นวัตกรรมกับการพัฒนาระบบสารสนเทศ
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต และมีแนวโน้มจะพัฒนาต่อไปโดยไม่มีวันสิ้นสุด เคยลองสังเกตรอบ ๆ ตัวเราดูไหมว่าตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนกระทั่งเข้านอนตอนกลางคืน ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีแบบใดบ้าง เช่น การปรุงอาหาร การเดินทาง การสื่อสารหลากหลายรูปแบบ วัสดุ-อุปกรณ์สำหรับการทำงานในอาชีพต่าง ๆ ฯลฯ จะเห็นว่าเราได้ใช้เทคโนโลยีหลาย ๆ รูปแบบโดยไม่รู้ตัว และได้ยอมรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากความง่ายและให้ประโยชน์มากมายกับมนุษย์ จึงทำให้คนรู้สึกเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แต่ในทางเดียวกัน หากมีเทคโนโลยีเกิดขึ้นมาและทำให้รู้สึกไม่เป็นปกติในการดำเนินชีวิตทำให้เกิดการต่อต้านและต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีความยากในการผสมผสานให้เข้ากับวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์และในบางครั้งก็ได้รับการปฏิเสธจากมนุษย์ไป
ในทางการศึกษาก็เช่นเดียวกันได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงานด้านต่าง ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทั้งในด้านการบริหาร และการปฏิบัติงาน ลดความซ้ำซ้อนของงาน ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การติดต่อสื่อสารรวดเร็ว การเรียนการสอนในยุคนี้จึงมีการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น ระบบการบริหารการจัดการในสถานศึกษา (MIS) , บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) , Web-base Instruction, Courseware, e-Learning, e- Library, e- Portfolio, Video on Demand, Video Conference, โทรทัศน์วงจรปิด, โทรทัศน์การศึกษาทางไกล , วิทยุการศึกษา เป็นต้น ทั้งนี้เพราะสื่อการสอนเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการสร้างประสบการณ์ทางการศึกษาให้แก่ผู้เรียน สื่อการสอนมีให้เลือกมากมายหลายชนิด สิ่งสำคัญคือผู้สอนจะต้องเลือกและใช้สื่อการสอนให้เหมาะสมกับบทเรียน โดยสื่อดังกล่าวต้องใช้ได้อย่างสะดวก และเมื่อนำมาใช้แล้วต้องช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สื่อการสอนไม่ว่าจะเป็นสื่อชนิดหรือรูปแบบใด ความคิด และทักษะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศที่มากมายไปด้วยข้อมูลข่าวสาร การใช้สื่อการสอนในรูปแบบที่เหมาะสมจึงมีความจำเป็นมากขึ้น เพราะสื่อจะช่วยให้การรับรู้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสื่อและวิธีการเสนอสื่อนั้น ๆ สื่อธรรมดาที่สุด เช่น ชอล์ก, กระดานดำหรือไวท์บอร์ด หากมีการออกแบบการใช้ที่ดีก็อาจมีประสิทธิภาพในการสื่อความหมายมากกว่าการใช้สื่อที่ซับซ้อน และมีราคาแพงกว่าก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม สื่อแต่ละประเภทย่อมมีข้อดีและข้อจำกัดในตัวเอง
ความหมายของนวัตกรรมและระบบสารสนเทศ
นวัตกรรม(Innovation)
หมายถึง การนำสิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นแนวคิด หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อนหรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงจากของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยและได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและแรงงานด้วย
นวัตกรรมทางการศึกษา (Educational Innovation)
หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำรวมถึงสิ่งประดิษฐ์ก็ตาม เข้ามาใช้ในระบบการศึกษาเพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วก็เกิดแรงจูงใจในการเรียนและช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย การใช้วีดีทัศน์เชิงโต้ตอบ (Interactive Video) สื่อหลายมิติ(Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
หลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาว่าสิ่งใดคือนวัตกรรม
1. เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วน
2. มีการนำวิธีการจัดระบบ (System Approach) มาใช้พิจารณาองค์ประกอบทั้งส่วน ข้อมูลที่ใช้เข้าไปในกระบวนการและผลลัพธ์ให้เหมาะสมก่อที่จะทำการเปลี่ยนแปลง
3. มีการพิสูจน์ด้วยการวิจัยหรืออยู่ระหว่างการวิจัยว่าจะช่วยให้ดำเนินงานบางอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4. ยังไม่เป็นส่วนหนึ่งในระบบงานปัจจุบัน
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอันมีผลทำให้เกิดนวัตกรรม
1. แนวคิดพื้นฐานในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ( Individual Different) นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวคิดพื้นฐานนี้ เช่น
- การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non- Graded School)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- เครื่องสอน (Teaching Machine)
- การสอนเป็นคณะ (Team teaching)
- การจัดการเรียนในโรงเรียน (School within School)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( Computer Assisted Instruction)
2. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความพร้อม (Readiness) นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
- ศูนย์การเรียน (Learning Center)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3 Phases)
3. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการใช้เวลาเพื่อการศึกษานวัตกรรมที่สนองแนวความคิด เช่น
- การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น ( Flexible Scheduling)
- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- การเรียนทางไปรษณีย์
4. แนวคิดพื้นฐานในเรื่องการขยายตัวทางวิชาการและอัตราการเพิ่มประชากรนวัตกรรมในด้านนี้ที่เกิดขึ้น เช่น
- มหาวิทยาลัยเปิด
- การเรียนทางวิทยุการเรียนทางโทรทัศน์
- การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป
- ชุดการเรียน
สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (raw data) มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ในส่วนของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) จะหมายถึงกระบวนการต่าง ๆ ในระบบงานที่ช่วยให้ได้สารสนเทศที่ต้องการโดยจะรวมถึง
ระบบสารสนเทศ (Information System) เป็นคำที่มีคยวามหมายกว้าง อาจหมายถึง ระบบที่ดำเนินการจัดการข้อมูลข่าวสารในองค์กรให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างเป็นระบบระเบียบโดยไม่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ในที่นี้จะหมายถึงระบบที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยจัดข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ได้มาเพื่อสารสนเทศเพื่อนำไปประกอบการตัดสอนใจในเวลาอัดรวดเร็วและถูกต้องที่สุด ดังนั้นระบบสารสนเทศในที่นี้ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ ผู้ใช้ กระบวนการ และตัวข้อมูลหรือสารสนเทศโดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสามารถตรวจสอบและประเมินผลระบบได้ อธิบายได้คือ เมื่อมีข้อมูลข่าวสารที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการบริหารจัดการ องค์กรสามารถสร้างระบบสารสนเทศในระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการกับข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น ให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูลหรือ web base มีฮาร์ดแวร์ที่ทำงานสัมพันธ์กับซอฟต์แวร์เกิดกระบวนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนจากการทำงานประสานกันของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล(ข่าวสาร) โดยบุคลากรทางวิชาชีพ เช่น นักคอมพิวเตอร์ นักบริหารฐานข้อมูล หรือนักเขียนโปรแกรม รวมทั้งนักวิเคราะห์และนักออกแบบระบบเป็นผู้ดำเนินงานตามที่ผู้ใช้ ต้องการ จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรารู้จักกันในนาม “ระบบสารสนเทศ” ดังนั้นเมื่อมีระบบ สารสนเทศแล้วองค์กรหรือธุรกิจจะสามารถได้รับประโยชน์หลัก 2 ประการดังนี้
1.สามารถประมวลผลสารสนเทศในลักษณะต่าง ๆ เช่น เป็นการประมวลระบบสารสนเทศเพื่อให้ได้ผลลัพธ์นำมาใช้เฉพาะด้านเฉพาะส่วนหรือสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจของทั้งองค์กร ยกตัวอย่างเช่น บริษัทขายหนังสือ ย่อมต้องการข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้ากรณีที่มีลูกค้าและรายการสินค้าที่สั่งซื้อจำนวนมาก บริษัทจะต้องติดต่อผู้ผลิตหลายราย ข้อมูลอาจสับสนหากไม่มีระบบการสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เมื่อนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้าก็จะสามารถตรวจสอบ วัน เดือน ปี ที่สั่งซื้อสินค้า จำนวนสินค้าแต่ละรายการ สำนักพิมพ์หรือผู้ผลิตสินค้า ราคา การตรวจสอบสินค้าที่มีอยู่ในร้านบางส่วน การจัดส่ง การชำระเงิน การตรวจสอบรายการสินค้ากับลูกค้า ฯลฯ ได้อย่างรวดเร็วทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และเมื่อบริษัทมีข้อมูลที่ถูกต้องจะสามารถป้องกันการรั่วไหลของผลกำไรได้
2. ผู้บริหารสามารถใช้ผลลัพธ์ของระบบหรือสารสนเทศจากระบบไปประกอบการตัดสินใจภายในหน่วยงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำรายงานสรุปเสนอผู้บริหารระดับสูงเพื่อผู้บริหารระดับสูงสามารถนำไปพิจารณาประกอบการวางแผนธุรกิจในอนาคตต่อไป
สรุปได้ว่า ระบบสารสนเทศ จำเป็นต้องมีระบบข้อมูลหรือระบบฐานข้อมูลที่จัดเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพและการเข้าถึงระบบข้อมูลนี้อาจจัดการให้อยู่ในรูปของระบบผู้ใช้คนเดียว หรือระบบเครือข่ายเฉพาะที่ (LAN) หรือระบบหลากผู้ใช้ที่มีคอมพิวเตอร์ระดับ เมนเฟรมเป็นแม่ข่าย ตลอดจนระบบเครือข่ายแบบ client/server system ที่ผู้ใช้ขององค์กรกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ แต่สามารถแลกเปลี่ยนและเข้าถึงสารสนเทศซึ่งกันและกันได้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
สาระความรู้
สมรรถนะ
มีรายละเอียดดังนี้
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
การนำเอาเทคโนโลยีทางการศึกษาไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนนั้น เรามักจะพบว่าเมื่อสถานการณ์ของการใช้เปลี่ยนแปลงไป เช่น ชั้นเรียนที่ผู้เรียนเปลี่ยนไป หรือเวลาที่ต่างกัน สิ่งเหล่านั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของวิธีการที่ผู้สอนนำไปใช้ในการเรียนการสอนทั้งสิ้น ในกรณีที่ใช้วิธีการนั้นต่อไป ซึ่งนับว่าเป็นการใช้เทคโนโลยี แต่ในกรณีที่ประสิทธิภาพลดลง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงวิธีการนั้น ๆ หรืออาจต้องหาวิธีการใหม่ ๆ มาใช้ สิ่งใหม่ที่นำมาใช้หรือวิธีการที่ได้รับนำเอาการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนี้เรียกว่า นวัตกรรม (Innovation) นวัตกรรม= นว(ใหม่)+อัตตา(ตนเอง)+กรรม(การกระทำ)
ในการดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ มักจะเผชิญปัญหาต่าง ๆ มากมายมนุษย์จึงพยายามสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา เพื่อแลกเปลี่ยนจากสภาพที่เคยเป็นอยู่ไปสู่สภาพที่อยากเป็น นวัตกรรมจึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการต่าง ๆ เช่น นวัตกรรมทางการแพทย์ นวัตกรรมทางการเกษตร นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม นวัตกรรมทางการบริหาร นวัตกรรมทางการประมง นวัตกรรมทางการสื่อสาร ฯลฯ
ลักษณะของนวัตกรรม สิ่งที่ต้องจัดว่าเป็นนวัตกรรม ควรประกอบด้วยลักษณะ ดังนี้
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (๒๕๔๙) ได้กำหนดแนวทางการออกแบบมัลติมีเดียเพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพไว้ 5 ประการ ได้แก่
1. กำหนดเป้าหมาย (Goal) การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้สามารถสร้างสื่อฯได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยสามารถจำแนกเป้าหมายได้ดังนี้
1.1 เพื่อถ่ายทอดความรู้
1.2 เพื่อสร้างทักษะ
1.3 เพื่อสนับสนุนการทำงาน
2. ศึกษาพฤติกรรมของผู้เรียน โดยจะต้องศึกษาว่าผู้เรียนคิดอย่างไร ยอมรับนวัตกรรมใหม่ รูปแบบนี้หรือไม่ ผู้เรียนเรียนรู้จาก Concept หรือศึกษากระบวนการก่อนนำไปพัฒนาความเข้าใจในเนื้อหา
3. พิจารณาถึงประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกมีส่วนร่วมกับสื่อ
4. ศึกษาความคงทนของเนื้อหา พิจารณาว่าเนื้อหามีความคงทนนำไปใช้งานได้นานแค่ไหน มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งหรือไป อย่างไร
5. ใช้เทคนิคของทีม นำผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านมานำเสนอความรู้ ผสมผสานกับผู้เรียนออกความเห็นต่อสื่อ
ในส่วนของโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีการสำรวจการใช้สื่อมัลติมีเดียในโรงเรียน พบว่า มีความหลากหลายและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากความแตกต่างของขนาดโรงเรียน ภูมิภาค และการให้ความสำคัญของการจัดการเรียนการสอน โดยการใช้สื่อของแต่ละแห่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1.ระดับพื้นฐาน เป็นการนำสื่อที่มีอยู่แล้วทั่วไปมาใช้ร่วมในการเรียนการสอนอย่างไม่เป็นทางการ เช่น นำบทเรียนบรรจุในCD-ROM ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด ดาวน์โหลดสื่อรูปต่าง ๆ ที่บริการแจกฟรีจากอินเตอร์เน็ต การได้รับจัดสรรสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากส่วนกลางหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้นักเรียนใช้เรียนเสริมในเวลาว่างหรือในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างเรียน ทั้งนี้สื่อที่นำมาใช้จะมีรูปแบบไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับครูผู้สอน ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงแต่เนื้อหาสื่ออาจจะตรงหรือไม่ตรงกับบทเรียนเลยก็ได้
2. ระดับบูรณาการร่วมกับการสอน เป็นการนำเสนอมัลติมีเดียมาใช้อย่างมีแบบแผน โดยนำสื่อไปไว้ในส่วนหนึ่งของแผนการสอนแบบรูปธรรมเป็นแผนการสอนที่นำ ICT มาใช้ในการบูรณาการในชั้นเรียน การได้มาของสื่อมัลติมีเดียจัดหามาได้หลายทาง เช่น ผลิตขึ้นเอง การจัดซื้อ จัดจ้าง ดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตทั้งที่บริการแจกฟรีหรือเสียค่าใช้จ่าย ได้จัดสรรจากส่วนกลาง หรือได้รับบริจาคจากหน่วยงานภายนอก เป็นต้น
3. ระดับบูรณาการร่วมกับระบบเครือข่าย โดยการนำเทคโนโลยีมัลติมีเดียไปใช้งานร่วมกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือที่รู้จักกันทั่วไปเรียกว่า e- Learning ซึ่งมีระบบบริหารจัดการชั้นเรียน คือ LMS การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนสามารถติดต่อได้โดยผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีแผนการสอนชัดเจนและเป็นแผนการสอนด้าน ICT ครูผู้สอนสามารถสร้างบทเรียนได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้การจัดหาและพัฒนาสื่อยังมีความหลากหลายและมีจำนวนเพียงพอสำหรับจัดการสอน ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ การใช้สื่อเป็นรูปแบบปฏิสัมพันธ์ ทั้งในตัวสื่อเองและระบบบริหารจัดการชั้นเรียน การจัดระบบการเรียนการสอนแบบนี้ต้องใช้งบประมาณการลงทุนสูงและต้องอาศัยบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะด้านมาช่วยสนับสนุน จะพบว่าในโรงเรียนขนาดใหญ่- ใหญ่พิเศษ หรือโรงเรียนต้นแบบ ICT ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
นวัตกรรมการศึกษา Innovation
หมายถึง การนำความคิดใหม่ ๆ วิธีการปฏิบัติใหม่ ๆ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่แปลกไปจากเดิมหรืออาจจะได้รับการปรับปรุงของเก่าให้ใหม่และเหมาะสมกับสถานการณ์ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการทดลอง พิสูจน์และพัฒนาเป็นขั้นตอนเป็นระบบ จนเป็นที่เชื่อถือได้ว่าให้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรานำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติทางการศึกษา โดยจุดมุ่งหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาให้สูงขึ้น
ประเภทของนวัตกรรมทางการศึกษา
ประเภทตามเนื้องาน
นวัตกรรมด้านการบริหารการศึกษา การใช้ทฤษฎีบริหารจัดการ การใช้คอมพิวเตอร์จัดเก็บข้อมูล
กระบวนการของการพัฒนาการเรียนการสอน โดยทั่วไปมักเกิดจากความต้องการในการแก้ปัญหาปรับปรุงการเรียนการสอนของครู ดังนั้นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพัฒนานวัตกรรมจึงอยู่ที่การศึกษาสภาพปัญหา การคิดค้นหรืออกแบบ นวัตกรรมให้สอดคล้องกับปัญหา การสร้างหรือพัฒนานวัตกรรมให้สมบูรณ์ตามแนวหรือกรอบของแบบนวัตกรรมที่กำหนด การทดลองวิจัย และพัฒนาเพื่อให้นวัตกรรมมีประสิทธิภาพสูงสุด การเผยแพร่ไปสู่ประชากรเป้าหมายเพื่อให้เกิดการยอมรับและนำไปปฏิบัติอย่างแพร่หลายและกว้างขวาง
เทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์
ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
-เราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในทุก ๆ ด้าน เช่น การเกษตร การค้าขาย การแพทย์ อุตสาหกรรม ฯลฯ และเมื่อเรานำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านการศึกษาเราจึงเรียกว่า “เทคโนโลยีการศึกษา(Educational Technology)” เทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องมือที่ทันสมัย วิธีการต่าง ๆ ที่นำมาใช้ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีได้
-เทคโนโลยีการศึกษา Educational Technology เป็นการประยุกต์เอาเทคนิค วิธีการ แนวความคิด วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งต่าง ๆ อันสืบเนื่องมาจากเทคโนโลยีมาใช้ในวงการศึกษา
ขอบข่ายของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ด้านการศึกษาสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะใหญ่ 5 ลักษณะ คือ(กิดานันท์ มลิทอง. 2540: 5 อ้างมาจาก Anandam and Kelly 1981:127)
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
-เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
-เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
-เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
-เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ
ประโยชน์ที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
-การสร้างเสริมความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส
-การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนสะดวก รวดเร็วและเป็นระบบมากขึ้น
ปัญหาที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
-ขาดการนำไปใช้อย่างเหมาะสม
-ขาดผู้รู้จริง หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะนำไปใช้ประโยชน์
การพัฒนาระบบสารสนเทศที่ยั่งยืน
การบริหารงานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจหรือการบริหารการศึกษาก็ตามได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้มากมาย ผู้บริหารสถานศึกษาจึงจำเป็นที่จะต้องติดตามข่าวสารและพัฒนาการทางเทคโนโลยีทางการศึกษาอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้ที่ตามทันเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการจัดการศึกษา การบริหารงาน หรือแม้แต่การทำงานทุกอย่างในชีวิตประจำวัน
ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในปัจจุบัน เราพบว่าทุกหน่วยงานได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้พร้อมติดตั้งอินเตอร์เน็ตสำหรับค้นหาข้อมูลข่าวสารและการติดต่อธุรกิจ ธุรกิจ สถาบันการศึกษาได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือช่วยสอน การผลิตสื่อการเรียนการสอน ตลอดจนการบริหารงานด้วย ผู้บริหารที่ไม่สนใจเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาจะขาดโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ขาดโอกาสที่จะรับรู้ข่าวสารและความก้าวหน้าต่าง ๆ ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว หากปล่อยให้เวลาผ่านไปมากก็จะกลายเป็นคนตกยุคไปเลย
ระบบสารสนเทศ(ในองค์กร)ประกอบด้วย 4 ระบบย่อย ได้แก่
สรุป
ปัจจุบัน เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศในหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้พัฒนาระบบงานข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้สำหรับช่วยการดำเนินงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการประมวลผลเพื่อให้ได้ระบบสารสนเทศ เป็นการรวมกลุ่มของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ กระบวนการ ฐานข้อมูล และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศภายในองค์กรให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับใช้ในงานระบบปฏิบัติการ การบริหารและการตัดสินใจในการทำงาน
เอกสารอ้างอิง
ถนอมพร เลาหจรัสแสง. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน. กรุงเทพฯ : ภาควิชาโสตทัศนศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541.
สุกรี รอดโพธิ์ทอง. เอกสารคำสอน วิชา คอมพิวเตอร์ช่วยสอน. คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2546.
สุมาลี ชัยเจริญ. ทฤษฎีการเรียนรู้ คอนสตรัคติวิสต์. ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. (เอกสารอัดสำเนา). 2545.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. วารสารวิชาการ. 2552.
ไม่มีความเห็น