ในปัจจุบันปัญหาผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับตัวได้เป็นเวลานาน
มักเกิดอาการของแผล
กดทับบริเวณผิวหนังและกล้ามเนื้อทำให้เกิดความพิการ
และต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
การป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับในผู้ป่วยอัมพฤกษ์
อัมพาตทำได้โดยการพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง
แต่ในผู้ป่วยที่ดมยาสลบและผ่าตัดเป็นเวลานานไม่สามารถขยับตัวได้
จึงหลีกเลี่ยง ไม่ได้ที่จะเกิดแรงดันกดทับบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
เหตุนี้คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งประกอบด้วย
ผศ.พญ.นลินี โกวิทวนาวงษ์ คณะแพทยศาสตร์, ดร.ณัฐพงศ์ นิธิอุทัย
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ดร.เจริญ ยุทธ เดชวายุกุล
คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ ศ.นพ.วิทูร ลีลามานิตย์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
จึงมีความพยายามที่จะประดิษฐ์วัสดุรองรับเพื่อป้องกันบริเวณ
ที่จะเกิดแผลกดทับสูง เช่น บริเวณศีรษะและใบหน้า
ด้วยความพยายามใช้ยางพาราแปรรูป
ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายภายในประเทศและช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ยางพารา
ลดการนำเข้าวัสดุทางการแพทย์จากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงกว่าหลายเท่า
โดยหมอนเจลฯ ที่นำเข้าจากต่างประเทศจะมีราคา 8,000-10,000 บาท
ในขณะที่หมอนเจลฯ ที่ผลิตเองมีราคาประมาณ 4,500 บาท
หมอนเจลรองศีรษะป้องกันแผลกดทับ (Latex polymer head pad for
intraoperative pressure sore pre-vention)
ที่ว่านี้ผลิตจากพอรียูรีเทนเจลแล้วห่อหุ้มด้วยยางพารา
แปรรูปที่ปรับโมเลกุลแล้ว เพื่อให้สามารถยึดหยุ่นได้ตามแรงกดทับ
และพยายามปรับความนิ่มของเจลให้เหมาะกับการใช้
งาน รูปทรงของหมอนออกแบบเพื่อรองรับศีรษะสำหรับใช้ใน
การผ่าตัดท่านอนตะแคงและคว่ำ เพื่อลดแรงกดบริเวณใบหน้า หน้าผาก แก้ม
และ ลูกตา
และออกแบบให้มีช่องสำหรับใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อดูแลผู้ป่วยได้สะดวก
ขึ้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางวงนอก 22 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางวงใน 10
เซนติเมตร สูง 5 เซ็นติเมตร
จากการนำไปใช้จริงในผู้ป่วยจำนวน 51
รายที่มาผ่าตัดและให้ยาระงับความรู้สึกในห้องผ่าตัดใหญ่
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พบว่าผู้ป่วย 35 ราย หรือร้อยละ 68.6
ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสหมอนเจลฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และผู้ป่วย 16
ราย หรือร้อยละ 31.4 ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสหมอนเจลฯ
เกิดรอยแดงเล็กน้อย โดยที่ผู้ป่วยทุกคนที่ผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง
สามารถหายกลับสู่สภาพเดิมภายในเวลา 30-60 นาที
นอกจากนี้ การนำไปใช้ในห้องผ่าตัดใหญ่ของโรงพยาบาล สงขลานครินทร์แล้ว
ปัจจุบันหมอนเจลฯมีการนำไปใช้ในห้องผ่าตัดใหญ่โรงพยาบาลศิริราช,
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
รวมทั้งโรงพยาบาลอีกหลายแห่งทั่วประเทศ และจากการตอบรับอันดีจากผู้ใช้
คณะผู้วิจัยจึงได้ต่อยอดประดิษฐ์วัสดุรองรับป้องกันแผลกดทับในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยมากขึ้น
ได้แก่ “แผ่นรองนั่งป้องกันแผลกดทับ” สำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต
และ “หมอนรองรักแร้ป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยที่มาผ่าตัดท่านอนคว่ำ”
อีกด้วย
ที่นำมาบอกล่าวนี้ก็เพื่อจะได้ทราบข้อมูลว่าถ้าใครมีญาติเจ็บป่วยนอนอยู่กับที่ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้
ท่านผู้ใดสนใจก็สามารถติดต่อไปที่คณะวิจัยมหาวทยาลัยสงขลานครินทร์ดังมีรายนามปรากฏอยู่ข้างต้นแล้ว
จากหนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ ฉบับประจำวันที่ 3-6 เมษายน
พศ.2553
|