(We are not saking corporations to do something different from their normal business: we are asking them to do this normal business differently)
Kofi Annan
อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (UN)
ความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ หรือ Corporate Social Responsibility (CSR) หมายถึง การดำเนินกิจกรรมภายในและนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับใกล้และไกล ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรหรือทรัพยากรจากภายนอกองค์กร ในอันที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข
คำว่า กิจกรรม ในที่นี้ หมายรวมถึง การคิด การพูด และการกระทำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การวางแผน การตัดสินใจ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการ และการดำเนินงานขององค์กร
สังคม ในที่นี้ จะมุ่งไปที่ผู้มีส่วนได้เสียนอกองค์กร ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ สังคมใกล้ และสังคมไกล สังคมใกล้ คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับองค์กรโดยตรง ได้แก่ ลูกค้า ครอบครัวของพนักงาน ชุมชนที่องค์กรต้งอยู่ รวมถึงสิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศ ส่วนสังคมไกล คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยอ้อม ได้แก่ คู่แข่งขันทางธุรกิจ ประชาชนทั่วไป เป็นต้น
เหตุใดกิจการจึงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ที่ผ่านมา แนวคิดและทฤษฎีทางธุรกิจได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดสู่องค์กรโดยส่วนใหญ่ต้องการสร้างให้องค์กรมีความ "เก่ง" ที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโต(Growth) ของกิจการ ได้แก่ SWOT Analysis หรือ Diamond Model (การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน)
ส่วนแนวคิดเรื่องซีเอสอาร์ จะมุ่งไปที่การสร้างให้องค์กรมีความ"ดี" ที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน(Sustaninability)ของกิจการ เป็นแนวคิดที่มีรากฐานมาจากหลักคุณธรรมทางศาสนา ซีเอสอาร์ไม่ใช่เรื่องใหม่เพียงแต่เพิ่งมีการบัญญัติคำนี้ขึ้นใช้ในวงการธุรกิจเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เอง และคนไม่ได้สนใจหรือใส่ใจนอกจากการสร้างภาพพจน์ขององค์กรตัวเองเท่านั้น
องค์กรที่นำแนวคิดซีเอสอารไปปฎิบัติจะเกิดผลลัพธ์ทั้งในส่วนรูปธรรมที่จับต้องได้(Tangible) และในส่วนนามธรรมที่จับต้องไม่ได้(Intangible) จากผู้ที่อยู่ในองค์กร ได้แก่ ผู้ถือหุ้นและพนักงาน และจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กร โดยตรงและอ้อม ความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการมี 3 จำพวก คือ 1. CSR -after-process เรียกว่า "กิจกรรมเพื่อสังคม" คือการดำเนินกิจกรรมของหน่วยงาน เช่น การแจกจ่ายสิ่งของช่วยบรรเทาสาธารณภัย การเป็นอาสาสมัครช่วยบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมอยู่นอกเหนือเวลาทำงานปกติ 2. CSR-in-process เรียกว่า "ธุรกิจเพื่อสังคม" คือการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมที่อยู่ในกระบวนการทำงานหลักของกิจการ หรือเป็นการทำธุรกิจที่หากำไรอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น การป้องกันหรือกำจัดมลพิษในกระบวนการผลิตเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน การผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานตามข้อกำหนดในฉลากผลิตภัณฑ์ การชดเชยความเสียหายให้แก่ลูกค้าที่เกิดจากความผิดพลาดและข้อบกพร่องของพนักงาน เป็นกิจกรรมที่อยู่ในเวลาทำงานปกติของกิจการ 3. CSR-as-process เรียกว่า "กิจการเพื่อสังคม" มักเป็นองค์กรที่ดำเนินงานโดยไม่แสวงหากำไรให้แก่ตนเอง เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อยังประโยชน์ให้แก่สังคมในทุกกระบวนการของกิจการ เช่น มูลนิธิ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรประชาชน และส่วนราชการต่างๆ ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอกหรือได้รับการอุดหนุนจากภาษีของประชาชน เรียกว่า เป็นองค์กรที่หากำไรให้แก่สังคม โดยที่เจ้าของกิจการเหล่านี้ เรียกตัวเองว่า เป็นผู้ประกอบการทางสังคม(Social Entrepreneur)
รูปแบบของความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ ศ.ฟิลิป คอตเลอร์ มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทริน์และ แนนซี่ ลี อ.มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และมหาวิทยลัยซีแอตเติ้ล ได้จำแนกรูปแบบของซีเอสอาร์ ไว้เป็น 6 กิจกรรม ได้แก่
1.การส่งเสริมการรับรู้ประเด็นปัญหาสังคม (Cause Promotion) เป็นการจัดหาเงินทุน วัสดุสิ่งของหรือทรัพยากรอื่นขององค์กร เพื่อขยายการรับรู้และห่วงใยต่อประเด็นปัญหาทางสังคม 2. การตลาดที่เกี่ยวโยงกับประเด็นทางสังคม(Cause Related Marketing) เป็นการอุดหนุนหรือการบริจาครายได้ส่วนหนึ่งของการชายผลิตภัฑณ์เพื่อช่วยเหลือหรือร่วมแก้ไขประเด็นปัญหาทางสังคม จำเพาะหนึ่งๆ มีช่วงเวลาที่จำกัดแน่นอน 3.การตลาดเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาทางสังคม(Corporate Social Marketing) เป็นการสนับสนุนการพัฒนาหรือการทำให้เกิดผลการรณรงค์เพื่อเปลื่ยนแปลงพฤติกรรมในด้านสาธารณสุข ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านสุขภาวะ มุ่งเน้นที่การเปลื่ยนแปลงพฤติกรรมและสร้างความตระหนัก รวมถึงการสนันสนุนทรัพยากรด้านทุนและอาสาสมัครเพื่อให้รับรู้ถึงประเด็นปัญหา 4.การบริจาคเพื่อการกุศล(Corporate Philanthropy) เป็นการช่วยเหลือไปที่ประเด็นปัญหาทางสังคมโดยตรง ในรูปของการบริจาคเงินหรือวัตถุสิ่งของ 5.การอาสาช่วยเหลือชุมชน(Community Volumteering) เป็นการสนับสนุนหรือจูงใจให้พนักงาน คู่ค้าร่วมสละเวลาและแรงงานในการทำงานให้แก่ชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่และเพื่อตอบสนองต่อประเด็นปัญหาทางสังคมที่องค์กรให้ความสนใจหรือห่วงใย 6. การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Business Practices) เป็นการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอย่างพินิจพิเคราะห์ทั้งในเชิงป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมหรือในเชิงร่วมกันแก้ไขด้วยการช่วยเหลือเยียวยาปัญหาทางสังคมนั้นๆ ด้วยกระบวนการการทางธุรกิจ เพื่อการยกระดับสุขภาวะของชุมชนและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม โดยที่องค์กรสามารถที่จะดำเนินการเอง หรือเลือกที่จะร่วมมือกับพันธมิตรภายนอกก็ได้
หลักการความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้ยกร่างเป็นแนวปฏิบัติให้แก่บริษัทจดทะเบียนและกิจการทั่วไป มีอยู่ด้วยกัน 8 หมวด ได้แก่
การกำกับดูแลที่ดี
การประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรม
การเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฎิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม
ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
การร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม
การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
การเผยแพร่นวัตกรรมจากการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคม
การจัดทำรายงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
ไม่มีความเห็น