ในตอนที่ 3 นี้ ผมขอนำเอาบทร้องบทที่เกี่ยวข้องในพิธีทำขวัญนาค และเป็นบทสำคัญตอนขึ้นต้นพิธีทำขวัญนาค เป็นตอนเชิญเทวา มีหมอขวัญหลายท่านถามกันมาว่า บทสัคเคที่ว่ากันอยู่นี้ ทำไมจึงแปลไม่เหมือนกัน ในความเป็นจริงคำแปลจะออกมาเป็นไปในทำนองเดียวกัน เพียงแต่สำนวนที่นำเอามาเป็นคำแปลต่างกันไปบ้างแต่ก็ยังคงอยู่ในเนื้อความ หรือมีความหมายเดียวกัน บทร้องสัคเค หรือสัคเคแปล เป็นบทร้องแบบพูด เรียกว่าทำนองเสนาะ (ธรรมวัตร) ส่วนหมอทำขวัญจะเลือกว่าบทสัคเคแปลหรือไม่แปลก็ได้
บทสัคเคแปล
"สาธุ สัคเค" ข้าพเจ้าขออันเชิญหมู่เทวดา ซึ่งสิงสถิตอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ "กาเม" อยู่ในกามภพ "จะรูเป" อยู่ในรูปภพคือ โสฬสมหาพรหม "ศิริสิขรตเฏ" อีกทั้งเทพเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในภูเขาห้วยเหว และคูหายอดคีรี “จันติลิกเขวิมาเน” อยู่ในอากาศวิมานมาศมณเฑียรทอง “ทีเปรัฏเฐจะคาเม” สิงสถิตอยู่ในเกาะแก้วเมืองหลวงและพระนครใหญ่น้อย “ตะรุวะนะคะหะเณ เคหวัตถุมหิเขตเต” สิงสถิตอยู่ในเคหะสถานบ้านน้อยและเมืองใหญ่ทั่วทุกชนบท “ภุมมา” ซึ่งสิงสถิตปรากฏในโรงศาลพระภูมิเจ้าที่ “จายันตุเทวา” ข้าพเจ้าขออันเชิญให้เร่งรีบเข้ามาในเวลานี้ให้พร้อมกัน “ชะละถะละวิสะเม” อีกทั้งเทพเจ้าที่สิงสถิตยู่ในห้วยหนองคลองบึงบาง แม่น้ำใหญ่ไพรพฤษาทุกหย่อมหญ้าลดาวัลย์ที่เสมอกันก็ดี “ยักขะคันธัพพะนาคา” ใช่แต่เท่านั้นเมื่อไร มีทั้งยักษาคนธรรพ์ ครุฑนาคา “ติฏฐันตา” อีกทั้งเทพเจ่าซึ่งสถิตอยู่ในขั้นใด ๆ “สันติเกยัง มุริวะระวะจะนัง” ข้าพเจ้าขออันเชิญมายังสำนักแห่งนักปราชญ์ อาจสำแดงธรรม “สาธโวเมสุนันตุ” ดูก่อนสัปบุรุษพุทธบริษัททั้งหลายเอ๋ย “ธัมมัสสวนกาโล” ถึงเวลาฤกษ์งามยามดี “สุนันตุ” ข้าพเจ้าขออันเชิญให้เข้ามาสดับตรับฟังพระสัทธรรมพร้อมกัน “อะยัมภทันตา” ดูก่อนท่านผู้ประเสริฐยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา ข้าพเจ้าขออันเชิญมาประชุมให้พร้อมเพรียงกัน ณ สถานที่นี้เถิด....
ดนตรี...บรรเลงเพลงสาธุการ.....
การฟังเสียงและมีภาพประกอบมีตัวหนังสือด้วยยิ่งดี