มีข้อแนะนำเชิงความคิดและวิธีการสำหรับนักศึกษาปริญญาโทเอกดังนี้
ในประการแรก นักศึกษาควรตระหนักว่า การเริ่มต้นทำรายงานความคืบหน้าควรเริ่มต้นจากการทบทวนความคืบหน้าของงานของตนเอง หมายความว่า งานวิทยานิพนธ์ของเราเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งมายังอีกจุดหนึ่งอย่างไร ? ดังนั้น การทบทวนควรจะทำให้นักศึกษาได้มีความชัดเจนทางความคิด ๓ ประการ กล่าวคือ (๑) จุดเดิมเมื่อการรายงานความคืบหน้าครั้งที่ผ่านมาอยู่ตรงไหน ? (๒) สามเดือนที่ผ่านมาทำให้เคลื่อนที่จากจุดเดิมมาได้แค่ไหน ? มากแค่ไหน ? มีแผนงานไหมในสามเดือนนี้ ? ทำได้ตามแผนไหม ? มีอุปสรรคอะไรไหม ? (๓) อีกสามเดือนข้างหน้าจะทำอะไร ?
ในประการที่สอง นักศึกษาน่าจะเขียนแผนผังความคิดอันเป็นผลมาจากการทำงาน ซึ่งควรจะเป็นแผนผังที่ทำต่อเนื่องจากงานที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมของประชาคมวิจัยฯ ในครั้งที่ผ่านมา แผนผังที่ทำขึ้นนี้จะสร้างความชัดเจนของความคิด และจะส่งผลดีเพื่อนักศึกษาและคณาจารย์จะได้มีภาพเดียวกันในหัวสมอง และนอกจากนั้น คณาจารย์จะได้มีโอกาสให้ความเห็นต่อ state of knowledge ที่นักศึกษาเป็นอยู่ค่ะ ซึ่งในปีแรกของการทำงาน อุดมคติหรือเป้าหมายของงาน ก็คือ นักศึกษาควรเห็น body of knowledge ให้ครบถ้วนค่ะ เพื่อที่จะสามารถทำ scope of thesis work ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสรุป ความรอบด้านขององค์ความรู้เกี่ยวกับหัวข้อวิทยานิพนธ์น่าจะได้รับการทบทวนเบื้องต้นโดยเจ้าของหัวข้อและทักทอระบบคิดทั้งหมดอย่างเป็นระบบอย่างน้อยในรูปของแผนผัง อันเป็นวัตถแห่งการศึกษาร่วมกันระหว่างนักศึกษาและคณาจารย์ที่อยู่ในประชาคมวิจัยฯ ที่เกิดขึ้น
ในประการที่สาม สำหรับนักศึกษาในปีที่สองนี้ ก็ควรจะเริ่มคิดและตัดสินในในเรื่อง Research Questions and Scope of Thesis หมายความว่า จะต้องจำกัดขอบเขตของการศึกษาเพื่อลงลึกแล้วล่ะ ผลของปีที่สองที่ควรเป็น ก็คือ สารบาญของวิทยานิพนธ์นะคะ เพื่อที่ปีที่สาม จะได้จัดการสอบสารพัดสอบ ตั้งแต่คุณสมบัติ ภาษา และที่สำคัญที่สุด ก็คือ เค้าโครงวิทยานิพนธ์ซึ่งกรรมการสอบที่จะถูกตั้งมาเพิ่มเติมเห็นด้วย
ในประการที่สี่ นักศึกษาควรให้ความสนใจกับกรณีศึกษา เพราะข้อเท็จจริงจากเรื่องจริงหรือเรื่องสมมติเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับการอธิบายแนวคิดที่เป็นนามธรรม และการนำกรณีศึกษามาแลกเปลี่ยนกันในที่ประชุมประชาคมวิจัยฯ จะสร้างความเข้าใจในผลการค้นคว้าของนักศึกษา และลดช่องว่างระหว่างนักศึกษาและคณาจารย์ การสะสมกรณีศึกษาตลอดเวลาที่ทำวิทยานิพนธ์จะนำไปสู่ความชัดเจนในความคิด ดังนั้น ในแต่ละการประชุมประชาคมวิจัยปริญญาโทเอก จึงแนะนำให้นักศึกษาเสนอกรณีศึกษาที่พบในแต่ละช่วงเวลาเข้ามาด้วย
ยกตัวอย่างจากกรณีของ อ.ด๋าวซึ่งทำเรื่องสิทธิในสถานะบุคคลนั้น ก็อาจยกกรณีศึกษาเกี่ยวกับการที่ สปสช.ร้องขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพสำหรับคนไร้สัญชาติ อันทำให้เรื่องความสำคัญของสัมพันธภาพระหว่างสิทธิในหลักประกันสุขภาพและสิทธิในสถานะสถานะบุคคล กรณีศึกษานี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า “สถานะบุคคลเป็นจุดกำเนิดแห่งสิทธิ” หากไม่มีสถานะบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด ความเป็นผู้ทรงสิทธิตามกฎหมายก็ไม่เกิด เมื่อแนวคิดของ สปสช. ในเรื่องลักษณะของสถานะบุคคลของผู้ทรงสิทธิในหลักประกันสุขภาพไม่ชัด การต่อสู้เพื่อที่จะขอให้รัฐไทยต้องให้สิทธิในหลักประกันสุขภาพแก่มนุษย์จึงล้มเหลว หรือเกือบล้มเหลว (?? การประเมินผลนี้ขึ้นด้วยกับ Realism ของแต่ละผู้ประเมิน)
ในประการที่ห้า เสนอให้นักศึกษาเสนอรายชื่อหนังสือและเอกสารที่ค้นพบและอ่านในช่วงเวลาที่จะต้องรายงานความคืบหน้า ซึ่งอาจจะรวบรวมเป็นบรรณานุกรมเอาไว้ล่วงหน้า และปรับปรุงไปทุก ๓ เดือนที่มีการประชุมรายงานความคืบหน้า การทำเช่นนี้ส่งผลดีต่อนักศึกษา เพราะหาก reading ที่สำคัญหายไป คณาจารย์จะได้มีโอกาสเพิ่มเติมให้
ในประการที่หก เสนอให้นักศึกษามีการสื่อสารกับคณาจารย์และบุคคลอื่นที่ร่วมประชาคมวิจัยฯ ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เตรียมรายงานความคืบหน้า ภาวะการตกตะกอนทางความคิด (Cristalization of Idea) จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ การสื่อสารทางเว็บหรืออีเมลล์เป็นโอกาสอันดีของยุคที่ ICT ก้าวหน้าดังปัจจุบัน นอกจากนั้น การลุกขึ้นมาช่วยกันเตรียมความคิดของคนหนึ่งในประชาคมวิจัยจะกระตุ้นความสนใจในการศึกษาร่วมกันของคนอื่นๆ โดยสรุป จึงเสนอให้นักศึกษาแชร์การเตรียมรายงานความคืบหน้ากับคณาอาจารย์ รวมถึงเพื่อนร่วมประชาคมวิจัยปริญญาเอกในช่วงเวลาเตรียมรายงานความคืบหน้า
ในประการที่เจ็ด เสนอให้นักศึกษาขอความช่วยเหลือจากคณาจารย์ในแต่ละการประชุมเสนอรายงานความคืบหน้า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต้องเกิดจากการกระทำของสองฝ่าย ความรู้จะงอกงามหากมีการทักทอความรู้ร่วมกัน ควรมีการสนทนาวิชาการระหว่างกัน การประชุมประชาคมวิจัยระดับปริญญาโทเอกมิใช่เรื่องของการมาฟังบรรยาย แต่เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนความคิดด้วยปัญญา
โดยสรุป ข้อเสนอแนะทั้ง ๗ ประการนี้มาจากประสบการณ์ที่ทำวิทยานิพนธ์มาเองและการคุมวิทยานิพนธ์มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๒ จนถึงปัจจุบัน ขอท่านทั้งหลายที่กำหนดทำวิทยานิพนธ์ โปรดอ่านและพิจารณา
-------------------------------------------------------
สวัสดีปีใหม่ไทย53 ค่ะ อาจารย์แหวว ที่รักเสมอ
มีความสุขมากๆๆนะคะ ขอบคุณ สำหรับบันทึกที่ดี มีประโยชน์มากมายค่ะ
สวัสดี ครับ อาจารย์Archanwell
เข้ามารดน้ำ และขอพร อาจารย์ ในเทศกาลวันปีใหม่ของไทย นะครับ
ด้วยความเคารพ
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ ครูอ้อย แซ่เฮ และ แสงแห่งความดีค่ะ
สวัสดีปีใหม่เมืองครับอาจารย์
ขอบคุณอาจารย์มากเลยครับ สำหรับข้อคิดและข้อปฏิบัติ
ผมจะใช้กรอบนี้ในการทำ thesis ต่อไปครับ
ขอบคุณครับผม