การปฏิรูประบบราชการของที่นี่ทำกันมานานแล้ว ผมถามคุณ Elaine Ward ซึ่งเป็นระดับบริหารในกระทรวงสาธารณสุข (Department of Health and Ageing) ออสเตรเลีย เธอบอกว่า เข้าใจความยากลำบากของเมืองไทยในเรื่องการปฏิรูประบบราชการ และการกระจายอำนาจ เพราะข้าราชการที่ออสเตรเลียก็เคยผ่านความเจ็บปวดเช่นเดียวกันมาแล้ว เขาก็มีระยะเปลี่ยนผ่านมาถึงปัจจุบันก็ราวๆ ๓๐กว่าปีแล้ว ทุกวันนี้ข้าราชการรุ่นใหม่ๆก็ทำสัญญา Contract กับรัฐบาล และแม้แต่ในระดับรัฐ องค์กรต่างๆก็บริหารในลักษณะการจ้างผู้บริหาร ซึ่งทุกคนก็ยอมรับกติกาอันนี้ ถ้าทำผลงานไม่ดีก็มีสิทธิ์ถูกเลิกจ้างได้ แต่ผู้บริหารที่จ้างมาให้บริหารองค์กรก็ได้รับมอบอำนาจจากบอร์ดค่อนข้างเบ็ดเสร็จเพื่อให้บริหารได้อย่างอิสระเต็มที่ในลักษณะที่เรียกว่า Chief Executive Officer หรือ CEO นั่นเอง อย่างนี้บ้านเราไม่คุ้นเคย
ที่นี่เขาถือเอาข้อตกลงเป็นเรื่องสำคัญ เขาทำกันเป็นลายลักษณ์อักษรกันทุกระดับตั้งแต่ระดับประเทศ ระดับรัฐ ระดับองค์กร จนถึงระดับบุคคล จะได้จำได้ ตกลงกันไว้อย่างไรก็ถือตามนั้น ข้อตกลงต่างๆที่ได้เห็นก็มีความชัดเจนว่าต้องการอะไร และจะวัดผลกันอย่างไร อย่างนี้ก็สบายใจกันทุกฝ่ายไม่ต้องมาทะเลาะกันภายหลัง อย่างบ้านเรามักไม่คุยกันให้ชัดเจน หรือตกลงกันให้แน่นอน พอถึงเวลาก็ไม่เป็นไปตามที่เคยพูดกันไว้ แล้วก็โทษกันไปมา การดำเนินงานต่างๆก็มีแนวทางหรือที่เรียกว่า Guideline ที่ชัดเจน CEO ของหน่วยงานหนึ่งที่เราไปดูงานยังบ่นว่า แนวทางมากจริงๆ ของเก่ายังดูไม่หมด ของใหม่ส่งมาอีกแล้ว เราก็ได้idea บางอย่างว่า มี guideline เนี่ยดีแล้ว และก็ควรปรับปรุงให้ทันสมัยเป็นระยะๆตามความเหมาะสม แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงบ่อยเกินไปก็อาจเป็นปัญหาเช่นเดียวกัน อันนี้คงไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว ขึ้นกับลักษณะของงานแต่ละงานและปัจจัยต่างๆที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบกัน
เรื่องการใช้คนเนี่ย เขาใช้กันคุ้มค่าทีเดียว พวกเราได้มีโอกาสซื้อ package tour ในช่วงวันหยุด วันอาทิตย์ ออกเดินทางตั้งแต่เช้า ประมาณ ๘ นาฬิกา กลับถึงโรงแรมก็เกือบสี่ทุ่ม พนักงานของบริษัทที่พาเราไปเที่ยวนี้ทั้งพนักงานขับรถ เด็กประจำรถ มัคคุเทศก์ รวมทั้งหมด ๑ คน ครับ เรียกว่า All in One จ้างคุ้มจริงๆ คนขับรถแกจะจัดคนลงที่นั่งเรียบร้อย ก็ไปขับรถ พอออกรถ แกก็เริ่ม บรรยาย พูดไปขับไป ตลอดทาง ขับไปสักพัก แกก็หยุดพักรถที่ริมสวนสาธารณะให้พวกเราลงแวะ แล้วแกก็เริ่มทำตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารว่าง โดยขนเอาอุปกรณ์ต่างๆใต้ท้องรถออกมาตั้ง ทั้งน้ำร้อน น้ำชา ขนน แถมสาธิตวิธีชงชาแบบดั้งเดิมให้พวกเราชมด้วย พักประมาณ๔๐นาทีก็ออกเดินทางต่อ แกก็แปลงร่างกลับมาเป็นพนักงานขับรถ+มัคคุเทศก์อีก นำเที่ยวไปตลอดเส้นทางที่เรียกว่า Great Ocean Road ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามมาก กลับมาถึงที่พักก็เกือบสี่ทุ่ม เรียกว่าเราก็คุ้ม บริษัทก็คุ้มเพราะใช้พนักงานเพียงคนเดียว พนักงานคนนี้แกคงเหนื่อยน่าดู แต่ดูๆไปแกก็คงมีความสุขเพราะเห็นอารมณ์ดีตลอดทางน่าประทับใจจริงๆ
มีเรื่องที่น่าสนใจมาก อีกเรื่อง ที่ได้เรียนรู้จากเขา คือ การรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวด้านสุขภาพ โดยVicHealth ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เมืองไทยเราเอามาเป็นแบบอย่างในการตั้งสำนักงาน สสส.บ้านเรา เขาทำ Social marketing ด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆจนประสบผลสำเร็จอย่างมาก ในหลายๆเรื่อง
นายคนนี้แหละ All in One ทำทุกหน้าที่...ระหว่างพักรถ แกก็ลงมาชงชาแบบโบราณให้พวกเราดู เสร็จแล้วก็เสิร์พน้ำชาให้เราดื่มเลย
สวยงามมาก..ส่วนหนึ่งของเส้นทาง Great Ocean Road สร้างลำบากมากแต่ก็คุ้มค่า
รางวัลผลงานการจัดทำรายงานประจำปียอดเยี่ยม
ทำงัยจะได้ไปดูด้วยตาครับเนี่ย