ใน ๑ สัปดาห์ผมใช้บริการของ ๒ หน่วยราชการ
จึงนำมาเป็นบันทึกเพื่อแสดงความชื่นชม
วันที่ ๕ เม.ย. ๕๓
นัดของผมถูกเลื่อนเพราะการเดินขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดง
ก็มีผลต่องานต่างๆ ไม่น้อยนะครับ
ไม่ได้สูญเสียเฉพาะเศรษฐกิจย่านราชประสงค์
และการท่องเที่ยว แต่ก็ช่วยให่ผมได้มีโอกาสฝึก slow
life
คืออยู่บ้านหาความสุขจากการอ่านหนังสือ
พอดีจะต้องทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ เพราะฉบับเก่าอายุไม่ถึง ๖
เดือน กลางเดือน พ.ค. ต้องไปเจนีวา เพื่อประชุม OC ของ
PMA Conference
จึงได้โอกาสไปทำหนังสือเดินทางเสียเลย
ผมวางแผนผิด คือว่าตอนสายๆ คนจะวาย
และรถบนถนนว่าง
เอาเข้าจริงตอนสายถนนแจ้งวัฒนะขาออกรถน้อย
แต่ขาเข้ารถแน่นมาก เพราะมีการสร้างถนน
และเพราะศูนย์ราชการ
ผมวางแผนไปจอดที่กรมการกงสุลที่เมื่อผมไปคราวที่แล้วตอนเช้ามืดมีที่จอดรถมากมาย
วันนี้หลัง ๑๐ น. เขาไม่ให้เข้าไป
ผมต้องวนบนถนนแจ้งวัฒนะสองรอบแล้วตัดสินใจเข้าไปในศูนย์ราชการ
และขับวนทางขวาบนถนนข้างในศูนย์ราชการ
อ้อมศูนย์ที่จะเป็นที่ทำงานของศาล
ไปหาที่จอดใกล้ถนนแจ้งวัฒนะ
แล้วเดินย้อนไปทางหลักสี่ ไปยังกรมการกงสุล
ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง
ที่จริงขั้นตอนการทำพาสปอร์ตก็ยังน่าชื่นชมเหมือนคราวที่ผมมาครั้งก่อน
แต่ผมก็ยังอยากบันทึกรายละเอียดไว้
ว่าผมไปถึงก็เข้าไปขอบัตรคิว
โดยใช้บัตรประชาชนยื่นแก่เจ้าหน้าที่ให้บัตรคิวซึ่งมี ๔
คน ผมได้หมายเลข ๘๙๓ โดยขณะนั้นเขากำลังเรียกหมายเลข ๗๖๐
เข้าไปรับบริการ อีกประมาณ ๑๓๐ คนจึงจะถึงผม
ในห้องนั่งรอมีคนเต็ม
แต่ผมก็หาที่นั่งได้ตรงหน้าจอทีวีที่บอกหมายเลขคิวที่เรียกพร้อมหมายเลขห้องทำหนังสือเดินทาง
เขามีทั้งเสียงเรียกและขึ้นหน้าจอ
ผมนั่งสังเกตคนที่มาทำหนังสือเดินทาง
และคิดว่าสมัยนี้ผู้คนเดินทางกันมากมายจริงๆ
เวลาผ่านไป ๑๐ นาที มีคนถูกเรียกราวๆ ๓๐ คน
ผมสบายใจว่ารอไม่ถึง ๑ ชั่วโมงก็จะถึง
ซึ่งก็จริงดังคาด ผมถูกเรียกหลังนั่งรอ ๔๐
นาทีพอดี
แต่ก็ต้องไปนั่งรอตรงหน้าห้องทำหนังสือเดินทางนั่นเองอีก ๑๕
นาที โดยที่เขาใช้เวลาทำหนังสือเดินทางของผมประมาณ
๑๐ นาที
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าแต่ละวันทำได้กี่คน
เขาบอกว่าขึ้นอยู่กับว่ามีปัญหาหลักฐานหรือไม่
ตามปกติ ๓๐ คนขึ้นไป
ห้องทำบัตรทั้งหมด ๖๒ ห้อง
ผมต้องไปรับหนังสือเดินทางเอง ในวันนัดคือ ๘ เม.ย. ๕๓ ระหว่าง ๘.๐๐ –
๑๗.๐๐ น.
เพื่อจะขอให้เขาสลักในเล่มใหม่ว่าวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาในหนังสือเดินทางเล่มเก่ายังใช้ได้
ทำเสร็จเวลา ๑๒.๐๐ น. ตรง ผมไปจ่ายค่าบริการ ๑,๐๐๐
บาทและรับใบนัดรับหนังสือเดินทางในวันที่ ๘ เม.ย. ๕๓
รวมเวลาทั้งหมดชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น
น่าประทับใจจริงๆ
บ่ายวันที่ ๘ เม.ย. ผมออกจากห้องประชุมที่ สสส. เวลา ๑๕.๐๐ น.
เพื่อไปรับหนังสือเดินทางเล่มใหม่
เมื่อไปถึงก็ไปถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
ไปยื่นเอกสารที่ช่องที่เขาบอก (ที่เท่าไรลืมแล้ว
แค่วันเดียว) แล้วเขาให้บัตรคิว
รอเดี๋ยวเดียวก็ได้รีบหนังสือเดินทางเล่มใหม่
พร้องยกเลิกเล่มเก่า
ถามเขาว่าต้องการให้วีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกายังใช้ได้
ทำอย่างไร เขาบอกให้ไปที่ช่อง ๘๒ ที่ช่อง ๘๒
เขาให้แบบฟอร์มมากรอก
และให้ไปถ่ายเอกสารหนังสือเดินทางเล่มเก่าหน้าแรกและหน้าที่มีวีซ่าสหรัฐฯ
แล้วเอาไปยื่นที่ช่อง ๘๔ ที่ช่อง ๘๔ เขาเก็บเงิน
๑๐๐ บาท แล้วให้รอ ๒๐ นาที ไปรับหนังสือเดินทางทั้ง ๒
เล่มคืนที่ช่อง ๘๖ รวมเวลาทั้งหมด ๔๐
นาที
วันที่ ๙ เม.ย. ๕๓
ผมนัดลูกชายไปโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินบางกอกน้อย
ซึ่งสาวน้อยช่วยค้นจาก อินเทอร์เน็ต ว่าอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ปากซอย
๕๙
และสาวน้อยช่วยเตรียมเอกสารให้ทุกอย่าง เรานัดกัน
๑๔.๐๐ น. เริ่มกระบวนการที่ประชาสัมพันธ์
เตรียมเอกสารแล้วให้ไปยื่นที่ช่อง ๗
เขาลงข้อมูลแล้วคอมพิวเตอร์พิมพ์แบบฟอร์มออกมาให้เราเซ็นชื่อ
เขาไปค้นหลักฐานการซื้อจากเจ้าของเดิมเมื่อปลายปี ๒๕๐๙
ลูกชายอุทานว่า พ่อซื้อเมื่ออายุ ๒๔ หรือ
ที่ดิน ๕๓ ตารางวา และบ้านไม้ ๒ ชั้นเล็กๆ นี้แม่ซื้อมาในราคา ๑๐๐,๐๐๐
บาท โดยใส่ชื่อผม แล้วแม่ก็บอกยกให้
ตอนนี้เขาตีราคาที่ดินตารางวาละ ๓๔,๐๐๐ บาท และตีราคาบ้าน
๕๑,๐๐๐ บาท รวมค่าธรรมเนียมโอนร้อยละ ๐.๕ ของราคาเท่ากับ
๙,๒๖๗ บาท ค่าคำขอ ๕ บาท และค่าอากรแสตมป์ ๙,๒๗๒
บาท รวมเท่ากับ ๑๘,๕๔๔ บาท
หัวหน้าหน่วยต้องเรียกผมไปเขียนชื่อแบบไม่เซ็น
เพื่อให้เหมือนลายเซ็นเดิมตอนเรียนแพทย์จบใหม่ๆ
ยังเซ็นชื่อไม่เป็น แล้วก็เสร็จเรียบร้อยโดยใช้เวลา ๕๐
นาที ประทับใจความสะดวก
และอัธยาศัยไมตรีอันดีงามของเจ้าหน้าที่
ขอแสดงความชื่นชมมา ณ โอกาสนี้
เป็นประสบการณ์ดีๆ ในการใช้บริการของหน่วยราชการ ๒ หน่วย
ที่ได้รับรางวัลบริการดีเยี่ยม
ขอยืนยันว่าดีเยี่ยมจริงๆ
วิจารณ์ พานิช
๙ เม.ย. ๕๓
ขอกด like ให้นะคะ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ราชการทุกท่านค่ะ .....^^