ขงจื๊อขณะอายุได้ 30 ปี ได้ตั้งโรงเรียนขึ้น 1 แห่ง นับเป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรกของประเทศจีน ในสมัยนั้นคนรู้หนังสือ จะมีอยู่เฉพาะในหมู่ขุนนางเท่านั้น คนธรรมดาอ่านหนังสือไม่ออก แต่นักเรียนของขงจื๊อสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง ในตอนเริ่มต้นพวกขุนนางต่างดูถูกขงจื๊อ ต่างคิดว่าคนอายุน้อยคงจะไม่สามารถสอนนักเรียนให้ดีได้ ต่อมาจึงเป็นที่ประจักษ์ว่านักเรียนที่ขงจื๊อสอนนั้นไม่เลว จึงได้นำบุตรหลานส่งเข้าเรียนที่โรงเรียนของขงจื๊อ
ขงจื๊อปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยความเข้มงวด วันหนึ่งท่านวิพากย์นักเรียนชื่อ เหยียนหุย ว่า "ฉันพูดอะไร เธอพูดอย่างนั้น ตัวเองไม่มีความริเริ่ม ไม่มีการพัฒนา แล้วจะก้าวหน้าได้อย่างไร" เหยียนหุย ถามว่า "ทำอย่างไรจึงจะพัฒนา"
"ต้องคิดอยากพัฒนา ต้องหมั่นเล่าเรียน พินิจพิจารณามากๆ เอาแต่เรียนโดยไม่ได้พิจารณา ย่อมไม่สามารถได้รับความรู้อย่างสูง อย่างเช่น ฉันบอกเธอว่า มุมหนึ่งของโต๊ะเป็นมุมฉาก เธอควรจะพิจารณาว่าอีก 3 มุม ก็เป็นมุมฉาก และสรุปว่าโต๊ะนี้เป็นโต๊ะ 4 เหลี่ยม ไม่ใช่โต๊ะกลม"
นักเรียนอีกคนหนึ่งถามว่า "ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไร จึงจะทำให้ตัวเองมีความรู้มาก ๆ "
"เรื่องนี้ต้องเรียนให้มากขึ้น พบเหตุปัญหาอะไรล้วนต้องถามว่าทำไม เมื่อไม่เข้าใจ อย่าทำเป็นเข้าใจ ทำอย่างฉันนี่ เมื่อมีคนถามปัญหาฉัน มีบ่อยๆ ที่ฉันตอบไม่ได้ ฉันก็นำปัญหานั้นไปถามคนอื่น อย่างนี้ เวลานานไปความรู้ย่อมมากขึ้นตามมา"
"อาจารย์พูดถูก" เหยียนหุยเห็นด้วย แต่ถามต่ออีกว่า "หากไม่มีท่านอาจารย์ พวกเราจะเรียนจบได้ความรู้ได้อย่างไร"
"ที่เธอพูดนั้นไม่ถูก เธอต้องรู้ว่า บนพื้นโลกนี้มีครูอยู่มากมาย หากมีคน 3 คนเดินมาในนั้นอย่างน้อย ต้องมี 1 คนเป็นครูของเรา แน่นอน เขาทำอะไรถูกต้องพวกเราก็ทำตามที่เขาทำ หากเขาทำอะไรไม่ดีงามพวกเรารู้ก็อย่าทำตามนั้น"
นักเรียนให้ความเคารพขงจื๊ออย่างมาก มีบางคนเรียนกับขงจื๊อถึง 12 ปี ยังไม่อยากจบ ขงจื๊อสอนลูกศิษย์ได้ประมาณ 3,000 คน มีอยู่ 72 คนบรรลุถึงความเป็นผู้มีชื่อเสียง บางคนยังได้เป็นขุนนางของประเทศด้วย
ไปอ่านจากเวบของทหารบกค่ะ
เลือกเอาตอนนี้มา
เพราะอ่านแล้วได้สติดี
ต้องพิจารณามากๆ = สังเกตมากๆ ^^v