เจตนาหํ กมฺมํ วทามิ.
และแล้วเพราะอำนาจ ไทยเลยฆ่าไทย....เศร้าจังครับ
ปัจจุบัน นายทหารคงต้องเลือกอำนาจหละครับ เพราะสถานการณ์บังคับแล้ว ยิ่งมติ กกต.ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียุบพรรค น่าจะลอดยาก ท่านนายกอภิสิทธิ์หมดทางคืนชีพแล้วเวลานี้
แต่ยังสงสัยอยู่ว่า ถ้าจะใช้อำนาจเท่าที่ยังมีอยู่ขณะนี้ยุบสภา แล้วชาวแดงจะยอมหรือไม่ เพราะโอกาสเป็นรัฐบาลของชาวแดงกลับคืนมาแล้ว อำนาจกำลังจะถูกเปลี่ยนถ่ายครับ
บอกแล้วไงครับว่าใครจะมาเป็นนายก ไทยต้องฆ่าไทยกันอีกกี่ครั้ง ผมเติมน้ำมันยังต้องจ่ายตังค์อยู่ดีครับ ชาวแดงบนเวทีนะยังพอมีโอกาสเป็นรัฐมนตรีสักสองสามคน เมื่อได้เป็นรัฐมนตรีเติมน้ำมันไม่ต้องจ่ายตังค์เอง นอกนั้นมีสิทธิ์จ่ายตังค์ค่าน้ำมันเท่าผมหละครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจเสมอมา
ในทางกฎหมาย กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ซึ่งตรงกับ พุทธภาษิตบทนี้หละครับ
เจตนาหํ กมฺมํ วทามิ หรือถ้าผมแปลอย่างง่ายก็คือ เจตนานั้นแหละคือกรรมของวาจา
ดังนั้นไม่ว่า ชาวแดง ชาวเหลือง ผู้นำทหาร นายกรัฐมนตรี นักการเมือง ต่างมีวาจาแสดงเจตนาของกรรมหละครับ เรารับทราบวาจากรรมของท่านเหล่านี้ เรามีสิทธิ์ชี้กรรมให้ท่านเหล่านี้ทราบก็ตอนเราอยู่ในคูหาเลือกตั้งเท่านั้นหละครับ เดินออกนอกคูหาเลือกตั้งก็หมดสิทธิ์ทันทีเชื่อเถอะครับ
ก็ทำใจภาวนาให้ชาวไทยได้ศึกษาเรียนรู้อย่างทั่วถึงเท่านั้นเอง หากการศึกษาไม่ทั่วถึง ก็ยังเข้ารูปแบบเดิมที่นักการเมืองมักจะ กดให้ต่ำ ทำให้โง่ ปกครองง่าย อยู่ดีหละครับ ไม่เห็นหรือครับชาวแดงทั้งที่ได้รับการศึกษามาแล้วยังจะเรียกตัวเองว่า" ไพร่ " เลยครับ คนที่เรียกนำชาวแดงก็มีแต่พวกบนเวทีเท่านั้นหละครับ ซึ่งท่านเหล่านี้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีแน่นอนครับ คิดแล้วเศร้าครับ
ยินดียิ่งที่ได้รู้จักครับท่านเอกชน
ครูน้องไม่สนทหารชาติอื่น รู้แต่ว่ารถทหารไทยถูกปล่อยลมยางแล้วต้องเดินเท้าลัดเลาะทุ่งนาเพื่อไปขึ้นรถที่ถนนใหญ่ ซึ่งต้องขนอุปกรณ์ประจำตัวทั้งกระบอง โล่ หมวก หน้ากากกันพิษ ชุดทหารที่ทั้งร้อนทั้งหนัก ส่วนเสื้อแดงขึ้นรถปิกอัพแถมโบกมือบาย ๆ ให้ทหาร
ถ้าทหารไม่หลงกล ก็คงไม่มีการปะทะและคนไทยคงไม่ต้องฆ่ากันเอง
ยินดียิ่งที่ได้รู้จักกับคุณครูน้อง ครับ
เกมส์แห่งอำนาจ ครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงครับที่ นายทหารจะเลือกเอาอำนาจ
มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายท่านที่ผมรู้จัก ท่านบอกว่าเจ็บครับ แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะชาวแดงที่ออกมาปะทะกับทหารต่างเป็นคนไทย แต่ถ้าปะทะกับเหล่าแกนนำยินดีรับรองผลครับ นายทหารหลายนายท่านไม่เห็นด้วยในวิธีการของนักการเมือง(ซึ่งก็รวมท่านนายกด้วยหละครับ) ตอนนี้มีปัจจัยที่ชัดมากขึ้นแล้วครับ เราใกล้จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วครับ ปัจจัยที่ว่า
ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด เมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ที่มีส่วนไปร่วมแย่งอำนาจมาจากจอมพลถนอม กิตติขจร
แล้วผมจะแวะไปเยี่ยมโรงเรียนของคุณครูน้อยนะครับ
ขอบคุณมากครับที่แวะให้กำลังใจ
ครูน้อง ต้องการรํฐธรรมนูญที่มาจากกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ต้องการ "รัฐธรรมนูญจากปลายกระบอกปืน"
ก๊อกๆๆเปียกยังอ่ะ..
มีความสุขมากๆน่ะค่ะ..
ก่อนเวลาที่จะเขียนข้อความนี้ มีข่าวสั้นแจ้งให้ทราบว่า มีการวางระเบิดเสาไฟฟ้า ละแวกบางปะอิน และข่าวสารที่รัฐพยายามสื่อสารออกมา การสูญเสียทั้งฝ่ายทหารและประชาชน ล้วนมาจากผู้ก่อการร้าย (ที่ไม่ระบุตัวตน) ซึ่งฝ่ายการข่าวน่าจะทราบว่าเป็นใคร มาจากกลุ่มไหน เบื้องหลังเรื่องนี้ค่อนข้างยาวนะครับ คงต้องรอวันสิ้นสุดปัญหาจึงจะทราบว่าใครทำอะไร อย่างไร แค่ไหน
ประเด็นการชี้มูลของ กกต. 4 ต่อ 1 ที่ให้ยุบพรรค ปชป. หากดูข้อเท็จจริงที่ฝ่ายกฎหมายของ ปชป.จะนำไปต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะทำให้ไม่เกิดกรณียุบพรรคนะครับ
ระยะเวลากว่าจะถึงวันนั้น คงจะนานพอดู การทบทวนสถานการณ์ของรัฐและทหาร หรือหน่วยงานความมั่นคง ผมคิดว่าต้องนำไปสู่ปฏิบัติการที่รวบรัด และทำให้เรื่องยุติได้ทันที ถ้าทุกคนตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติครับ
ขออภัยคุณครูน้องด้วยครับที่เมื่อคืนไม่ได้กลับมาตอบความเห็นอีกครั้ง
ผมเองก็ภูมิใจรัฐธรรมนูญที่มาจากเสียงของประชาชนไทยมากกว่าครับ แต่เท่าที่มีมาถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ มีเพียง รัฐธรรมนูณ 2517 เท่านั้นที่ได้มาโดยเสียงของประชาชน นอกนั้นภายใต้อำนาจทหารทั้งหมดหละครับ และเป็นเพราะผลของ รัฐธรรมนูญ 2517 หละครับที่รัฐและข้าราชการฝ่ายปกครองจะสูญอำนาจเมื่อครบสองปีนับจากรัฐธรรมนูญ 2517 ประกาศใช้ เป็นเหตุให้เกิดเหตุ กรณี 6 ตุลาคม 2519 เพราะความในหมวดนี้ครับ
มาตรา ๒๑๔ การจัดระเบียบการปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งนครหลวง ต้องเป็นไปตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ท้องถิ่นตามวรรคหนึ่งมีอิสระในการกำหนดนโยบายการปกครองท้องถิ่นของตน และมีอิสระในทางการภาษีอากรและการเงินแห่งท้องถิ่น ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย มาตรา ๒๑๕ ท้องถิ่นใดมีลักษณะที่จะปกครองตนเองได้ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ย่อมมีสิทธิปกครองตนเอง มาตรา ๒๑๖ การปกครองท้องถิ่นทุกระดับในทุกจังหวัดรวมทั้งนครหลวง ให้มีสภาท้องถิ่นและหัวหน้าฝ่ายบริหารท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่น มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในท้องถิ่นและต้องมีการเลือกตั้งตามระยะเวลาที่กำหนดในกฎหมาย มาตรา ๒๑๗ การเลือกตั้งสมาชิกของสภาท้องถิ่น ให้ใช้วิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ การเลือกตั้งหัวหน้าฝ่ายบริหารท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่น จะใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ หรือจะให้สภาท้องถิ่นเลือกตั้งจากสมาชิกของสภาท้องถิ่นก็ได้ ทั้งนี้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และมีการกำหนดเวลาให้บังคับใช้มาตราข้างต้นภายใน 2 ปี หากศึกษาให้ลึกจะเห็นได้เลยว่า รุ่งขึ้น ฝ่ายปกครองจะสิ้นอำนาจทันที นี้คือเหตุที่แท้จริงครับ มาตราที่ผมว่ามีตามนี้ครับ หมวด ๙ การปกครองท้องถิ่น
มาตรา ๒๓๗ ในระหว่างที่ยังมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือบัญญัติกฎหมายขึ้นใหม่ เพื่อให้การปกครองท้องถิ่นเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๑๔ มาตรา ๒๑๖ และมาตรา ๒๑๗ ซึ่งต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันใช้รัฐธรรมนูญนี้ มิให้นำบทบัญญัติสามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับ เห็นยังครับว่าหลังจากที่เราได้ประชาธิปไตยมาโดยเสียงประชาชน เมื่อใกล้สิ้นอำนาจของฝ่ายปกครอง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ถูกล้มล้าง โดยอำนาจทหาร นี้คือสาเหตุแท้จริง ส่วนเหตุอื่นนั้นเป็นเพียงฉากที่ฝ่ายการเมืองและฝ่ายปกครองจัดขึ้นแล้วส่งไม้ต่อให้ทหาร รัฐธรรมนูญ ฉบับอื่นนั้นได้มาโดยเสียงประชาชนจริงหรือเปล่าหากศึกษาให้ลึกก็จะทราบครับ ขอบคุณครับที่แวะมารอบที่สอง
เฮ้อ...น่าสงสารประเทศไทยจัง...น่าสงสารทหารจะตายมีแต่โล่กับกระบอกไปสู้กับคนจำนวนมาก..คนสั่งหนีไปซุกอยู่ที่ไหน...
สวัสดีครับท่าน คณิน อุดมความสุข
เรื่องกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนะทุกท่านที่ติดตามการเมืองมาโดยตลอดมองออกครับว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มใด
ผมเคยตอบความเห็นของบางท่านว่า เวลาผู้ร้ายจะฆ่าใคร เขาฆ่าเลยครับไม่เคยไปเปิดกฎหมายดูก่อนฆ่าว่าผิดหรือถูกขั้นตอน
ท่านนายกเองต่างหากที่มัวเปิดกฎหมายดูว่าถูกขั้นตอนหรือไม่ เลยต้องมาประกาศกฎหมายให้อำนาจตัวเองเสียก่อน เมื่อประกาศแล้วแทนที่จะดำเนินการให้เบ็ดเสร็จ เพื่อตัดช่องทางไม่ให้ผู้ร้ายใช้เป็นโอกาส แต่กลับไปนับ หนึ่ง ใหม่ ทุกครั้งเมื่อฝ่ายปฏิบัติจะลงมือจับกุมแกนนำ
ผมไม่เชื่อว่าทหารก็ดี ตำรวจก็ดีจะไม่มียุทธวิธีเข้าถึงตัวแกนนำ หากพ่ายแพ้จริงก็ไม่สมควรจะให้มีตำรวจ ทหาร อีกต่อไปเพราะประชาชนอย่างชาวแดงก็สามารถปกป้องตนเองได้ครับ ยุบหน่วยให้หมดไปพร้อมกับพรรคประชาธิปัตย์เถอะครับ เราจะได้จ่ายภาษีน้อยลง
กกต.เองก็เช่นกัน กฎหมายให้อำนาจเบ็ดเสร็จ และอ้างตนเองตลอดเวลาว่าเป็นองค์กรอิสระ แต่เห็นการทำงานแล้วผมไม่แน่ใจว่าอิสระจริงหรือเปล่า เพราะตลอดเวลาที่จะประกาศมติยุบพรรคใด ก็จะมีมติภายหลังจากถูกผู้ประท้วงนำกำลังมาปิดล้อมกดดัน ถึงมีการประชุมลงมติ ก่อนหน้านั้นไปทำอะไรอยู่ มามีมติเอาตอนนี้แล้วจะไม่ให้ฝ่ายที่เขาเห็นต่างจากชาวแดง สงสัย กกต.ได้อย่างไร เมื่อก่อนไม่มี กกต. การเลือกตั้งก็ได้ สส. และ สว. แบบสิ้นคุณค่า ตอนนี้ มี กกต. ก็ยังได้ สส.และ สว. แบบสิ้นคุณค่าเช่นเดิม ก็สมควรยุบไปพร้อมกับพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน
ผมไม่ได้โกรธแค้นแทนพรรคประชาธิปัตย์ ผมเลือกพรรคประชาธิปัตย์เป็นบางครั้ง เลือกตั้งทุกครั้งผมดูนโยบาย พรรคใดมีนโยบายตรงตามที่ผมคิดผมก็เลือก จนกระทั้งการเลือกตั้งล่าสุดนี้เท่านั้นที่ผมไม่ยอมไปใช้สิทธิเลือกหรือแสดงสิทธิใดๆเพราะผมเห็นว่า สส. และ สว. สิ้นคุณค่าที่ผมจะไปเสียเวลาให้ถ้าหากจะถามผมว่าทำไมผมถึงว่าอย่างนี้ มองเข้าไปในสภาซิครับนั้นคือคำตอบของผม เคยมีน้องๆนักเรียนทราบว่าผมเป็นนักกฎหมายเลยมาถามผมว่า สส.และ สว. มีคำเรียกเต็มว่าอย่างไร ผมตอบไปว่าไม่ทราบ เพราะไม่มีคุณค่าพอที่จะเรียนรู้คำเรียกเต็มผมจึงไม่ทราบ น้องๆนักเรียนเขายิ้มพร้อมกับหัวเราะครับ
ตามที่ท่านคณิน คาดหวังจะให้ขั้นตอนการพิจารณาคดียุบพรรคคราวนี้เป็นไปโดยเร็วและยังหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต่อสู้คดีได้นั้นผมขอตอบดังนี้ครับ
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่ามีหลักฐานจะชนะคดีได้จริง คงไม่มีการร้องให้อัยการสั่งให้สอบพยานใหม่ และจะเป็นฝ่ายเร่งรัดให้อัยการพิจารณาสั่งคดีโดยเร็ว หากอัยการไม่ดำเนินการภายในกำหนดที่กฎหมายให้เวลาไว้ นักกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีมากกว่าครึ่งพรรคคงไม่ปล่อยให้อัยการลอยนวล
ขออภัยนะครับที่ตอบยาวไปหน่อย
ขอบพระคุณครับที่เปิดช่องให้บ่น
สวัสดรับ
ที่ว่า เจตนาหํ กมฺมํ วทามิ.
ไม่มีความหมายอื่นครับ...ความหมายตามนั้น..คือ"เรากล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม" เป็นคำกล่าวของท่านผู้รู้ครับไม่ใช่ผม เนื่องจากคำนี้มาจากทางพุทธศาสนาคำำกล่าวนี้จึงเป็นคำกล่าวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ
อธิบายนะครับ หมายถึง แม้สิ่งที่ทำนั้นดีแต่มีเจตนาไม่ดี ก็ถือว่าไม่ดีจริง นั้นคือที่ำทำดีเพราะมีเจตนาปิดบัง คืือแท้จริงที่ทำอย่างนั้นเพราะทำต่อหน้าบุคคลอื่นแต่ไม่อยากให้รู้ว่าตนเป็นคนไม่ดีหรือมีความมุ่งหวังอย่างอื่น ถ้าอยู่คนเดียวหรือพวกเดียวกันก็จะทำอีกอย่าง
สรุปครับ...
1. ทำดี(เพราะ)มีเจตนาดี คือ ดี (ธรรมดาคนดีย่อมทำดี เพราะปํญญา)
2. ทำดี(แต่)เจตนาไม่ดี คือ ไม่ดีจริง=ไม่ดี (มันยังไม่จบ ยังมีเรื่องอื่นต้องทำต่อหรือหวังผลจากเจตนานี้ เรื่องแบบนี้มีมากหาง่าย)
3. ทำไม่ดี(และ)มีเจตนาไม่ดี คือ ไม่ดี (ธรรมดาคนไม่ดีย่อมทำไม่ดี เพราะสิ่งที่เขาทำทำให้เขาเป็น)
4. ทำไม่ดี(แต่)มีเจตนาดี คือ ดี (มันยังไม่จบ ไม่มีเวลาอธิบายต้องทำแบบนี้ไปก่อนเพื่อผลอื่นที่ต้องการ เป็นเรื่องที่ไม่ต้องทำถ้าไม่ทำจะเสียหายมาก เรื่องแบบนี้มีน้อยหากยาก)
คิดๆ เอาเองนะครับ
สวัสดีครับท่าน เอกชน
ขอบพระคุณครับที่กลับมาให้คำอธิบายอีกรอบ ภาษาบาลีผมไม่สันทัดจริงๆครับ เลยแปลตามความเข้าใจแบบงูๆปลาๆ
ขออภัยด้วยนะครับที่เข้ามาตอบช้าไปหลายวัน
ขอบคุณครับที่แวะอีกรอบ