ที่รัก วันนี้ค่าหัวเธอเท่าไหร่?


 

ยุคก่อนโน้นมีเรื่องมนุษย์กินคน เที่ยวไล่ล่าหัวมนุษย์เผ่าอื่น

สมัยเปาบุ้นจิ้น ใครทำไม่ดีต้องโดนอาญาด้วยปังตอหัวสุนัข

มาสมัยนี้คนไทยมีค่าหัวทั่วหน้า

จะเลือกตั้งก็ต้องจ่ายรายหัว

จะชวนไปเดินม็อบก็ต้องจ่ายรายหัว

อยากจะเป็นอะไรต้องจ่ายทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็นอบต.ผอ.ตำรวจ ทหาร ผู้ว่า หาทางจ่ายกันทั้งนั้น

ระบบค่าหัวเป็นที่รู้กันและเห็นพ้องว่ามันเป็นวิธีสร้างความสำเร็จ

 

กิเลศต้องแลกด้วยกิเลศ

เสื้อแดงจ่าย เสื้อขาวก็จ่ายบ้าง

อบต.ชวนใส่เสื้อขาวไปเดินปกป้องสถาบัน

จ่ายรายหัวๆละ 100 บาท

ไม่จ่ายไม่ปกป้องยังงั้นรึวะ

โห! แบบนี้ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาแต่ละสถาบันมันก็อ่วมนะสิ

 

จับจ่ายกันเพลินเลยนะพ่อมหาจำเริญ

เอาเงินที่ไหนมาจ่ายกันหนักกันหนา

เงินที่โกงมาถูกโกงกลับคืนไปตามสภาพการจัดตั้ง

เงินที่กู้ต่างประเทศมานี่สิน่าคิด จะเอาเงินที่ไหนไปชดเชย

 

การบริหารค่าหัวกำลังเดินหน้าทั้งในระบบและนอกระบบ
พวกขี้โรคมีบัตรทอง 30 บาท

พวกแก่รอเข้าโลง มีบัตรผู้สูงอายุ 500 บาท

พวกเงินกู้นอกระบบ สงเคราะห์รายละ 3-50,000 บาท

พวกกองทุนหมู่บ้าน ครัวเรือนละ10,000-50,000 บาท

พวกชดเชยนาแล้งนาล่ม ครัวเรือนละ30,000-100,000 บาท

พวกที่ฝึกอบรมต้นกล้าอาชีพรายละ 2-30,000 บาท

พวกอบรมเศรษฐกิจไม่พอเพียง รายละ3,000-10,000บาท

พวกรับ-จ่าย-ชักค่าหัวคิวนี่ยากที่จะหยั่งถึง

คนไทยบ้าตามเพลง “แบบนี้มันต้องถอน”

จึงเฮโลถอนทุนเอากับชาติบ้านเมือง

ไม่ฉิ-หายตอนนี้ก็ไม่รู้จะวายวอดกันตอนไหน

ไอ่เรื่องที่คิดว่าบ้านเมืองจะปกติสุขสนุกสบายเหมือนเดิมเลิกคิดได้แล้ว

โจทย์สังคม โจทย์ประเทศ โจทย์บ้านโจทย์เมืองกำลังเปลี่ยน

ต่อไปนี้โปรดเตรียมเผชิญกับความเปลี่ยนแปรที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

นั่งบนภูดูหมาเห่า

เห็นผลจากการลอยเพสังคมของวัฒนธรรมร่วมสมัยแบบไทยๆ

เกิดกระบวนการกระเหี้ยนกระหือเพิ่มค่าหัวตัวเองจ้าละหวั่น

หัวขบวนรับค่าปากพร่อยมากหน่อย

ท้ายขบวนรับลูกเย๊วๆลดลั่นกันไป

บางคนที่ตกหล่นโดนอุบอิบก็บ่กระปอดกระแปด

ประชาธิปต๋อยที่ถีบด้วยเงินเดินด้วยตีน

หลังจากเสวยสุขกันมานาน

ต่อไปนี้คนไทยทุกผู้ทุกนามก็ต้องเสวยทุกข์กันบ้างละนะ

ประเทศที่หลอกตัวเองเรื่องประชาธิปไตยมันเป็นยังงี้แหละ

อย่าไปโทษใครเลย ประเทศนี้ยัง..

 

ไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง มีแต่ประชาธิปต๋อย

ไม่มีการสร้างฐานประชาธิปไตย มีแต่ประชานิยมที่บิดเบือนความจริง

ไม่มีกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีแต่โฆษณาชวนเชื่อเป็นครั้งคราว

ไม่มีพรรคการเมืองวิญญาณประชาธิปไตย มีแต่พรรคกินเมือง

ไม่มีใครดูดำดูดีกับเรื่องสังคมส่วนรวม มีแต่ละโมบกอบโกยมาเป็นส่วนตน

ไม่มีวัฒนธรรมการเมืองที่เหมาะสม มีแต่วัฒนะกูทำ มึ-จะทำไม?

ไม่มีหลักสูตรหรือเนื้อหาที่สามารถเข้าถึงวิถีไท มีแต่หลักกูแทนหลักการ

ไม่มีคำตอบ มีแต่คำตลบตะแลง

มันจะตอ-ลไปถึงไหนก็ไม่รู้นะ ..

 

อยากจะจับพวกหลอกหลอนลงหม้อถ่วงน้ำ

หย่อนลงแม่น้ำโขง

ให้มันไหลลง ไหลลง ทะเล

แม่โขงก็แห้งขอดอีก

เฮ้อๆๆ..

หมายเลขบันทึก: 349519เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2010 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

มา ฮา กับครูบาครับ

ลองมาย้อนดูสังคมมันเปลี่ยนมาตั้งแต่ปี 40 แล้วครับ ครูบา

แต่เปลี่ยนมากตั้งแต่ ปี 47

มันย้อนไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว มีแต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

ใช่เลย ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เป็นคำตอบสุดท้าย

ขอบคุณครับ ที่อุปการะความคิดเห็น

สวัสดีค่ะ..ท่านครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์..

  • เฮ้อ!..บางครั้งการได้ถอนหายใจก็ช่วยบรรเทาได้นะคะ..
  • เป็นข้อคิดที่ครูบา..มอบให้พวกเราต้องไปคิดตามกันให้มาก..ขอบคุณนะคะ
  • เป็นอีกผู้หนึ่งที่ไม่ท้อไปกับสิ่งเหล่านี้..
  • อย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้วอย่างครูบา..ต้องขออนุญาตด้วย
  • เป็นกำลังให้นะคะ..อย่าท้อเลย..

ความจริงครับ

เป็นกำลังใจนะครับ

ชีวิต ครับ ท่านพี่ ใครทำดี ชีวี มีสุข ครับ

คุณจำเนียรวดี ชื่อแปลกดี

ดีใจที่เข้าใจ และเดินไปด้วยกัน

ความเห็นต่างไม่ได้แปลว่า ต้องอยู่คนละข้าง

ยังเป็นคนไทย และรักกันได้เสมอ

แต่ถ้ารักกันไว้ จะดีที่สุด

ไม่หลงการเมือง แต่พยายามเรียนรู้และเข้าใจกันและกัน

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาทักทายและมาเป็นกำลังใจให้กันด้วยสายฝนเย็น ๆ ค่ะ
  • ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

            

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท