ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน เกาะติดชุมชน สิทธิชุมชน สิทธิพลเมือง

กระท่อม คนแต่ก่อนกินใบ คนรุ่นใหม่กินน้ำ


กระท่อม คนแต่ก่อนกินใบ คนรุ่นใหม่กินน้ำ

เรื่อง /ภาพ : อ่าวไทย
ที่มา ศูนย์ข่าวพลเมืองฅนคอน ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 15 ธันวาคม 52 – 15 มกราคม 53

 

                ใบกระท่อม หรือใบท่อม ที่เราชาวใต้เรียกขาน ในชีวิตการใช้แรงงาน ออกเหงื่อออกกำลัง ใบท่อมกลายเป็นส่วนหนึ่ง อย่างน้อยเวลานั่งพัก นั่งรูดท่อม ดูดยาเส้น นินทาเพื่อน ชาดได้แรงอก! (ได้อารมณ์มากๆ) อีกอย่างใบกระท่อมยังเป็นยาสมุนไพรอีกหลายๆชนิด โดยเฉพาะแก้ไอ ได้ชะงัดนัก  แค่เอาใบกระท่อมห่อน้ำตาลเคี้ยวละเอียดก่อนกลืนก็แก้ไอได้แล้ว
                เมื่อก่อนหากดูการ์ตูน ป็อบอาย กับโอลีฟ เมื่อหมดพลัง ก็จะกินผักเขียว คนใช้แรงงานอย่างเราๆ ก็ต้องกินท่อม ที่จริงป็อบอาย กินผักเขียวหลังคนใต้กินท่อมเสียอีก (ฮา)
                เมื่อกล่าวถึงการกินใบกระท่อมของคนทางภาคใต้แล้ว บทเพลงดังกล่าวคงสะท้อนภาพได้เป็นอย่างดีซึ่งแต่ก่อนคนวัยผู้ใหญ่ หรือ คนเฒ่าคนแก่จะกินเพื่อทำงานและนั่งกินกันที่ร้านน้ำชา กาแฟ เป็นเรื่องปกติซึ่งเมื่อประมวลภาพในสังคมไทยแล้วยังไม่ปรากฏว่าคนที่กินใบกระท่อมแล้วมีอาการมึนเมาจนประสาทหลอนคลุ้มคลั่งทำรายร่างกายคนอื่น และก่อความเดือนร้อนต่อสังคม
   เพลง           คอท่อม
  ขับร้อง       การ์ด – ชบา
 
             โหมเราหนอชาวปักต์ใต้     ขี้คร้านแค่ตายถ้าไม่ได้กินท่อม  
       แทงปาล์ม ตัดยาง  ถางป่า  ทำไร่  ไถ่นา  เงย  เงย   ก้มก้ม
       ข้าวเช้าเมีย ไม่เคยถาม  บ่ายสอง บ่ายสาม ไม่เคยเป็นลม           
       กาแฟ แก่แก่ หวนท่อม น้ำเย็น น้ำต้ม  กินท่อมแล้วมีแรง…….
               กินท่อม ถูกฝน ไม่ได้ เดียวไม่สบาย  เป็นโรคไข้จับสั่น    
        ถ้าฝนมา หลบฝนไม่ทัน   เดียวไข้จับสั่น  ไม่พักนั่งรูดท่อม
        กินท่อม แก้เข็ด แก้เมื่อย ทำงานเหนื่อยๆ  ขยันขันแข็ง           
        กินแล้วคึกคัก แข็งแรง ขุดดินฟันไม้  หยิกหนี สีไฟ
                 กินท่อม แก้โรคเบาหวานช่วยลดน้ำตาล ไม่ใช่พูดเหลวไหล     
        กินท่อม ไม่เคยรบใคร วงท่อมทั่วไป  รู้รักสามัคคี……….
                 *** เรียนท่าน ผู้การ  ผู้กับ หมวดจ่า   หมูครับ  อย่าจับผมถี       
        สส. สว. ช่วยที ช่วยแก้กฎหมาย  ให้ท่อมเป็นไทย
       คนใต้   ถ้าไม่ได้กินท่อม  รับรองว่าล้ม   ไม่พักทำไหร                
       งานเบา  งานหนักทั่วไป   ต้องใช้แรงกาย  อยู่ทุกครึ่งวัน
       พกท่อม  ไปไหน ไปกัน     คนกินสุขสรรค์  เห็นสวรรคอยู่รำไร………  *** (ซ้ำ)
        
          แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป   ใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำไปผสมเป็นยาเสพย์ติดที่ในแวดวงผู้เสพย์ขนานนามมันว่า “ สี่คูณร้อย” ซึ่งมีส่วนผสมสำคัญ  คือ  ใบกระท่อม  น้ำโค้ก ( Coca-Cola ) และ ยาแก้ไอ   ซึ่งอาจมีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่าผสมยากันยุงบ้าง  ไส้หลอดไฟนีออนบ้างแต่สิ่งที่กำลังเป็นไปในสังคมและชุมชนตอนนี้คือ  ใบกระท่อม  น้ำโค้ก ( Coca-Cola )   ยาแก้ไอ   และ น้ำแข็ง ซึ่งเราลองมาพิจารณาวัตถุดิบและที่มาซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยาเสพย์ติดชนิดดังกล่าว
        เริ่มจาก  ใบกระท่อม  ซึ่งหาได้ทั่วไปในท้องถิ่นโดยเฉพาะทางภาคใต้    น้ำโค้ก ( Coca-Cola )   ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปซึ่งอาจกล่าวได้ว่าไม่มีร้านค้าไหนเลยที่ไม่มีเครื่องดื่มชนิดนี้วางจำหน่ายจากการเก็บข้อมูลยังไม่มีปรากฏให้เห็นเลยว่ามีการต้มยาเสพย์ติดชนิดดังกล่าว กับ เครื่องดื่ม เช่น แฟนต้า  สไปร์   แป๊บซี่ หรือ เครื่องดื่มชูกำลังชนิดอื่นๆ  ซึ่งทางบริษัทหาดทิพย์ จำกัด ( มหาชน) ไม่แน่ใจว่าทราบข้อมูลนี้หรือยังว่า เครื่องดื่มภายใต้การผลิตของท่านถูกนำเป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตเป็นสารเสพย์ติดชนิด สี่คูณร้อย  หรือมุ่งหวังแค่การตลาดแต่เพียงอย่างเดียวโดยละเลยความรับชอบต่อสังคม  ลำดับต่อมา  ยาแก้ไอ  ซึ่งเป็นยาที่ผิดกฎหมายต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์แต่กลับหาซื้อได้อย่างง่ายดายซึ่งอาจจะเป็นเพราะราคาแค่ขวดละ 50 - 60  บาท  จากการเก็บข้อมูลในชุมชนตอนนี้ทำรายได้ให้กับผู้ขายอย่างเป็นล่ำเป็นสันและ  น้ำแข็ง  ก็เช่นเดียวกันหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
        ที่ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาไม่ได้แนะนำหรือชี้นำให้กับเยาวชนหันไปเสพย์ยาเสพติดชนิดดังกล่าวแต่ต้องการถามสังคมดังๆว่า  เยาวชนซึ่งเป็นกำลังหลักของชาติต่อไปในอนาคตกำลังติดอยู่กับยาเสพย์ติดประเภทนี้อย่างหนัก ทั้ง ผู้หญิงและ ผู้ชาย  และแผ่ขยายไปทั่วทุกจังหวัดของภาคใต้ ทุกอำเภอและชุมชน “ อาจกล่าวได้ว่ายาเสพย์ติดประเภทนี้เข้าถึงรากหญ้าเรียบร้อยแล้วครับท่าน” ประกอบกับความขัดแย้งทางสังคมที่กำลังแบ่งแยกสีเสื้อกันอยู่ในขณะนี้ทำให้ภาครัฐละเลย  หรือ มองไม่เห็นปัญหาของสังคมตรงนี้  หรือว่าอย่างไร
        “ ทางออกของปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่การปราบปราม  จับกุม  ผู้ขายและ ผู้เสพย์แต่เพียงอย่างเดียว  แต่คงเป็นการให้โอกาสกับเยาวชนที่หลงผิด  ในการเข้ามารายงานตัวสมัครใจเข้าบำบัด   และ ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์  และ การศึกษาทางเลือก  การฝึกอาชีพให้กับพวกเขาเหล่านั้น”
       ปัจจุบันหากจับกุมได้ค่าปรับก็หลายหมื่น การประกันตัวก็หลักแสน พ่อแม่บางรายการจะหาเงินหาทองเป็นแสนคงไม่ง่ายนัก ต้องปล่อยให้ลูกหลานเข้าไปอยู่ สถานพินิจก็มี ปิดกั้นอนาคตอันสดใส น้ำกระท่อมกำลังกลายเป็นปัญหาเพราะอาจส่งต่อไปยังยาเสพย์ติดชนิดอื่น ชุดๆหนึ่งรวมเงินกันแล้วก็นับร้อยบาท  เข้าใจว่า หากพ่อแม่ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ซึ่งแต่ละครอบรัวย่อมมีบทลงโทษที่หลากหลายอยู่แล้ว ช่วยกันหยุดน้ำใบกระท่อม ก่อนลุกลามไปยังปัญหาอื่นๆ
        วงน้ำท่อม กี่วงในพื้นที่รู้กันดี  เชื่อมั่นเหรอเกินว่าปัญหาดังกล่าวคงขจัดไปได้  อยู่ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะให้ความสำคัญกับปัญหาและจริงใจแค่ไหนในการแก้ปัญหาสังคมดังกล่าว
หมายเลขบันทึก: 354974เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2010 02:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท