สิน (นามสมมติ) ผู้ป่วยชายวัย 30 ต้นๆ ท่าทางภูมิฐาน เดินยิ้มแย้มเข้ามาที่ห้องตรวจ - ถ้าไม่บอก คงไม่มีใครเดาออกว่าเขาคือผู้ติดเชื้อ HIV
ในการตรวจคัดกรองโรคก่อนไปศึกษาต่อต่างประเทศ..ที่ใครๆ คิดว่าแสนจะ routine น่าเบื่อนั้น บทจะ surprise! ขึ้นมา ก็ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน กับผล TB, Syphilis, HIV
แต่ในบรรดาผู่ surprise (ทั้งผู้มาตรวจและผู้ตรวจแล้ว) สินเป็นคนที่ตั้งสติเร็วที่สุด เท่าที่ฉันเคยเจอมา...
เขาเป็นหนุ่มอนาคตไกล ที่กำลังจะเตรียมตัวไปศึกษาต่อ..เมื่อผลออกมาว่าเขามีเชื้อ HIV ในตัว และ..เขาก็ยอมรับว่า มีความเสี่ยง เมื่อ 6 เดือนก่อน..พ่อ แม่ และ เธอคนพิเศษ ยังไม่มีใครคาดคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร...
เขาเงียบไปชั่วครู่ ไม่มีน้ำตา ไม่มีคำตัดพ้อใดๆ "แต่มันก็มีวิธีการรักษาใช่ไหมหมอ..การรักษาต้องใช้เงินมากไหม" - สถานการณ์ของ สิน ทำให้ลำบากยิ่งขึ้น เมื่อเขากำลังอยู่ในช่วงเริ่มงานใหม่ ดังนั้นต้องใช้ประกันสังคม แต่ก็ยังใช้เลยไม่ได้ นายจ้างบอกเขาว่าต้องส่งให้ครบ 3 เดือนก่อน..
การตรวจ CD4 ออกมาเป็น 300 - ตามแนวทางเวชปฎิบัติ คือให้ติดตาม CD4 ในอีก 3 เดือนถัดไป พอเหมาะกับช่วงที่ ประกันสังคมน่าจะใช้ได้..สิน รับฟัง คำชี้แจง และแนะนำให้รักษาสุขภาพอย่างตั้งใจ เขามีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเอง อาหารเสริม วิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อแทรกซ้อน
...แต่ 1 สัปดาห์ถัดมา ดูเขาสดชื่นขึ้น แต่เขาขอเจาะ CD4 อีกครั้ง พร้อมทั้ง viral load (ชำระเงินเอง)..ผลออกมา แม้ viral load มากเกิน 100,000 แต่ระดับ CD4 กลับสูงขึ้นจนเกือบ 400 เขายังคงมีคำถามมากมาย ทั้งจากที่ค้นคว้าจาก internet จากหนังสือต่างๆ..แม้ฉันรู้สึกเกรงใจผู้ป่วยเล็กน้อย เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และความไม่ private ของห้องตรวจ แต่ฉันก็ได้เรียนรู้หลายสิ่งจากสิน ผู้มีแววตามุ่งมั่น พลังที่จะมีชีวิต และมีแผนการในชีวิต " ผมจะบอกทุกคนเอง ในวันที่..."
...สิน ขอมาตรวจ CD4 อีกครั้งใน 1 เดือนข้างหน้า แม้จะอธิบายว่า ไม่ต้องถี่ขนาดนั้น แต่เมื่อคิดถึง ความรู้สึกที่เขาพูด " 3 เดือน เหมือน 3 ปี" ของผู้ป่วยแล้ว ก็ไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร..
3 เดือนสำหรับแพทย์ เป็นช่วง Follow up ที่ไม่ยาวนานเลย เผลอแป๊บๆ ก็เจอกันอีกแล้ว แต่สำหรับผู้ป่วยที่ไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะเป็นอย่างไร 3 เดือนแห่งการรอคอยคำพิพากษานั้นช่างยาวนานนัก..
ความไม่ private ของห้องตรวจ....ผมเห็นที่แอฟริกาใต้ ขนาดว่าหลายอย่างแย่กว่าเรา แต่ความเป็นส่วนตัวในห้องตรวจเขาให้ความสำคัญสูงสุดครับ
เห็นด้วยคะ คุณหมอสีอิฐ
บางครั้ง primary care ในโรงเรียนแพทย์ ก็อาจเป็น ตัวอย่างที่ไม่ดีนัก..ในบางเรื่อง หรือ หลายๆ เรื่อง
การให้ไปเรียนรู้ในชุมชน ทั้ง Authentic และ Realistic กว่าคะ
แวะมาอ่าน สิน ขอมาตรวจ CD4 อีกครั้งใน 1 เดือนข้างหน้า แม้จะอธิบายว่า ไม่ต้องถี่ขนาดนั้น แต่เมื่อคิดถึง ความรู้สึกที่เขาพูด " 3 เดือน เหมือน 3 ปี" ของผู้ป่วยแล้ว ก็ไม่รู้จะปฎิเสธอย่าง