"มิรูโม่..มาเฟียแห่งความดี"


 

 

     ณ ชุมชนที่เงียบสงบ ต. อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี

มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักของ คนในหมู่บ้านเป็นอย่างดี

ที่สำคัญว่ากันว่า หัวหน้าของกลุ่ม - แก๊งนี้มีอายุเพียงแค่ 13

ปีแต่ กลับมีลูกสมุนคอยหนุนหลังถึง 10 กว่าคน

โดยสมุนตัวเปี๊ยกสุดจะถูกเรียก ขานว่า "เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม"

 

กิจวัตรของสมาชิกในแก๊ง

สร้าง ความฮือฮาให้แก่บรรดาผู้ใหญ่ในชุมชนเสมอแต่มิใช่การซิ่งมอเตอร์ไซค์

การชกต่อย หรือการเสพยา แต่เป็นภารกิจเพื่อสังคมง่ายๆ อย่าง การเก็บขยะ

ถาง หญ้า กวาดลานวัด ขัดห้องน้ำ เด็กๆ กลุ่มนี้เขาเรียกตัวเองว่า

      "มิรูโม่ ...มาเฟียแห่งความดี"

 

มิรูโม่ : แก๊งนี้มีที่มา

 

" น้องตั้ม" ด.ช.สุรชัย จิตตั่ง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1

โรงเรียนศรีวินิตวิทยาคม หัวหน้าแก๊งมิรูโม่ บอกว่ามีสมาชิกทั้งหมด 14

ชีวิต ซึ่งสมาชิกในแก๊งล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนๆ

และลูกพี่ลูกน้องของน้องตั้ม ทั้งสิ้น

 

      แก๊งนี้เป็นที่รวมของสมาชิกวัยละอ่อน ตั้งแต่รุ่นดูดขวดนม 2 ขวบครึ่ง

ไปจนถึง 13 ปี ซึ่งที่มาในการก่อตั้งแก๊งนั้น

น้องตั้มรับสารภาพว่าพวก เขาได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องอนุบาลเด็กโข่ง

 

" คือวัดนี้มีพระอยู่รูปเดียว ทุกวันผมก็จะเห็นหลวงตา (พระระพิน

กิตฺติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง จ. สิงห์บุรี) กวาดลานวัดอยู่คนเดียว

แดดก็ร้อน ผมสงสารว่าท่านคงเหนื่อยมาก ผมเลยเข้าไปช่วย แล้วก็มีเพื่อนๆ

อีก หลายคนตามไปช่วยด้วย เราก็เลยปรึกษากันและตั้งแก๊งขึ้นมาครับ

คือความคิด ในการตั้งแก๊งเนี่ยเกิดมาจากการที่เราไปดูหนังเรื่องอนุบาลเด็กโข่งซึ่งเป็น เรื่องของเด็กอนุบาลที่รวมตัวกันตั้ง

แก๊งของตัวเองขึ้นมา

 

มันก็คล้ายๆ กับพวกเราเหมือนกัน

เพราะปกติ เราจะขี่จักรยานไปโรงเรียนพร้อมกันบางทีก็ชวนกันไปขี่จักรยานเล่น

แต่ใน หนังเขาเป็นแก๊งอันธพาล หัวหน้าแก๊งแต่ละแก๊งพยายามขยายอิทธิพล

มีการยก พวกตีกัน เหมือนพวกมาเฟีย

แต่แก๊งเราไม่ใช่แบบนั้นครับเราเป็นแก๊งที่รวมตัวกันทำความดี "

 

โดย ปกติตอนเย็นหลังเลิกเรียน พวกเราก็จะมาช่วยหลวงตากวาดลานวัดกันทุกวัน

เห็น ใบไม้มันรกน่ะครับ แล้วก็ช่วยเก็บขยะ ถางหญ้า ล้างห้องน้ำ

มันก็เหนื่อย เหมือนกัน

แต่เราทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ช่วยกันหลายๆ คนเดี๋ยวก็เสร็จ

นอกจาก นั้นตอนเช้าผมกับเพื่อนอีก 2

คนก็จะไปช่วยหลวงตาถือของตอนออกบิณฑบาต

เสร็จ แล้วถึงจะกลับมาอาบน้ำไปโรงเรียน

 

จริงๆ พวกเราก็ชอบเล่นสนุกกันนะครับแต่จะช่วยหลวงตาทำงานให้เสร็จแล้วค่อยไปเล่น

คือหลวงตาท่านใจดี ไปช่วยท่าน

ท่านก็ให้ขนมพวกเรากินทุกวันพ่อแม่เห็นพวก ผมไปช่วยหลวงตาที่วัดเขาก็บอกว่าดีแล้ว

ได้บุญ คุณครูที่โรงเรียนก็บอกว่าดีให้ทำต่อไปเรื่อยๆ

ผมก็ภูมิใจที่ได้ช่วยวัด ทำให้วัดไม่รก แล้วก็ได้บุญด้วย

ดีกว่าไปเล่นเกมตามร้านเน็ต เล่นแล้วก็ติด เสียการเรียน เปลืองเงินด้วย

 

หลวงตาระพิน กิตฺติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง เมตตาให้ข้อมูลว่า

 

ทั้งวัดก็ มีอาตมาอยู่รูปเดียว อยู่ได้สักพักเด็กๆ

พวกนี้เขาก็มาช่วยทำความสะอาด วัด เขาบอกว่า สงสารหลวงตา (ยิ้ม)

ใบไม้มันร่วงเยอะ เช้าๆ อาตมาไปบิณฑบาตเด็กๆ

ก็จะมาช่วยมากันตั้งแต่ตี ห้าเลย เขาก็ขี่รถซาเล้งพาอาตมาไปที่ตลาด

พอถึงตลาดก็เดินบิณฑบาตไป เรื่อยๆ เด็กเขาก็ถือกระป๋องเดินตาม

เดินกันเป็นกิโลๆ เลย เขาก็สนุกกันตามประสาเด็กๆ กลับมาถึงวัด

อาหารที่เหลือจากอาตมา พิจารณาแล้วก็จะแจกจ่ายให้เด็กๆ ไป อาตมาว่าก็ดีนะ

เด็กๆ มาทำความดีกันช่วยพระช่วยวัด มันหายากนะสมัยนี้

 

 

อนุโมทนาขอบคุณข้อมูลจากัลยาณมิตร

ขอจงมีความสุข ความเจริญ ธรรมรักษา

 

หมายเลขบันทึก: 343649เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2010 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผู้ใหญ่มัวแต่ทะเลาะกันนะครับ น่ามาดูเด็กบ้าง

นมัสการท่านครับ ขอบพระคุณท่านสำหรับเรื่องดีๆครับ

ธรรมสวัสดีโยมดร. ภิญโญ

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างดีดี

ของเยาวชนไทยที่สนับสนุน

อย่างยิ่ง อนุโมทนากับโยม

อาจารย์ด้วยที่แวะมาเยี่ยม

ขอให้มีความสุข ความเจริญ

ธรรมรักษา

รู้สึกปลื้มใจจังเลย และดีใจแทนพ่อแม่ด้วย อยากให้หลานมีแก๊งแบบนี้บ้าง สาธุสาธุในการทำความดีนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท