การมุ่งให้นักเรียนประสบผลสำเร็จในการอ่านนั้น นักเรียนต้องฝึกปฏิบัติมาแล้วจนเกิดทักษะการอ่านในแต่ละวิธี ซึ่งแบ่งประเภทของวิธีอ่านได้ ๕ วิธี ได้แก่ วิธีอ่านปกติ วิธีอ่านสำรวจ วิธีอ่านละเอียด วิธีอ่านเร็ว และวิธีอ่านคร่าวๆ รายละเอียดของแต่ละวิธีได้ผ่านการฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านมาแล้วในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ จึงนำเสนอองค์ความรู้โดยสรุป ดังนี้
๑) วิธีอ่านปกติ
วิธีอ่านปกติ ใช้ประโยชน์ในการอ่านเรื่องทั่วไป ไม่จำกัดเวลาผู้อ่านจะเคลื่อนสายตาจากซ้าย ไปขวาโดยมิได้เร่งรีบเพื่อรับรู้ค่า กลุ่มคำ ประโยคและเรื่องทั้งหมด เพื่อให้สมองแปลความหมาย หากมีส่วนใดยังไม่เข้าใจก็จะอ่านซ้ำและพิจารณาให้ถี่ถ้วน จนกว่าจะเกิดการรับรู้ที่ชัดเจน เป็นการอ่านโดยมิได้เร่งรีบแต่ต้องการให้บรรลุผลตามจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมาย มากกว่าที่จะเน้นในเรื่องของเวลาไม่จำกัดความยาวของสาร ส่วนความยากง่ายของสารควรเหมาะสมกับความสามารถในการอ่านของผู้อ่าน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้อ่านด้วยเป็นการอ่านที่นักเรียนใช้อ่านได้ทั้งสารวิชาการและสาระบันเทิง
๒) วิธีอ่านสำรวจ
วิธีอ่านสำรวจ เป็นการอ่านในใจวิธีหนึ่งที่ต้องใช้เวลาในการอ่านไม่มากนัก ผู้อ่านต้องอาศัย ความชำนาญในการเคลื่อนสายตาและกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว เพื่อค้นหาคำสำคัญหรือหัวข้อที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ดังนั้นผู้อ่านจึงมักจะมองผ่านข้อความต่างๆ โดยสนใจและบันทึกไว้เฉพาะคำหรือหัวข้อตามจุดมุ่งหมายของผู้อ่านเท่านั้น
๓) วิธีอ่านละเอียด
วิธีอ่านละเอียด ผู้อ่านจะเคลื่อนสายตาผ่านทุกตัวอักษรของคำกลุ่มคำและประโยคทำความ เข้าใจความหมายทั้งทางตรงและทางนัย เพื่อให้ได้ข้อมูลตรงตามจุดมุ่งหมายที่ต้องการ เป็นการอ่านสารวิชาการจึงต้องใช้เวลาในการอ่านมากกว่าการอ่านวิธีอื่นๆ เพราะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ
๔) วิธีอ่านเร็ว
วิธีอ่านเร็ว เป็นวิธีอ่านที่ใช้อ่านสารวิชาการและสารทั่วไปเพื่อความรู้และความเพลิดเพลิน วัตถุประสงค์ต้องการอ่านสารให้ได้มากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
วิธีอ่านเร็ว
ผู้อ่านจะเคลื่อนสายตาอย่างรวดเร็วจากซ้ายไปขวาโดยไม่เคลื่อนใบหน้าเพราะจะทำให้เมื่อยล้าสายตา เพื่อรับรู้ตัวอักษรเป็นกลุ่มคำประโยค หรือเป็นข้อความ ส่งให้สมองแปลความอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเคลื่อนสายตาผ่านไปรับรู้ประโยคอื่นๆ เป็นการอ่านอย่างรวดเร็ว อัตราเร็วในการอ่านเป็นองค์ประกอบสำคัญของการอ่านเร็วเช่นเดียวกับความถูกต้องของการอ่านอัตราเร็วในการอ่านสามารถพัฒนาได้โดยอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอทุกวันให้นักเรียนปฏิบัติโดยไม่รู้สึกว่าเป็นการบังคับให้เป็นการปฏิบัติโดยอัตโนมัติทั้งการอ่านและการจับใจความได้ถูกต้อง
๕) วิธีอ่านคร่าวๆ
วิธีอ่านคร่าวๆ เป็นการอ่านในลักษณะเพื่อยืนยันความถูกต้องในเรื่องนั้นๆ หลังจากที่ได้อ่านอย่างละเอียดมาแล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทบทวนเรื่องราว ยืนยันความถูกต้องของข้อมูล ตรวจดูเนื้อหาอย่างย่อๆ ก่อนอ่านละเอียดหรืออ่านคร่าวๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อหนังสือ
วิธีอ่านในใจที่มักจะใช้กันทั่วไปมี ๕ วิธี คือ
วิธีอ่านปกติใช้เพื่ออ่านสารทั่วไปโดยไม่จำกัดเวลา
วิธีอ่านสำรวจเป็นการอ่านเพื่อค้นหาคำหรือหัวข้อสำคัญ จึงมองข้ามข้อความที่ไม่เกี่ยวข้อง
วิธีอ่านละเอียดเป็นการอ่านทุกถ้อยคำเพื่อเข้าใจความหมายใช้ในการอ่านสารวิชาการ
วิธีอ่านเร็วเป็นการอ่านที่ต้องการปริมาณของสารเป็นจำนวนมากแต่ใช้เวลาน้อย เน้นการเคลื่อนตาอย่างรวดเร็ว
และวิธีอ่านคร่าวๆ เป็นการอ่านเพื่อทบทวน ยืนยันความถูกต้องหรืออ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกสารประเภทต่างๆ
ที่มา : คู่มือการสอนภาษาไทย สร้างเด็กไทยให้อ่านเก่งอ่านเร็ว ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สถาบันภาษาไทย