(20) เมืองไทยจะน่าเที่ยว ถ้าปลอดภัย ไม่ขี่โกง
เมืองไทยน่าเที่ยว
คดีอาชญากรรม คดีฉ้อโกงเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดกับพลเมืองในชาติหรือชาวต่างประเทศ หรือไม่ว่าที่ไหนๆ ในโลกก็อาจมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าที่นี่ประเทศไทยเพลาๆ ลงไปบ้าง บ้านเมืองเราก็จะน่าเที่ยวกว่านี้ เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีวัยรุ่นยิงนักท่องเที่ยวสาวอาการปางตาย หรือพ่อค้าส้มตำเกาะสมุยเอามีจ้วงแทงข้างหลังนักท่องเที่ยวฝรั่ง เพียงเพราะไม่พอใจกันเรื่องเรียกค่าอาหารแพง โต้เถียงกันไปมาสุดท้ายจบลงด้วยปลายแหลมของมีดแทรกเข้าไปใต้เนื้อหนังอาการสาหัส
เรื่องแท็กซี่สนามบินหากินกันแบบมักง่ายก็ยังเป็นเรื่องโจษขานไม่เป็นที่สิ้นสุด ตกลงราคากันแล้วขับออกสนามบิน แต่ไม่ถึงที่หมายปลายทาง เพราะพ้นสนามบินไปได้ไม่ไกลก็เรียกแท็กซี่คันใหม่ให้ กะเอากำไรส่วนต่าง ถ้าผู้โดยสารโชคดีไม่ต้องรอนาน ถ้าโชคไม่เข้าข้างต้องรอแท็กซี่เขาต่อรองกัน 2-3 คันถึงจะมีคนไปส่งถึงที่พักโรงแรม
ถ้าไม่หาหนทางให้เหตุการณ์เหล่านี้เบาบางลงไป อีกหน่อยชื่อเสียงประเทศจะเสียหาย ไม่มีใครประเทศไหนอยากมาเที่ยว คนที่เกี่ยวข้องถ้าทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ขึ้นไปอีกสักเท่าตัว เพราะมีหลายประเทศในโลกเขาสามารถทำได้สำเร็จ แม้แต่บ้านใกล้เรืองเคียงเราทำได้สำเร็จเช่น นักท่องเที่ยวจะเดินเท้า จะขี่จักรยานจากเหนือลงใต้ ไม่มีใครทำร้าย ไม่มีใครโก่งราคา ไม่รบกวนแบบฟันหัวคิวหรือกิน "ค่าน้ำ"
เราต้องช่วยกันลดภาพ "สังคมทราม" ลดภาพคนไทยโหดเหี้ยม ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีๆ ให้กับสังคม อบรมบ่มนิสัยบุตรหลาน อบรมและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ไม่สอดส่องดูแล แต่ถ้าได้ทำดีอย่างที่สุดแล้ว ทำดีกว่าที่เคยทำแบบเท่าตัวแล้ว แต่ยังเกิดเหตุการณ์ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น ก็พอจะบอกว่าเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยจริงๆ อยากให้รณรงค์เรื่องเหล่านี้อย่างจริงๆ จังๆ เหมือนกับที่เคยเข้มงวดกวดขันกับร้านจิวเวอร์รี่ฉ้อโกง ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ข่าวร้องเรียนหนาหูเหมือนกับแต่ก่อน
ขณะนี้เศรษฐกิจโดยทั่วไปยังไม่ดี ภาคการผลิตจริงมีปัญหาเรื่องต้นทุน การส่งออกแข็งขันลำบาก เราจำเป็นต้องพึ่งพาธุรกิจบริการอยู่มาก และอาจเป็นหัวหอกได้ในระยะนี้ ถ้าไม่รักษาชื่อเสียงของคนไทยและประเทศให้ดี เราจะลำบากมากขึ้นในอนาคต
เรื่องแท็กซี่สนามบินหากินกันแบบมักง่ายก็ยังเป็นเรื่องโจษขานไม่เป็นที่สิ้นสุด ตกลงราคากันแล้วขับออกสนามบิน แต่ไม่ถึงที่หมายปลายทาง เพราะพ้นสนามบินไปได้ไม่ไกลก็เรียกแท็กซี่คันใหม่ให้ กะเอากำไรส่วนต่าง ถ้าผู้โดยสารโชคดีไม่ต้องรอนาน ถ้าโชคไม่เข้าข้างต้องรอแท็กซี่เขาต่อรองกัน 2-3 คันถึงจะมีคนไปส่งถึงที่พักโรงแรม
ถ้าไม่หาหนทางให้เหตุการณ์เหล่านี้เบาบางลงไป อีกหน่อยชื่อเสียงประเทศจะเสียหาย ไม่มีใครประเทศไหนอยากมาเที่ยว คนที่เกี่ยวข้องถ้าทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ขึ้นไปอีกสักเท่าตัว เพราะมีหลายประเทศในโลกเขาสามารถทำได้สำเร็จ แม้แต่บ้านใกล้เรืองเคียงเราทำได้สำเร็จเช่น นักท่องเที่ยวจะเดินเท้า จะขี่จักรยานจากเหนือลงใต้ ไม่มีใครทำร้าย ไม่มีใครโก่งราคา ไม่รบกวนแบบฟันหัวคิวหรือกิน "ค่าน้ำ"
เราต้องช่วยกันลดภาพ "สังคมทราม" ลดภาพคนไทยโหดเหี้ยม ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีๆ ให้กับสังคม อบรมบ่มนิสัยบุตรหลาน อบรมและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ไม่สอดส่องดูแล แต่ถ้าได้ทำดีอย่างที่สุดแล้ว ทำดีกว่าที่เคยทำแบบเท่าตัวแล้ว แต่ยังเกิดเหตุการณ์ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น ก็พอจะบอกว่าเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยจริงๆ อยากให้รณรงค์เรื่องเหล่านี้อย่างจริงๆ จังๆ เหมือนกับที่เคยเข้มงวดกวดขันกับร้านจิวเวอร์รี่ฉ้อโกง ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ข่าวร้องเรียนหนาหูเหมือนกับแต่ก่อน
ขณะนี้เศรษฐกิจโดยทั่วไปยังไม่ดี ภาคการผลิตจริงมีปัญหาเรื่องต้นทุน การส่งออกแข็งขันลำบาก เราจำเป็นต้องพึ่งพาธุรกิจบริการอยู่มาก และอาจเป็นหัวหอกได้ในระยะนี้ ถ้าไม่รักษาชื่อเสียงของคนไทยและประเทศให้ดี เราจะลำบากมากขึ้นในอนาคต
*** จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2124 22 มิ.ย. - 24 มิ.ย. 2549
คำสำคัญ (Tags): #เผยแพร่ความรู้
หมายเลขบันทึก: 35227เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2006 12:32 น. ()ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น