การเริ่มต้นก็คงไม่ต่างกันกับคนอื่นที่ไม่ได้เดินด้วยเส้นทางดอกกุหลาบ แต่มีหนามกุหลาบปะปนมาด้วย ...แต่มาเป็นวันนี้ที่คุยนักคุยหนาว่า โรงพยาบาลเรายังคงมีงานโรงเรียนพ่อแม่เป็นแหล่งให้ใครต่อใครเข้ามาศึกษาดูงานได้อย่างไร ก็เลยอยากบอกเล่าเส้นทางโดยสรุปอีกครั้งว่า
ในวันเริ่มต้น...ทบทวนและทำความเข้าใจเกณฑ์การประเมินโรงเรียนพ่อแม่ และการประเมินสายใยรักใหม่ทั้งหมด
พูดคุยกับหัวหน้างานเพื่อคัดเลือก เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ใช้คณะกรรมการชุดเดียวกับสายใยรักได้เลยยิ่งดี อย่างน้อยก็ควรประกอบด้วย ผู้ที่รู้เรื่องงานฝากครรภ์,งานห้องคลอด,งานหลังคลอด,งานตรวจสุขภาพเด็กดี,งานเยี่ยมบ้าน ถ้ายิ่งได้ทีมสหสาขามาด้วยิ่งดีใหญ่ เช่น งานทันตกรรม,งานเภสัชกรรม,งานแพทย์แผนไทย ฯลฯ
พอได้กรรมการแล้ว ก็มาพูดคุยทำความเข้าใจถึงระบบการสอนของแต่ละงานก่อน...แล้วทบทวนว่า
-แต่ละงานสอนอะไรบ้าง สอนเมื่อไหร่ มีการสอนที่ซ้ำซ้อนกันอยู่หรือไม่
-ใครเป็นผู้สอนประจำ แล้วถ้าวันที่เราไม่อยู่ใครสอนแทน
-มีการส่งต่อข้อมูลการสอนอย่างไรที่ให้รู้ว่าผู้รับบริการแต่ละคนได้รับการสอนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง
-มีการประเมินผลการสอนหรือไม่
เมื่อได้ประเด็นแล้ว แต่ละคนก็รับผิดชอบไปเขียนแผนการสอนของตนเองตามถนัดให้สอดคล้องกับการปฏิบัติได้จริง (ตัวอย่างแผนการสอน)
แผนการสอน |
ทันตสุขภาพในหญิงตั้งครรภ์ |
กลุ่มเป้าหมาย |
หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์น้อยกว่า 16 สัปดาห์และสามี/ญาติ |
ระยะเวลาที่ใช้ |
45 นาที |
|
|
จุดประสงค์การเรียนรู้ |
|
เนื้อหาสาระ |
กระบวนการเรียนรู้
สื่อการสอน
การวัดและประเมินผล
|
เมื่อได้แผนการสอนแล้ว ตกลงบริการร่วมกันอีกครั้ง และประชุมประเมินผลการดำเนินงานภาพรวม โดยนำเสนอผลการประเมินการสอนและตัวชี้วัดโดยแต่ละงานนำเสนอกันเองซักปีละ 2 ครั้ง เราจะพบปัญหาและจุดแข็งให้เลือกพัฒนาได้ แต่งานนี้ผู้บริหารควรรับทราบด้วยนะค่ะจะได้ช่วยกระตุ้น และเสริมแรงให้การทำงานง่ายขึ้น
สิ่งที่อย่าลืม คือ ระบบการเก็บข้อมูลตามตัวชี้วัดของงานโรงเรียนพ่อแม่ (แล้วแต่โรงพยาบาลจะกำหนดกันเอง) แต่ที่ศูนย์อนามัยที่ 8 ใช้เกณฑ์คุณภาพ ได้แก่ ร้อยละของการมีส่วนร่วมของสามี/ญาติ,ความรู้ของผู้รับบริการ,การปฏิบัติตัวได้เหมาะสมของผู้รับบริการ,การสอนตามมาตรฐานของผู้สอน,ความพึงพอใจของผู้รับบริการ เพราะเราเดินทางมานานแล้ว เราจึงควบคุมกำกับเพื่อให้เกิดความคงอยู่ของภาพรวมของงานโรงเรียนพ่อแม่ เราจะสบายใจกว่าที่ปล่อยทิ้งไป แล้วปลูกผักชี เป็นครั้งคราว
เคล็ดลับในการทำงาน
ถ้าเจ้าของแผนการสอนไม่สะดวกเขียนให้ ก็เขียนเองค่ะ...เขียนเป็นตุ๊กตาให้ก่อน โดยถามรายละเอียดการสอนจากเจ้าของแผน แล้วก็เพิ่มเติมให้ครบตามการประเมินของสายใยรักในส่วนที่ผู้ประเมินจะใช้สัมภาษณ์ผู้รับบริการนั่นล่ะ จากนั้นนำแผนการสอนที่ร่างเสร็จแล้วไปให้เจ้าของแผนการสอนตรวจสอบ และใส่ชื่อเขาเป็นผู้รับผิดชอบ...(ตัวเราไม่ต้องไปเอาผลงานตรงนี้เลยค่ะ ถือว่าให้เกียรติเขา แล้วงานจะราบรื่นขึ้นค่ะ)
การประเมินผลการสอน พยายามนำมาบูรณาการกับงานประจำ เช่น
-การประเมินหญิงฝากครรภ์ใช้การสุ่มประเมินปีละ 2 ครั้งตามแบบประเมินสัมภาษณ์สายใยรัก จะแยกแต่ละแผนการสอนก็ได้ เช่น หลังสอนเรื่องยา ก็ประเมินเรื่องการกินยาเมื่อมารับบริการครั้งต่อไป,การสอนเรื่องเตรียมตัวคลอดก็ประเมินเมื่อมาคลอดโดยใช้แบบ D/C Plan ที่ประยุกต์ให้สอดคล้องกับ QA ตามมาตรฐานการพยาบาลและแผนการสอนโรงเรียนพ่อแม่และเกณฑ์ประเมินสายใยรัก(ดังนั้นจะประเมินเรื่องการเตรียมตัวก่อนคลอดได้ทุกคนที่มาคลอด)
-การประเมินหญิงหลังคลอด ใช้แบบ D/C Plan เช่นกันโดยประเมินก่อนจำหน่าย ให้ผู้รับบริการประเมินเอง แล้วเจ้าหน้าที่ทวนสอบก่อนจำหน่ายซ้ำ (ก็จะประเมินได้ทุกคน)
-การประเมินในเด็ก0-5 ปี ใช้การสุ่มสัมภาษณ์ประเมินตามเกณฑ์สายใยรักประเมินปีละ 2 ครั้ง
ลองดูนะค่ะ แล้วยินดีมาก ถ้าเข้ามาแลกเปลี่ยนค่ะ
สวัสดีค่ะ
ทำงานเป็นทีมและเป็นระบบดีนะค่ะ
ชื่นชมค่ะ เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องดีนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอร่วมขบวนการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยคนนะครับ
เป็นตัวอย่างให้ได้เรียนรู้ค่ะ
ดีมากเลยค่ะที่ทำได้ แต่หนูไม่มีคนช่วยเลย
น้องกุ้ง อย่าไป care ใครไม่ช่วยก็ช่างเค้า เราเริ่มที่เรา แล้วก็เริ่มตอดไปทีละหน่อย ซักวันพอเค้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ เค้าก็เข้ามาให้ความร่วมมือเราเอง แล้วอย่าลืมใช้เทคนิคให้ผู้บริหารเห็นว่าดีล่ะ เวลาประสานขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น สำหรับตัวเองใช้ " You win I win " ให้ You นำก่อน I
ขออนุญาตสอบถามแบบประเมินโรงเรียนพ่อแม่หน่อยค่ะว่ามีรูปแบบไหนบ้างคะ ขอบคุณค่ะ