อุบาสิกาแก้ว...ขบวนการสตรีเพื่อสันติภาพโลก
คงต้องบันทึกไว้
เพื่อให้เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ว่า....
ณ วันที่ 8 มีนาคม พุทธศักราช 2553 ซึ่งเป็นครบรอบ 100 ปี แห่ง “วันสตรีสากล” (International Women’s Day)....ท่ามกลางการจัดงานและการจัดกิจกรรมรณรงค์เคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ขององค์กรที่ทำงานด้านผู้หญิงในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้เรียกร้องสิทธิของกลุ่มผู้ใช้แรงงานหญิงที่ถูกกดขี่ ขูดรีด และเอาเปรียบ....เพื่อรำลึกถึงความเป็นมาแห่งการต่อสู้อันยาวนาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเสมอภาค ความยุติธรรม และสันติภาพ....
ในวันเดียวกันนี้เอง สตรีชาวพุทธจำนวนนับแสนคนในประเทศไทย ได้ร่วมกันขับเคลื่อน “ขบวนการฟื้นฟูศีลธรรมเพื่อสันติภาพโลก” โดยได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อฝึกฝนอบรมคุณงามความดีในตนให้งอกงาม ภายใต้โครงการ “บวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 100,000 คนทั่วไทย” ระหว่างวันที่ 8 – 15 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ วัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ
“อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน” หมายถึง อุบาสิกาผู้มีศีล 8 เป็นอาภรณ์ประดับกาย วาจา ใจ และปฏิบัติตามทางสายกลาง ย่อมงดงามและบริสุทธ์ ประดุจดอกไม้แก้วแรกแย้ม.....
ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากจะได้ร่วมกันรักษาศีล 8 ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ร่วมกันปฏิบัติธรรมและฟังธรรมแล้ว ยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวของ “มารยาทชาวพุทธ” ทั้งมารยาทการยืน เดิน นั่ง นอน และการกราบไหว้ ตลอดจนความรู้เรื่อง“วัฒนธรรมชาวพุทธ” ในทุก ๆ ด้าน ซึ่งนับเป็นการบ่มเพาะนิสัยอันดีงามผ่านการใช้สอยและดูแลรักษาปัจจัยสี่ โดยมีหลักที่จำง่าย ๆ ว่า “ สะอาด เร็ว เรียบ เงียบ ประหยัด”
คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ชมรมพุทธศาสตร์สากลในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ตลอดจนองค์กรภาคีต่าง ๆ ได้ร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้สตรีไทยกลายเป็น “อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน” ผู้มีความสงบร่มเย็นในจิตใจและมีความมั่นคงในพระรัตนตรัย
นับเป็นการพัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาศีลธรรมของประชาชนผ่านการพัฒนา “ขบวนการสตรี”
เพราะสตรีเป็นทั้ง “แม่ของลูก” และ “แม่ของโลก”
พลังแห่งสตรีจึงเป็นพลังอันบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่...
เป็นพลังที่จะสามารถสร้างสันติสุขในสังคมโลกให้เกิดขึ้นได้
ความเห็น (2)
อาจารย์ตุ้มสวัสดีครับ เห็น blog ของอาจารย์ใน blog เลยตามมาอ่าน การไปครั้งนั้นเอง ผมก็ได้เขียนงานที่ชื่อว่า พระสงฆ์คือสุดยอดนักจัดสวัสดิการชุมชน การใช้ธรรมะนำทาง ดีกว่าการใช้เงินนำทางมาก ในเรื่องสวัสดิการ และอาจารย์ก็ได้ช่วยให้แนรวคิดผมแตกมากขึ้นครับ
สวัสดีค่ะน้องตู่...นายหมูแดงอวกาศ
จากภาพที่ post...พี่จำตู่แทบไม่ได้เลยค่ะ (เด็กแนวมาก)
พอเข้าไปอ่าน blog เลยรู้ว่า คือน้องตู่ พอช.นี่เอง
ยินดีค่ะที่น้องตู่เขียนบทความจากการไปประชุมที่ตราด
พี่จะจัดประชุมเครือข่ายพระสงฆ์เป็นระยะ ๆ ค่ะ
หากน้องตู่สนใจมาร่วมแจมเวที จะส่งข่าวให้ทราบนะคะ