กะลาและป่าช้า
คางคกกบกู่ก้อง ตะโกน
วิวาทต่างสาดโคลน ป่าวร้อง
สองงัดเล่ห์โชกโชน ชาญเชี่ยว
รักชาติยิ่งชีพป้อง ปกหล้า ประชาชน
คางคกกบกะลา ต่างแข่งท้าครองสวรรค์
แดนรัตนวรรณ ขวานทองอันเรืองวิไล
ประชาธิปไตย กระสันฝันใฝ่ประเทือง
ป่าช้าเน่าแห่งเมือง กรุงสวรรค์ควันวิญญาณ
เบ่งพองจองหองคับ ดาวเดือนดับดั่งบาดาล
เมฆหมอกมืดมนต์มาร นอกกะลาโกลาหล
ปลาไหลมุดดินดัน เข้าอัดอั้นกะลาล้น
เบียดรัดกัดปะปน อุดอู้อัดรัดโรมรัน
อ่อนโหยโรยแรงล้า ต่างหันมาผสมพันธุ์
สมสู่ประสานสันต์ สร้างอสูรสัตว์เลื้อยคลาน
ประชาธิปไตย แนวคิดใหม่มุ่งวิมาน
เรืองรุ่งวาดหวังหวาน วิมานคับอับกะลา
นอกกะลาร้างไร้ ซากศพเกลื่อนไปกลบหล้า
ซากคนซากไม้ป่า ซากน้ำซากฟ้าซากดิน
ซากร่างวิญญาณร่ำ ถูกเหยียบซากซ้ำซบสิ้น
อุดมการณ์แผ่นดิน วนแหว่งวิ่นในกะลา
แต่งไว้ปี 2537
นักการเมือง ทะเลาะกันแล้วก็ดีกัน อย่าไปหวังอะไรมาก ชาวบ้านแย่เหมือนเดิม
ศานติศุกร์ ตุลา
เปลี่ยนแปลง เพื่อ พัฒนา
ยังมี ที่ เราไม่รู้
ก้ม สู่ดิน สู้ฟ้า ไหวไหม
แต่เรา ก็ต้องสู้ เมื่อถูกรังแก
เราต้องเรียนรู้ เหล่เหลี่ยมของนายทุนและนักการเมืองให้มากครับ
เพราะปัจจุบันเขาเป็นนักลงทุนทางการเมือง
เพื่อผลกำไร