4-4-2553 “จุรินทร์”ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เร่งรัดงานตามนโยบาย เน้นงานส่งเสริมสุขภาพ พัฒนา คุณภาพการรักษาพยาบาล ที่คุณภาพดี รักษาหายเร็ว ผู้รับบริการพึงพอใจ และมีส่วนร่วมของประชาชน

“จุรินทร์”ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เร่งรัดงานตามนโยบาย เน้นงานส่งเสริมสุขภาพ พัฒนา คุณภาพการรักษาพยาบาล ที่คุณภาพดี รักษาหายเร็ว ผู้รับบริการพึงพอใจ และมีส่วนร่วมของประชาชน  

วันนี้(4 เมษายน 2553)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ว่า สั่งการให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เร่งรัดดำเนินงานตามนโยบาย ของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเน้นหนักที่คุณภาพการรักษาพยาบาล คุณภาพบริการและการมีส่วนร่วมของประชาชน 

โดยนโยบายที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ ดังนี้ 1.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อลดการเจ็บป่วย และการสูญเสียงบประมาณ เช่น โครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ได้พัฒนายกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศ ให้มีศักยภาพในการดูแลคนในชุมชน โดยในปีงบประมาณ 2553 จะยกระดับอย่างน้อย 5,000 แห่ง ที่เหลือจะทำให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2554 เน้นการส่งเสริมสุขภาพ รักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จะมีบุคลากรอย่างน้อย 4 คนเป็นหลัก ได้แก่ แพทย์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพขนาดใหญ่ หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่บริหาร นักวิชาการสาธารณสุข และทันตาภิบาล 

2.การรักษาพยาบาล เน้นคุณภาพบริการในทุกระดับ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญนอกจากจะรักษาให้หายป่วยแล้วต้องรักษาให้รวดเร็ว คุณภาพบริการต้องดีด้วย จำเป็นต้องมีบริการด่านหน้า ที่ต้องปรับโฉมให้มีพนักงานประชาสัมพันธ์คอยต้อนรับผู้ป่วย ช่วยให้คำแนะนำเป็นการช่วยแพทย์ พยาบาลที่มีจำนวนจำกัดในเรื่องข้อมูลข่าวสารแก่ผู้รับบริการเพื่อลดปัญหาการฟ้องร้องจากความไม่เข้าใจกัน นอกจากนี้ต้องแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงาน และประชาชนในพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมทั้งจากหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้รับบริการ องค์กรสถาบันต่างๆ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เข้ามาเป็นกรรมการด้วยและมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นเลขานุการ เพื่อให้การบริหารโรงพยาบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความร่วมมือในชุมชน นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด 

****************** 4 เมษายน 2553 

 "โครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ได้พัฒนายกระดับสถานีอนามัยทั่วประเทศ ให้มีศักยภาพในการดูแลคนในชุมชน โดยในปีงบประมาณ 2553 จะยกระดับอย่างน้อย 5,000 แห่ง ที่เหลือจะทำให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2554 เน้นการส่งเสริมสุขภาพ รักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จะมีบุคลากรอย่างน้อย 4 คนเป็นหลัก ได้แก่ แพทย์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพขนาดใหญ่ หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่บริหาร นักวิชาการสาธารณสุข และทันตาภิบาล"

1. ยกระดับแล้วยังไงครับท่าน ก็ท่านนายก ได้ลงนามในคำสั่ง เตรียมโอนสถานีอนามัยไปสู่ท้องถิ่นแล้วนี่ครับ   ภายในปีนี้ด้วยนะครับ 

2. ยกระดับแล้วเจ้าหน้าที่ท่านเพิ่มให้หรือเปล่า ท่านบอกว่าต้องมีอย่างน้อย 4 คน มีแพทย์ด้วย อืมม เป็นไปไม่ได้หรอกจะให้แพทย์มาตรวจ / ถ้าไปช่วยเดือนละครั้ง สองครั้ง ก็ว่ากันไป แต่ให้มาอยู่เลยที่อนามัย ไม่มีใครไปหรอกครับ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็มีแค่ 2-3 คน เท่านั้น ปกติ ควรจะมี 5-7 คน / เอาอย่างนี้ก็ได้ เด็กที่จบราชภัฏ มหาวิทยาลัย เช่น มมส. ปีนี้ก็ 100 กว่า คน ทำยังไงเขาถึงจะได้มาทำงานช่วย จังหวัดก็ไม่จ้างให้ ให้ สอ. จ้างเองมั๊ย เงินเอามาจากไหนครับท่าน คนหนึ่งประมาณ 96000 บาท/ปี แต่ FIXCOST  ได้แค่ 200000 ไหนจะค่าวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค ค่าเวรยาม ค่าจิปาถะ 

การรักษาพยาบาล เน้นคุณภาพบริการในทุกระดับ

คุณภาพท่ามกลาง 2-3 คน นี่นะครับ อืมม มีคนอยู่รอรับผู่ป่วยที่สถานีอนามัยก็บุญแล้วครับท่าน งานของกระทรวงเกือบทั้งหมด ลงที่สถานีอนามัยนะครับ  เดือนหนึ่ง สสจ. สสอ. รพ. เรียกประชุมไม่รู่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จะเอาที่ไหนไปทำเรื่องคุณภาพ 

สุดท้า่ยคือ ขวัญกำลังใจ ท่านไม่มีแนวทางที่ชัดเจน มีแต่จะผลักใสให้ไปที่อื่น 

*****บ่นหน่อยครับท่าน*****