We shall reign in righteousness for the benefits and happiness of the Siamese people
ขออนุญาตนำบทความ"เราภูมิใจในพ่อของเรา"ของรศ.ดร.อัมพร สุขเกษม จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
(ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต)
คนไทยทุกคนถือว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นพ่อ เพราะตลอดเวลาตั้งแต่ได้ทรงครองแผ่นดินไทย โดยประกาศพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ จนบัดนี้ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร โดยนัยแห่งพระปฐมบรมราชโองการนั้นอย่างแน่วแน่มั่นคงสืบเนื่องยาวนานตลอดมาเป็นเวลานานถึง ๕๙ ปีแล้ว นับว่าทรงเป็นพระราชาธิราชผู้ดำรงราชสมบัตินานที่สุดในโลก ไม่มีพระราชาธิบดีพระองค์ใดในประเทศใดเทียบได้
ตลอดเวลาที่ทรงครองแผ่นดินไทยตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอเนกประการ สุดที่ผู้ใดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ พระราชกรณียกิจทุกประการของพระองค์ส่งผลเป็นคุณอนันต์แก่พสกนิกรชาวไทยโดยทั่วหน้าไม่มีเว้น กล่าวได้อย่างมั่นใจว่า ไม่มีคนไทยคนใดที่ไม่ได้รับผลจากการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ใช่แต่คนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินไทยก็ดี ชาวต่างชาติในแผ่นดินอื่นก็ดี ต่างได้รับความสุขความเจริญจากพระราชกรณียกิจของพระองค์อย่างกว้างขวาง ด้วยพระคุณอันประเสริฐไพศาลนี้เอง พระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของคนไทย จึงปรากฏแผ่ไพศาลไปทั่วโลก
การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะประกอบกรณียกิจจนเป็นที่ยอมรับของมหาชนทั่วโลกนั้น เป็นเรื่องที่ควรอัศจรรย์ใจ เพราะหากผู้นั้นมิใช่เป็นผู้มีอัจฉริยภาพพิเศษแล้ว ย่อมจะไม่สามารถสร้างสรรค์งานอันเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่มหาชนได้ ผู้มีอัจฉริยภาพโดดเด่นดังกล่าวนี้ย่อมหาไม่ได้มากนัก แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชแห่งกรุงสยามนี้ กลับยิ่งมีพระอัจฉริยภาพเหนือบุคคลอัจฉริยะทั้งหลายในโลก จึงทรงเป็นเอกบุรุษรัตนะของโลกโดยแท้จริง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลากหลาย ในด้านพระอัจฉริยภาพในด้านศิลปะ พระองค์ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงพระปรีชาสามารถทั้งในด้านการวาดภาพ การถ่ายภาพ การปั้น งานช่าง การดนตรี ปรากฏเป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่นิกรชนทั้งในและต่างประเทศ ผลงานด้านศิลปะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีเป็นจำนวนมากและทรงคุณค่ายิ่ง ทรงเป็นศิลปินโดยแท้ มิได้เพียงสมัครเล่น พระราชอัจฉริยภาพดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์ชัดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากการที่สถาบันการดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา ทูลเกล้าฯ ถวายพระเกียรติให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์เป็นอันดับที่ ๒๑ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๗ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาจิตรกรรม พุทธศักราช ๒๕๐๘ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญาว่าทรงเป็นอัครศิลปินเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๙ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ดนตรี) เมื่อพุทธศักราช ๒๕๓๐ เป็นอาทิ
นอกจากพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักกีฬา ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบ และได้ทรงใช้เรือที่ทรงต่อเองเข้าร่วมแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ ๔ เมื่อเดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๔ และทรงเป็นผู้ชนะเลิศกีฬาเรือใบประเภทโอเค
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นประหนึ่งพ่อของไทยทุกคน นอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถในด้านศิลปวิทยาทั้งปวง โดยได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ บังเกิดเป็นผลดีต่อประชาชนอย่างกว้างขวางทั่วถึง พระราชกรณียกิจเหล่านั้นต้องอาศัยความรอบรู้วิทยาการสาขาต่างๆ อย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง ทั้งหลักทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ผลแห่งพระราชกรณียกิจจึงสะท้อนความรอบรู้ของพระองค์ได้อย่างชัดเจนยิ่ง จึงปรากฏว่าสถาบันอุดมศึกษาในประเทศทุกแห่งต่างทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาต่างๆ มากมายจนที่สุดจะกล่าวได้ครบถ้วน
ใช่แต่เท่านั้น ยังทรงได้รับการถวายเกียรติยศทางวิชาการจากสถาบันต่างๆ ในต่างประเทศอีกมากมายด้วย อาทิ ปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐเวียดนาม อินโดนีเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ปริญญามนุษยศาสตรดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ทรงได้รับการถวายพระเกียรติให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ราชศัลยแพทยวิทยาแห่งอังกฤษ เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสถาบันดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งนครเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรเลีย รวมทั้งทรงได้รับรางวัลสันติภาพ I.A.U.P ซึ่งคณะกรรมการอาวุโสเพื่อสันติภาพของสมาคมประธานมหาวิทยาลัยนานาชาติ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายด้วย
แม้พระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจะโดดเด่นเห็นปานฉะนี้ ก็ยังมิได้มหัศจรรย์ยิ่งไปกว่าการที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงรู้จักประเทศชาติและประชาชนของพระองค์ได้ดีที่สุดในโลก ไม่มีพระมหากษัตริย์หรือประมุขแห่งรัฐใดจะเสมอเหมือนได้ กล่าวได้ว่าทรงใช้ระยะเวลากว่า ๕๐ ที่ทรงครองราชย์ เรียนรู้ปัญหาของประเทศไทยและประชาชนไทยจนเข้าพระทัยชัดเจน จึงสามารถทรงแนะนำทั้งภาคทฤษฎีและทรงแสดงแบบอย่างให้ประชาชนได้เจริญรอยพระยุคลบาท พระราชทานพระราชดำริอันเป็นประโยชน์มากมาย เช่น ทรงแนะนำให้ใช้หญ้าแฝกปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ ทรงแนะนำให้ใช้โครงการ "แก้มลิง" ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร และเมื่อประเทศไทยประสบกับปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ ก็ทรงแนะนำให้ประชาชนปรับวิถีดำเนินชีวิตเป็นแบบเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขได้ในสถานการณ์ร้ายแรงนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงดำรงราชัยมไหศวรรยธิปัตย์มานานกว่า ๕๐ ปี ได้พระราชทานพระราชดำรัส พระบรมราโชวาทในเรื่องต่างๆ ในโอกาสต่างๆ ไว้มากมาย พระราชดำรัสทั้งปวงนั้น หากจะประมวลแล้วก็จะเป็นดังพระปฐมบรมราชโองการ คือทรงใช้ธรรมะเป็นหลักในการครองแผ่นดิน พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาททั้งปวงจึงประกอบด้วยคุณธรรมอเนกประการ คุณธรรมตามแนวพระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทเหล่านั้น แม้นผู้ใดนำไปปฏิบัติให้ครบถ้วนถูกต้องโดยต่อเนื่อง ก็จะบังเกิดแต่ความสุขความเจริญฝ่ายเดียว มิได้ประสบทุกข์ร้ายเลย ข้อนี้นับได้ว่าเป็นพระอัจฉริยภาพที่สำคัญยิ่ง เพราะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นมีจริง หากผู้ใดปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทโดยสุจริตแล้ว ก็จะได้รับผลเป็นความเจริญรุ่งเรือง
ธรรมดาผู้เป็นพ่อนั้น นอกจากจะทำงานหนักเพื่อความสุขของลูกแล้ว ยังแสวงหาทรัพย์ไว้สำหรับลูก เพื่อให้ลูกมีอนาคตที่ดี มีความสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นพ่อที่ประเสริฐของคนไทย หรือแม้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย ทรงสละความสุขส่วนพระองค์ ทรงอุทิศพระองค์เพื่อความสุขของประชาชนผู้เปรียบเหมือนลูกของพระองค์ มิใช่เพียงเพื่อความสุขในปัจจุบัน แต่ได้ทรงวางรากฐานสำคัญสำหรับอนาคตของพสกนิกรและประเทศของพระองค์ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การที่พระองค์พระราชทานพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจแบบพอเพียง ให้ประชาชนนำไปปฏิบัติเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงสำหรับทุกคน อันจะส่งผลให้ประเทศไทยมีอนาคตทางเศรษฐกิจที่ปลอดพ้นจากการครอบงำทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่า
นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๘๙ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งพระราชอาณาจักรไทย นับเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทย-คนไทยได้ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายนานัปการ บางครั้งเหตุการณ์นั้นก็ร้ายแรงเสียจนไม่รู้ว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นภัยทางธรรมชาติหรือเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง อันก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิต แต่แล้วด้วยพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองก็ได้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ นั้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
คนไทยทุกคนภูมิใจที่มีพ่อเป็นผู้ทรงคุณอันประเสริฐหาผู้ใดเปรียบมิได้ ทรงมีพระปรีชาสามารถเปี่ยมล้น พระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คนไทยมีความสุขทั่วหน้ากัน
พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อแผ่นดินไทยและประชาชนชาวไทยนั้น มากล้นสุดพรรณนา
เราภูมิใจในพ่อ-ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาและเลิศด้วยอัจฉริยภาพของเรา.
ในพิพิธภัณฑ์บุคคลสำคัญๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์เอกผู้คิดค้นและค้นพบความรู้ต่างๆก็เพียงเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งแต่ผลงานพระราชอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ของชาติไทยทรงมีทุกด้านที่โลกจะต้องจารึกไว้ว่าทรงเป็นปราชญ์ของโลก เพื่อเป็นมรดกของมวลมนุษยชาติสืบไป
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ ท่านมีอัจฉริยะภาพในทุกๆๆด้านจริงๆๆ
ขอให้ครูจอมใจมีความสุขในวันสงกรานต์และวันปีใหม่ไทยครับ
ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง
ปีใหม่นี้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกและพระบารมี
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปกป้องคุ้มครองท่าน
และครอบครัวให้มีความสุขนะคะ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานค่ะ
สุขสันต์วันครอบครัวค่ะ