มีผู้เล่าเรื่องให้ข้าพเจ้าฟังว่า
...แม่น้ำปิง เมื่อน้ำเหนือบ่าจนดูเวิ้งว้าง เป็นท้องทะเลลึกด้วยน้ำล้นตลิ่ง สวะกอโตๆ ลอยเป็นแพไม่ขาดสาย น้ำที่ไหลคลาคล่ำลงมาแต่ทิศเหนือเป็นที่ครั่นคร้ามขามเกรงของชาวเรือ ที่รับส่งผู้โดยสารอยู่ระหว่างปากน้ำโพ-ขาณุ กำแพงเพชร และตาก ต้องหยุดในเวลากลางคืน เพราะอันตรายในแม่ปิงในหน้าน้ำ
...โฉม หญิงสาววัย 16 ปี ผู้ไปหลงรักพระนักเทศน์เสียงทอง ที่ทั้งแก่ (กว่าโฉมถึง 2 เท่า ) ทั้งขี้เหร่ ท่ามกลางการขัดขวางคัดค้าน
...ธรรมชาติของผู้หญิงที่ลงได้รักแล้วไม่กังวลใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่ารูปโฉม วัย ประเพณีจะขวางกั้น
...พระพยายามเตือนสติโฉมขอร้องให้เลิกหลงรักท่าน ก็ไร้ผล ถูกกีดกันมากๆ โฉมถึงล้มป่วยเกือบตาย จนคนรอบข้างต้องหาทางช่วยโฉมผู้ยืนยันเสมอว่า เธอไม่อาจมีชีวิตอยู่โดยปราศจากพระนักเทศน์ได้ และถึงขอร้องให้พระสึกออกมาอยู่ด้วยกัน
...ชีวิตของหล่อนมีทางเลือกอยู่สองทางเท่านั้น คือการได้อยุ่กับคนที่หล่อนรักหรือมิฉะนั้นก็อำลาโลกนี้ไป
...เมื่อโฉมดื้อรั้นเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ พระนักเทศน์ก็ขอให้โฉมข้ามแม่น้ำมาฟังคำตอบในคืนแรม 15 ค่ำ เพราะคาดว่าโฉมคงไม่กล้าข้ามน้ำมาเนื่องจากเป็นฤดูน้ำเหนือไหลบ่าล้นฝั่งแม่ปิง
...แต่คืนนั้นเองโฉมพายเรือฝ่าความมืดความเชี่ยวกรากของน้ำ กอสวะและท่อนซุง ก่อนเรือจะล่ม โฉมจมหายไปในกระแสน้ำ
...ผู้เล่าเรื่องให้ข้าพเจ้าฟังที่ช่างรู้รายละเอียดนั้น ที่แท้ในอดีดเป็นสมภารวัดผู้แนะนำให้พระนักเทศน์ใช้อุบายหยุดยั้งเด็กสาวโดยนัดโฉมมาในคืนแรม 15 ค่ำ
"เรื่องมันก็เกิดจากความโง่ของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เข้าใจในธรรมชาติของผู้หญิง"
คัดลอกจากหนังสือ หักมุมนั้นฉันใด ของ วัฒน์ วรรลยางกูร
ไม่มีความเห็น