สถานีอนามัยบ้านโคกเพชร เป็น 1 ใน 27 สถานีอนามัยในสังกัด สสอ.ขุขันธ์ ที่มีการทำงานที่มีมาตรฐานอยู่ในระดับแนวหน้าของอำเภอมาโดยตลอด มีหลายๆงานที่เราดำเนินการได้อย่างโดดเด่นไม่ใช่มีผลงานเพียงตัวเลข แต่เป็นผลงานเชิงคุณภาพที่หลายๆคนสงสัยว่าการทำงานที่ดี ที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้เป็นอย่างไร
ผลการจัดลำดับ Ranking 2553 รอบแรก นี้ จากเดือน ตุลาคม 52- มีนาคม 53 รวม 6 เดือน สอ.โึคกเพชร ได้ลำดับที่ 5 ของอำเภอขุขันธ์ ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนทำงานได้ไม่น้อย เป็นผลจากความพยายาม การทำงานและการรวบรวมผลงานในเชิงปริมาณและคุณภาพ อย่างเป็นระบบ
รอบนี้พวกเราทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย เพราะหลังจากที่เรารับประเมิน 5 ส. ครั้งสุดท้ายและรับใบประกาศจากอาจารย์ชาญชัย พวกเราก็ทำงานกันต่อเลยไม่ได้หยุด จนมาถึงวันนี้ ก็ใช่ว่างานจะเบาบางลง โครงการต่างๆยังมีการเก็บข้อมูล บันทึกข้อมูลแบบ offline และ แบบ online เป็นระยะๆ
ในระบบการทำงานในปัจจุบันเรื่องของผลงานเป็นสิ่งสำคัญ พอๆกับการประจบเจ้านายในสมัยก่อนๆ นั่นหมายถึง คุณต้องทำงานดีมีผลงาน คุณถึงจะได้อันดับดีดีและมีคะแนนประเมินบุคคลในอันดับต้นๆ ซึ่งก็มาจากผลการทำงานเป็นทีม ของทีมงานในระดับ สอ. ก่อนที่จะมาถึงระดับบุคคล ถ้าผลงาน สอ.ดี ผลงานบุคคลก็จะดีตามไปด้วย จนบางคนหรือหลายๆคนอาจจะเคยท้อแท้และหมดกำลังใจ เพราะคนที่ทำงานร่วมกันไม่ได้่ช่วยอะไร คนที่อยู่ทำงานแทบตาย แต่ได้ความดีความชอบเท่ากัน
ฝ่ายคิดหรือฝ่ายบริหารพยายามคิดหาวิธีการที่ดี เป็นธรรมและยุติธรรมเท่าไหร่ ก็ตาม ก็ยังจะเป็นเช่นนี้อยู่ หากหลายคนยังคิดเอาเปรียบผู้อื่นอยู่อย่างนี้ มันแสดงให้เห็นว่า แม้ท่านจะทำความดีมากมาย ระบบจะดีอย่างไร ถ้าคนที่อยู่ในระบบบางคนยังเห็นแก่ตัว หวังผลแต่ได้ คนทำดีจะลดน้อยลง เพราะไม่มีคนมองเห็นแล้วจะเกิดความท้อแท้ สุดท้ายก็ไม่อยากจะทำอะไรเพื่อองค์กร ฉะนั้นแล้ว องค์กรพื้นฐานที่จะดูแลน้องๆในสถานีอนามัยก็ำได้แก่ หัวหน้าสถานีอนามัยผู้ทรงเกียรตินั่นเอง แม้ผู้ปฏิบัติจะทำงานมากมายเพียงใด หากผู้บริหารเช่นท่านมองไม่เห็นคุณค่าหรือความสำคัญของเขา คำพูดของท่านเพียงคำเดียว มีส่วนในความเจริญก้าวหน้าของน้องๆ และที่สำคัญกำลังใจในการทำงานของเขาเหล่านั้นด้วย
คำว่า ทำงานเท่ากัน ใครๆก็ทำงาน เป็นความจริง แต่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานวัดจากคุณภาพที่ปรากฏออกมานะคะ ต้องหันมายอมรับกันบ้างว่า การทำงานมี 2 ฝ่าย นั่นคือ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายปฏิบัติ ทั้งสองฝ่ายคงไม่ต้องให้ประเมินว่าใครดีกว่าเก่งกว่า แต่ ขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด องค์กรคงไม่สามารถดำเนินการได้ดีและประสบความสำเร็จได้ การทำงานเป็นทีมด้วยความเข้าใจ ไว้วางใจ เห็นใจกัน เอื้ออารีย์ต่อกัน เป็นสิ่งที่ดีมากๆ การเป็นผู้บริหารที่ได้ใจลูกน้องไม่ได้ทำกันง่ายๆ ขอแค่ คำว่า ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ไม่มีใจคับแคบ ลูกน้องก็ทำงานอย่างเต็มความสามารถแล้วหละคะ
ในฐานะของการเป็นผู้ปฏิบัติ ที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด หลายครั้งที่รู้สึกท้อแท้และหมดหวัง เพราะกำลังใจ มันลดน้อยลง ดิฉันมักจะให้กำลังใจตัวเองเสมอๆ ว่าต้องทำได้ ต้องสำเร็จ ถ้าเราหวังพึ่งพาใครไม่ได้ก็ต้องพึ่งตนเองให้มากที่สุด ความดี ความสามารถ ต้องทำในเชิงประจักษ์ ถ้าหากผู้บริหารยังมองไม่เห็นก็แสดงว่า ผลงานไม่เข้าตา หรือ คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม ถามว่ามันยุติธรรมกับความรู้สึกคนทำงานหรือเปล่า คงไม่....
ปริญญาโท จากวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ลูกศิษย์ รศ.วิทยากร เชียงกูล สร้างผู้นำทางสังคม ที่มีความคิดแบบนี้ได้ 1 คน หรืออาจจะมีหลายคนที่คิดเหมือนหรืือคิดแตกต่าง ไม่แปลกหรอกคะ ต่างคนต่างความคิด แต่เราไม่ได้ทำความผิดอะไร เพียงแต่เล่าบอก แลกเปลี่ยนในฐานะของคนทำงาน
การทำงาน ร่วม 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ในสายตาของเรา สำหรับคนอื่นไม่ทราบ มันทำให้เกิดองค์ความรู้มากพอสมควร ที่ดิฉันพยายามใช้ปรับเปลี่ยนผู้คนที่รู้สึกท้อแท้ คนที่ไม่มีความเป็นผู้นำในตนเอง ให้มีพลังขึ้นมา ให้เข้าสร้างเป้าหมายที่เขาต้องก้าวเดินไปด้วยตนเอง โดยไม่อ้างว่า ถ้าไม่มีคนนั้น ฉันคงทำได้ดีมากกว่านี้ ตัดความสำคัญของผู้อื่นที่บั่นทอนจิตใจลงไปบ้าง เพราะมันไม่ได้ทำให้เกิดสิ่งดีใดใดในชีวิต เพราะ ทุกคนต้องก้าวเดินด้วยตนเอง หายใจได้ด้วยตนเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
วันนี้ที่ศรีสะเกษ ลมแรง และอากาศเย็น มาก คล้ายจะย่างเข้าฤดูหนาวเลยค่ะ ทำไมหนอ....