ถ้าคิดจะขายของให้ผู้หญิงอย่าได้ทำอะไรที่เป็นการดูถูกพวกเธออย่างเด็ดขาดค่ะ จากที่เคยบอกไป ลูกค้าทั้งโลก 80% เป็นเพศหญิงค่ะ ถึงเธอจะไม่ใช่คนจ่ายเงินแต่อำนาจการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่เธออยู่ในกำมือของพวกเธอค่ะ
มีคุณป้าซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณแม่ของอรเอง แกทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น วันหนึ่งคุณป้ากับน้องชายไปดูรถเก๋ง Volvo ที่โชว์รูมในจ.ขอนแก่นค่ะ คุณป้าตั้งใจจะไปซื้อรถให้น้องชาย เพราะตัวแกเองขับรถไม่เป็น
คุณป้าไปเจอ salesman ขายรถผู้ชายคนหนึ่ง
salesman คนนั้นทักคุณป้าว่าแกขายก๋วยเตี๋ยวอยู่นี่นา เพราะเขาเองเคยมาทานก๋วยเตี๋ยวร้านแกก็เลยจำแกได้ จากนั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจแกเลยมองแกตั้งแต่หัวจรดเท้า แกถามอะไรก็ไม่ค่อยอยากตอบแถมยังพูดทำนองที่ว่าขายก๋วยเตี๋ยวแล้วจะมาซื้อรถ Volvo ขี่หรองัย
(ผลคงรู้ๆกันอยู่นะคะ คุณป้าเธอไม่ง้อหรอกค่ะใช่ว่าจะมีคุณขายอยู่ที่เดียวในโลกนี่นา)
มองคนอย่ามองแต่ภายนอกค่ะ เขาอาจจะเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองก็ได้ ถ้าคุณอยู่ในอ.ชุมแพ และรู้จักคุณป้าคนนั้นดีแบบดิฉันจะรู้ว่า นั่นล่ะที่เขาเรียกว่า "เศรษฐีณี"
ถึงคุณป้าจะแต่งตัวธรรมดาๆ ขายก๋วยเตี๋ยวก็จริง แต่คุณรู้ไหมว่าร้านของแกขายดีที่สุดใน อ.ชุมแพ แถมบรรดาร้านต่างอำเภอหรือหมู่บ้านอื่นๆก็จะมาซื้อลูกชิ้นหมูทำเองสูตรเด็ดของแกไปขายต่อด้วย ร้านก๋วยเตี๋ยวแกเปิดมากว่า 20 ปีแล้วค่ะ
วันๆหนึ่งแกขายได้เงินเป็นหมื่นๆ เดือนๆหนึ่งมันกี่แสนแล้วล่ะนั่น แล้วปีหนึ่งล่ะได้เท่าไร คิดเล่นๆให้ดูค่ะ 10,000x30=300,000x12=3,600,000
ท้ายที่สุด คุณป้าก็ไปซื้อรถ Volvo เหมือนเดิมค่ะ แต่ไปซื้อกับตัวแทนที่จ.โคราช แทน ที่นั่นคุณป้าบอกว่า
salesman พูดจาสุภาพนอบน้อมเอาใจใส่และบริการแกเป็นอย่างดี ทำให้แกรู้สึกเป็นคนสำคัญเป็นคนพิเศษและเป็นที่เคารพด้วยค่ะ
ตอนนั้นเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน แกหอบเงินสดไปซื้อนะคะ รถราคาประมาณ 2 ล้านกว่าบาท!
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ ^^
อ่านเรื่อง salesman ตกม้าตายเป็นเคสคล้ายๆกันจากหนังสือ why she buys ได้จาก ที่นี่ ค่ะ
* บ้านเราเมืองเรา ยังตัดสินคนกันที่รูปลักษณ์ภายนอกอยู่ครับ
* เป็น "อวิชชา" ของการขายครับ ผมว่านำไปใช้ได้ทุกเรื่องนะครับ ไม่เฉพาะการขาย
ขอบคุณบันทึกดีๆครับ
สวัสดีค่ะอร
แป้งเจอมาเยอะเหมือนกันนะค่ะเวลาไปซื้อของ
คนขายบางทีมองเราเหมือนกันว่าเราไม่มีเงิน และก็ไม่อยากมาบริการเรา
ซึ่งแป้งก็เหมือนคุณป้านี่แหละค่ะ ไม่อยากขายก็ไม่ซื้อ
ไม่ใช่มีคุณคนเดียวที่ขายอยู่บนโลกนี้
**ก็อย่างว่านะค่ะ การรักในอาชีพของคนขายแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน
ถ้าเค้ารักในงานที่เค้าทำแล้ว เค้าย่อมพร้อมที่จะบริการทุกคนค่ะ
อย่างเช่นที่บ้านแป้ง คนต่างอำเภอจะมีกำลังซื้อมากกว่าคนในเมืองอีกนะค่ะ
บางทีเค้ามาซื้อรองเท้าให้ลูก converse คู่ละเกือบ 2000 บาท เค้าก็ซื้อ
แค่เราพร้อมเต็มใจที่จะบริการทุกคนที่เข้ามาในร้านก็พอเนอะค่ะ ^_^
ขอบคุณค่ะอร
เคสแบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยๆครับ
Sale หลายๆท่านพลาดท่าเสียทีกันมาเยอะ เพราะตัดสินแค่ภายนอกเท่านั้น
ตามหลักแล้ว ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง บริการต้องได้มาตรฐานครับ
จะเลือกปฎิบัติไม่ได้โดยเด็ดขาย ไม่อย่างงั้นก็จะเป็นอย่างในเคสนี้ ^^
แวะมาทักทายค่ะพี่อร
อุ้มว่าเป็นบ่อยมาก ๆ เลยนะคะ เวลาอุ้มไปเดินห้างแล้วไปหยิบเสื้อผ้าบาง Shop ค่ะ พนักงานไม่สนใจอุ้มเลยเหมือนกะเราไม่มีตังค์ไปซื้อเค้าอ่ะ จนงงว่า ทำไมเหรอจะซื้อเสื้อผ้าแพงๆ ซักตัวใส่นี่ต้องแต่งตัวยังไงมาซื้อ สุดท้ายก็ไม่ได้หรอกค่ะเดินออกมาเลยเพราะเค้าไม่สนใจเรา
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ
เจ๊เคย วันนึง ไปห้างดังในกรุงเทพ กะจะไปทดสอบจิตวิญญาณการขาย
วันนั้นใส่ชุดธรรมดา เสื้อยืด กางเกงยีนส์เก่าๆ ทำผมกระเซิง ปอนๆ ไม่แต่งหน้า
ใส่รองเท้ายาง เหมือนรองเท้ายาง ของโรงยาบาลน่ะ แล้วเดินเข้าไปซื้อรองเท้า
ยี่ห้อชั้นนำ ยี่ห้อหนึ่ง ปรากฎว่าไม่ได้รับการเอาใจใส่ การดูแล หรือพูดคุยด้วยแต่อย่างใด
วันต่อมา แต่เดรสขาวลายดอกไม้ ใส่ส้นสูง และแต่งหน้า ทำตัวเชิด ๆ
ไปร้านเดิม .. คนขาย แทบถวายหัวให้เจ๊เลย แถมใส่รองเท้าให้เจ๊ด้วย ไม่ได้พูดเล่น
ผิดกัน ราวฟ้ากับเหว ..
เออ เพิ่งรู้เหมือนกันนะ ว่าสังคมเนี่ยมันช่างประเมินค่าของคน แค่การแต่งตัว
เนี่ยแหละ มันถึงไม่ได้เงินจากกระเป๋าเจ๊
ปล. วันหน้าน้องอร พาเจ๊ไปกินก๋วยเตี๋ยวป้าแกหน่อยดิ หุ หุ
เคยเจอบ่อยเหมือนกันค่ะ
ผู้ขายถ้ามองเราแต่ภายนอก ก็คงไม่ได้ขายหรอกค่ะ ปิดร้านไปซะเถอะ อิอิ
อย่ามาดูถูกผู้หญิงอย่างพวกเรา เห็นด้วยค่ะ ^^
ป้าก็เคยเจอกับตัวเอง แต่ไม่ใช่ซื้อของนะคะ เดือนที่แล้วป้าไปผ่าตัดลำใส้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง (ซึ่งเป็นการผ่าตัดครั้งที่3 คิดดูว่าแผลจะดึงรั้งขนาดไหน) วันนั้นเป็นวันที่ 3 ของการผ่าตัดเรื่องความเจ็บปวดไม่ต้องพูดถึงคะแนนความปวด 0-10ให้เต็มไปเลย ป้าอยู่คนเดียวไม่ให้ญาติเฝ้าเพราะคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอ วันนั้นคนไข้เยอะมากพยาบาลยังไม่นำยามาให้ ป้าก็เลยเดินไปขอที่เคาว์เตอร์ บอกพนักงานว่า " ขอยาห้องพิเศษ 1ค่ะ " พนักงานมองตั้งแต่ศีรษะจรดเ้ท้าด้วยสายตาดูแคลน พร้อมกับถามว่า " อยู่ห้องพิเศษเหรอใช้สิทธิ์ใครเบิกล่ะ " หลังจากตั้งสติได้ก็เลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆและบอกว่า " เบิกเองค่ะ ยา Metro 2 เม็ด Para 2 เม็ดแล้วป้าก็เดินไปหยิบยามากินเองโดยไม่หันหลังมองพนักงานคนนั้นอีกเลย .......พอเล่าให้ลูกชายฟังเค๊าก็หัวเราะบอกว่า " แม่ก็จะไม่มีสง่าราศรีขนาดนั้นเชียวเหรอ? " เฮ้อ ! คนป่วยเนาะจะให้สวยตลอดเวลาได้ไง
คุณป้า มนัสดา ขอบคุณที่แวะมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
คุณแม่อรก็โดนบ่อยๆค่ะ เวลาโทรมๆหรือไม่แต่งตัวใส่เครื่องประดับถ้าไปซื้อของตามห้างหรูๆ จะเจอแบบนี้ประจำเลย
มันเป็นค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่ไปแล้วค่ะที่เขาตัดสินคนจากเพียงภายนอก
ถ้าไม่อยากให้โดนดูถูกก็ อย่าดูถูกผู้ชายเหมือนกัน