๙๒.Video Conference การประชุมทางเลือกใหม่

       การประชุมจากการใช้สื่อแบบธรรมดากลายเป็นการใช้สื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์ และได้รับการพัฒนามากขึ้นเมื่อเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเกิดขึ้น ทำให้การสื่อสารทางภาพและเสียงกระจายไปได้ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว จากการประชุมภายในห้องเดียวกันได้เปลี่ยนเป็นการประชุมผ่านหน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดภาพผู้เข้าร่วมประชุมผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Conferencing ผู้ประชุมสามารถพูดคุยซักถามกันได้ ซึ่งระบบการสื่อสารแบบการประชุมทางไกลแบบนี้ เป็นระบบที่สามารถรับ-ส่งข้อมูลภาพและเสียง ผู้เข้าประชุมสามารถมองเห็นภาพของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้ พร้อมทั้งสามารถแสดงเอกสาร ข้อมูลหรือภาพ เพื่อใช้ประกอบการประชุมได้

       วิธีการทำงานของระบบ  Video Conference System ภาพที่ถูกส่งผ่านจากต้นทางจะถูกแปลงเป็นข้อมูลและถูกบีบอัดเพื่อลดขนาดของข้อมูล (compressed) ให้เล็กลง จากนั้น ส่งผ่านระบบสื่อสารไปยังอุปกรณ์รับข้อมูลที่ปลายทางเพื่อทำการคลายข้อมูลกลับ (decompressed) เพื่อแปลงเป็นภาพแสดงออกทางจอภาพ ภาพที่ปรากฏในจอภาพของระบบ video conference มีการเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติเหมือนกับที่ปรากฏในเครื่องรับโทรทัศน์ทั่วไป เพราะกระบวนการรับ-ส่งภาพแตกต่างกัน

           ผู้บริหารของสำนักงานอัยการสูงสุดมีวิสัยทัศน์กว้างไกล  จึงทำให้ปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุดมีการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Video Conference) ในแต่ละเขตพื้นที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการสถานที่ประชุม ที่พัก ค่าเดินทางและเวลาของการเดินทาง สามารถประชุมร่วมกันเพื่อการรับทราบปัญหาของแต่ละหน่วยงานและแก้ไขปัญหาและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว  ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุขณะเดินทาง และสามารถจัดการประชุมได้บ่อยครั้ง รวมทั้งสามารถบันทึกการประชุมเก็บไว้ได้

             ด้วยปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุดมีการจัดการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Video Conference) บ่อยครั้ง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีหน้าที่ในการควบคุม การทำงานของระบบ Video Conference แต่ระบบ Video Conference ยังมีปัญหาในเรื่องของความเสถียรในการทำงาน และคุณภาพเสียงเป็นอย่างมาก  เนื่องจากมีปัญหาในหลายปัจจัยประกอบกันโดยวิเคราะห์ได้ดังนี้ 

1. สถานที่ในการจัดทำไม่เหมาะสม  ไม่ได้สร้างห้องให้เหมาะสมกับการทำระบบ Video Conference  ห้องประชุมไม่ได้อยู่ในการควบคุมดูแลของทางศูนย์ฯจึงยากต่อการปรับปรุงแก้ไขห้องและระบบต่างๆ  ระบบเสียงยังอาศัยชุดไมค์ประชุม  และลำโพงยังคงใช้ลำโพงจากโทรทัศน์
2. ความกว้างของช่องทางในการรับ- ส่งข้อมูล(Bandwith) ไม่เพียงพอในการส่งข้อมูลภาพและเสียงแบบ real-time
3. อุปกรณ์ Conference ไม่รองรับการทำงานเทคโนโลยีใหม่ มีฟังก์ชันการทำงานไม่ครบถ้วนและคุณภาพไม่สูงมากนัก  ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการประชุมทางไกลได้ทั้งหมด
4. ห้องประชุมมี 2 ห้อง แต่มีกล้องชุดเดียว  ทำให้ต้องขนย้ายอุปกรณ์ไปมา  อาจส่งผลให้ข้อต่อต่างๆหลวมการติดตั้งต่างๆที่เคลื่อนที่บ่อยๆยากต่อการวิเคราะห์ปัญหา
5. ปัญหาเกิดขึ้นที่ฝั่งผู้สนทนาตรงกันข้ามตามพื้นที่เขตต่างๆ เช่น สายลำโพงหลวม สายสัญญาณขาด ปลั๊กหลุด
6. สำนักงานเจ้าภาพขาดการประสานงานทำความเข้าใจกับทางศูนย์ฯ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ของงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่สำนักงานเจ้าภาพคาดการณ์ไว้

      ตามที่กล่าวมาปัญหาบางอย่างอยู่เหนือการควบคุมของทางศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  แต่หากต้องการทำให้ภาพและเสียงสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทางศูนย์ฯมีข้อเสนอแนะว่า  ควรจัดสรรงบประมาณให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการสร้างห้องประชุมที่มีความทันสมัย ให้ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านระบบเสียงมาจัดเสียงในห้องประชุมเพื่อลดเสียงสะท้อนต่างๆ มีระบบควบคุมเสียงจากห้องควบคุม  ขยายช่องทางในการรับ- ส่งข้อมูล(Bandwith)  จัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านระบบเสียงตามเขตต่างๆ  และนำอุปกรณ์ Video Conference ที่ทันสมัยมาติดตั้งถาวร  มีขั้นตอนการใช้งานไม่กี่ขั้นตอนการประชุมก็เริ่มได้ ซึ่งจะช่วยทำให้วิเคราะห์ความผิดปกติได้ง่ายและรวดเร็ว(จากบทความของ...เทพวรรณ ปรีดาเกษมสิน, อรณิชชา  แท่นหิรัญ    นักวิชาการคอมพิวเตอร์  ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศฯ)

[nong]

ระบบคอนเฟอร์เร้นท์ต้องมีการปรับปรุงกันอีกมาก ถ้าจะให้มีประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร และภาพไม่ relay เสียงชัดแจ๋ว

ต้องลงทุนปรับปรุงด้วยนะคะ เอาใจช่วย สู้ๆๆ ค่ะ