยหรือยังไม่ได้ ยังไม่มีสิ่งที่น้อยกว่าความคาดหวัง
จะกลับไปทำอะไรต่อ อยากให้มีการปรับปรุงโดยให้มีการจัดกลุ่มในแต่ละวิชาชีพด้วย บางทีเราอาจเข้าใจด้วยกันมากกว่าพูดถึงกว้างๆ อย่างเภสัชเราอย่างนี้ก็ยังไม่ค่อยเห็นในแต่ละวิชาชีพ ก็อยากให้มานั่งจับเข่าคุยกันว่าจะปรับปรุงหรือว่าหาวิธีการดูแลผู้ป่วยอย่างไรให้ดีขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้กับโรงพยาบาลของเราบ้าง
๗. สมาชิกจากโรงพยาบาลบางปะกง
ความคาดหวัง คาดหวังอะไรก็คือเป็นไปตามกำหนดการที่ให้มา ก็หวังว่าอาจจะมีในเรื่องของวิธีการทำ KM แล้วก็อาจจะมีความรู้จากที่ต่างๆ บ้าง
สิ่งที่ได้ สิ่งที่เกินความคาดหวังก็คือรู้สึกว่าครั้งนี้เราได้เจอเพื่อนที่เราไม่เคยเจอ ได้เจอพี่ที่เราไม่รู้จัก แล้วก็ได้เป็นเพื่อนกันต่อไปทั้งพี่ทั้งน้อง และได้มิตรภาพที่ดี
สิ่งที่ได้น้อยหรือยังไม่ได้ ที่น้อยกว่าความคาดหวังไม่มี
สิ่งที่ควรปรับปรุง มีความรู้สึกว่าขั้นตอนกระบวนการในการประชุมทั้ง ๒ วัน คือว่าที่ๆ คุยกันกับผู้ที่มาด้วยกัน ๒ วันมีความรู้สึกว่าบางครั้งมันจะไม่ค่อยกระชับ อาจจะแบบว่า จะพูดว่าอย่างไรดีละ (พี่เขาเห็นด้วยกันหมด) ก็อยากให้กระชับกว่านี้ถ้าจะจัดอีก แล้วเท่าที่สังเกต ที่ดูเวลาที่เรา Break ออกไปก็นั่งกินกาแฟ ขนมแล้วเราก็คุยกันว่าไม่มีรูปแบบ เหมือนนั่งคุยกับเพื่อนที่มาเจอกัน ซึ่งก็จะมีเรื่องเล่าอีกเยอะแยะที่เกี่ยวกับงานของเรา ซึ่งไม่ถูกบันทึกเอาไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเรียนรู้ที่กำลังคิดว่าการจัดกลุ่มที่ไม่เป็นทางการนัก น่าจะดี น่าจะทำให้เราได้ relax ได้คุยกันมากขึ้นกว่านี้หรือเปล่า
จะกลับไปทำอะไรต่อ ส่วนจะกลับไปทำอะไรต่อตอนนี้ก็คือก่อนหน้าที่จะมาเราสนใจกระบวนการนัดคนไข้แบบรายตำบล เพราะเรามีปัญหาเหมือนกัน คล้ายกับที่บางคล้าเคยเจอ แล้วก็เรากำลังจะจนแต้มอยู่พอดี คือรู้สึกว่าจะทำอย่างไรกับคนไข้ ๑,๒๐๐ คน พอเราได้มาฟังที่บางคล้าพูดก็รู้สึกว่าเรายังมีหวังว่าเราจะทำได้ นอกจากประเด็นอื่นๆ
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๙
ไม่มีความเห็น