สิ่งสำคัญในการอ่านข้อเขียนแต่ละข้อความในเบื้องต้น คือ
ผู้อ่านต้องจับประเด็นสำคัญของเรื่องนั้นให้ได้
การค้นหาใจความสำคัญของเรื่อง
การค้นหาใจความสำคัญของเรื่อง
เป็นการอ่านเพื่อค้นหาสาระสำคัญที่ผู้เขียนต้องการสื่อมายังผู้อ่าน
ใจความสำคัญที่สุดของแต่ละย่อหน้า
โดยหาได้จากที่ผู้เขียนระบุไว้แล้วอย่างชัดเจน
ประโยคใจความสำคัญดังกล่าวมักปรากฏอยู่ที่ประโยคต้น
ประโยคกลาง ประโยคท้าย
หรือทั้งประโยคต้นและประโยคท้ายของย่อหน้านั้นๆ
ที่เหลือจากประโยคใจความสำคัญ
การย่อความ
การย่อความเป็นการเขียนประเภทหนึ่ง
การย่อความมีทั้งการส่งสารด้วยวิธีการพูดอย่างย่อๆ
และวิธีการเขียนอย่างย่อๆ
ในที่นี้จะเน้นเฉพาะการส่งสารด้วยวิธีการเขียนเป็นสำคัญ
คำที่เกี่ยวข้องกับการย่อความ คือ ใจความ
พลความ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความรู้สึก
ใจความ คือ ข้อความสำคัญของย่อหน้า
ถ้าตัดข้อความสำคัญนี้ออกไปจะทำให้ไม่ได้ใจความที่ดี
ความจะเปลี่ยนไป
ทำให้อ่านหรือฟังไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดไปได้ นอกจากนั้น
ย่อหน้าบางย่อหน้าจะขาดใจความ หรือข้อความสำคัญไป
เพราะเป็นเพียงย่อหน้าเชื่อมข้อความจากย่อหน้าเดิมกับย่อหน้าต่อไปเท่านั้น
ข้อความเหล่านี้ตัดทิ้งไปได้
พลความ คือ ข้อความรอง สำคัญน้อยกว่าใจความ
ทำหน้าที่ให้รายละเอียดขยายใจความในข้อความหรือย่อหน้านั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ถ้าตัดพลความทิ้งไปสารนั้นยังคงใจความตรงตามจุดประสงค์ของผู้ส่งสาร
ข้อเท็จจริง เป็นข้อความ
เรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่มีที่เป็นมาหรือที่เป็นอยู่ตามจริง
ข้อเท็จจริงนั้นมีช่วงเวลาเป็นเงื่อนไขสำคัญ
ข้อความอาจคลาดเคลื่อนเปลี่ยนไปเมื่อเวลาเปลี่ยนไป
ข้อคิดเห็น เป็นข้อความที่ผู้อ่าน ผู้ฟัง
ผู้เล่า ผู้เขียนแสดงความคิดจากความรู้ ความเข้าใจ
ความเชื่อ
ที่ผู้กล่าวมีต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจเห็นด้วยหรือมีความเห็นแตกต่างไป
ความรู้สึกหรือข้อความที่แสดงอารมณ์
เป็นข้อความที่ผู้รับสารแล้วเกิดรู้ได้ว่าผู้ส่งสารหรือสารนั้นให้อารมณ์
ให้ความรู้สึกอย่างไรออกมาต่อผู้อ่าน ผู้ฟัง
อาจเป็นพอใจ ไม่พอใจ ชื่นชม เศร้าหมอง
ขุ่นเคือง
ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความแสดงอารมณ์หรือให้ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร
ที่มา : คู่มือการสอนภาษาไทย สร้างเด็กไทยให้อ่านเก่งอ่านเร็ว
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓)
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สถาบันภาษาไทย