ก้าวขาลงบันไดขั้นสุดท้ายของร้านตาบู๊ วงเล็บไว้นิดหนึ่งว่าเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็กๆในจำนวนไม่กี่ร้านของตลาดพะโต๊ะ ก่อนเดินขึ้นรถเพื่อกลับมาทำงานต่อในช่วงบ่ายที่โรงพยาบาล ชะงักนิดหนึ่งพร้อมหันตัวกลับมาหน้าร้าน เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นหูของหมอคิว ที่นั่งทานข้าวด้วยกันส่งเสียงเรียก
“พี่อัจครับ หมอป้อมมีเรื่องเล่า ให้พี่อัจเขียนลง blog”
เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบาๆจากต้นเรื่องที่ถูกกล่าวถึง หมอผู้หญิงร่างสูง ผมยาว หุ่นดี ไม่อ้วนและผอมเกินไป หมอป้อมจบมาทำงานที่พะโต๊ะได้เกือบหนึ่งปีเต็ม มาพร้อมกับหมอคิว ถึงเรียนต่างสถาบันแต่รักและกลมเกลียวกันน่าดู ทำงานช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอด
“ไม่หรอกค่ะพี่ ป้อมเขียนไม่เป็น แต่เป็นเรื่องที่อยากเล่าให้พี่อัจฟัง”
หากจะเรียกว่าเธอทำให้เซอไพร์ก็น่าจะได้ เพราะตั้งแต่ทำเรื่องเล่าหรือ Narrative medicine มาประมาณ 7 เดือน คะยั้นคะยอในกลุ่มหมอใหม่ๆมาตั้งแต่ต้น ยังไม่สัมฤทธิผล คราวนี้ถือว่าประหลาดใจและดีใจมากเลยทีเดียว
“ลองเล่ามาก่อนก็ได้ค่ะ ว่าเรื่องประมาณไหน เดี๋ยวพี่อัจช่วยดูให้”
เรียกว่าโอกาสมาก็คว้าไว้ก่อน ไม่ให้พลาด เพราะเมื่อได้มีการเริ่มต้นของเรื่องที่หนึ่งแล้ว เรื่องที่สอง สาม และ....จะไปไหนเสีย พูดตอบไปพลางกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ฮะฮ่า
“เคสลุงเตียนน่ะพี่ มา admit ที่โรงพยาบาลอยู่สองวัน จนวันที่ป้อมจะให้เค้า
กลับบ้าน เค้ายังไม่ยอมคุยกับป้อมเลย ป้อมพยายามไปคุยด้วยตลอดเลยนะ
แต่ลุงทำเหมือนไม่อยากคุยด้วยเลย ไม่เคยตอบคำถามป้อมซักคำ”
ความฉงนผุดพรายในใจ แปลกดีแฮะ ปกติคนไข้ชอบคุยกับหมอนะ ยิ่งหมอถามเยอะก็ยิ่งชอบ เอ! ทำไมลุงเตียนถึงไม่ยอมคุยกับหมอป้อม พินิจพิจารณาผู้หญิงที่หยุดยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ใช่คนน่ารังเกียจอะไร ออกจะอารมณ์ดี ขำๆ ซะอีก
“ป้อมเลยให้แกกลับบ้านไม่ได้ ไม่รู้สิพี่ แกไม่ยอมคุยกับเราเลย
ถึงอาการแกจะดีขึ้นจนกลับบ้านได้แล้ว แต่การที่เราไม่ได้คุยกับแก
มันเหมือนป้อมยังรักษาแกไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ”
“ป้อมเลยตั้งใจจะไปคุยกับแกอย่างจริงจัง ให้มันรู้กันไปเลยพี่” สีหน้าค่อนข้างจริงจังขึ้นทีละน้อย
“ปรากฏว่า ความแตกก็ตอนที่คนข้างเตียงที่เพิ่ง admit มาใหม่ หันมาบอก
ว่าแกพูดภาษาไทยไม่ได้เลยหมอแกพูดเขมร “
คนข้างเตียงเป็นคนไทยที่พูดเขมรได้เช่นกันเลยฟังกันรู้เรื่อง กลายเป็นล่ามโดยทันที ลุงเตียนคงอึดอัดน่าดูที่ฟังหมอพูดไม่เข้าใจจะสื่อสารกันก็ไม่ได้ แถมยังจะไม่ได้กลับบ้านซะอีกถ้าไม่ยอมพูด
“คนข้างเตียงเลยสอนป้อมหนึ่งคำ พอป้อมพูดออกไป แกดีใจ ยิ้มใหญ่เลย
เหมือนจะเป็นคนละคนกับครั้งก่อน”
จำไม่ได้ว่าภาษาเขมรที่หมอป้อมได้พูดสาธิตให้ฟังคืออะไร หมายความว่าอย่างไร รู้แต่ว่าฉันจำรอยยิ้มและอาการแกว่งมืออย่างกระวีกระวาดเมื่อเล่าถึงตอนคนไข้ยอมพูดและยิ้มให้ได้ หมอป้อมแสดงความสุขใจจากการที่ได้คลายความสงสัยอันคลุมเครือ ไม่รู้เพราะกังวลเรื่องผลการรักษาถ้าไม่ได้ยินอาการของคนไข้จากปากของคนไข้เอง หรือเพราะสาเหตุอะไร รู้แต่ว่าเป็นความสุขเล็กๆในใจของคนที่ทำงานรักษาคน ... ไม่เพียงแต่รักษาโรคเท่านั้น มุมมองที่รับทราบได้คือหมอป้อมมองเข้าไปถึงหัวใจของลุงเตียน ถึงกับเก็บเอามาเล่าเป็นเรื่องกันเลยทีเดียว
พล็อตเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมากมาย อาจไม่ได้มีมุมของกระบวนการดูแลรักษาที่ครบถ้วน ได้มาตรฐานสอดแทรกในเนื้อหา แต่เราสามรถนำเรื่องเล่ามาเรียนรู้มาตรฐานได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยครั้งต่อไป เราคงไม่ปล่อยให้คนไข้นอนอย่างทุกข์ใจ หรือเราดูแลคนไข้ไปโดยที่ไม่รู้ว่า คนไข้เราเป็นใคร พูดภาษาอะไร.........................
อาหารมื้อกลางวันอิ่มไปนาน หัวใจเต็มตื้นด้วยความสุขเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อเที่ยงวัน ประชุมองค์กรแพทย์มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ดีและน่าสนใจเสมอ เจอกันพุธหน้า ขอแทรกตัวไปทานข้าวอีกด้วยคนนะคะ
อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ ..............ก็เรามันคนนอกองค์กรของแพทย์นี่นา...........
สวัสดีค่ะน้องอัจ...แวะมาอ่านเรื่องเล่าดีดีจากน้องอัจ คนเก่ง...ขอบคุณนะคะสำหรับหนังสือ พี่ได้รับแล้วในวันนี้ ขออนุญาตนำไปวางในห้องสมุด ใน รพ. 1 เล่มนะคะ และนำไปฝากคณะกรรมการ HPH ท่านอื่นๆด้วยค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องดีดีจากพะโต๊ะ (รพ.เล็กๆ แต่ใจไม่เล็กเลย ) และทุกครั้งที่ไพ่อุ๊ได้อ่านมีความอิ่มใจจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีคะ
แม่ต้อยมาให้กำลังใจ ในการที่บอกว่าจะขยันทำ HA นะคะ
เรื่องเล่าสนุกมากคะ
ฝากคิดถึงท่านผอ.ด้วยนะคะ และมีหลายคนที่ยังติดใจ เสวนา ที่ HA Fprum คะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาส่งความระลึกถึงค่ะ
และเชิญชวนร่วมสร้างหอสมุดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ด้วยกันนะคะ
http://gotoknow.org/blog/rongkham/349984
ขอบคุณค่ะ
ตามมาให้กำลังใจ บางทีภาษาเป็นปัญหาเหมือนกันนะครับในการรักษา ผมเคยเป็นล่ามให้ฝรั่งและปกากะญอ เนื่องจากสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของเราไม่รู้เรื่อง มาให้กำลังใจหมอป้อม ทีมโรงพยาบาลพะโต๊ะด้วยครับ
เอ! ฮอสไป G2K forum รึเปล่าค่ะ กะจะติดรถไปด้วย อิอิ แป่วววววววววววววววว
ลงทะเบียนไปแล้วครับ, ตั้งใจว่าจะไปแน่นอนครับ (หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง), ด้วยความยินดีครับ อิอิ
สวัสดีคะ
แม่ต้อยมาแสดงความยินดีด้วยนะคะ
ฝากเรื่อง วิจัยด้วยนะคะ หัวข้อแม่ต้อยชอบมากๆคะ
SHA รุ่นที่๒ กำลังจะเริ่มแล้ว เอาใจช่วยด้วยนะคะ
ได้สัมผัสความสุขเล็กๆ จากการได้รักษาทั้งกายและภาษา อิอิ น่ารักดีครับ
ประสบการณ์สอนคนหนึ่งคน แล้วมาสอนอีกหลายคนเลยหละครับ
โชคดีของลุงเตียนจริงๆ ที่ได้กลับบ้านเร็ว และหมอป้อมก็ได้รู้สาเหตุของปัญหาเร็ว
ไม่งั้นเรื่องนี้คงจะยาวกว่าบุญชูเป็นแน่ อิอิ