พาเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างรักษาปากแหว่ง เพดานโห่ว


พาเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างรักษาปากแหว่ง เพดานโห่ว

พาเด็กลูกกรรมกรก่อสร้างรักษาปากแหว่ง เพดานโห่ว (1)

          เมื่อลงชุมชนคุณครูศูนย์เด็กก่อสร้างจะเห็นเด็กแต่ละคนที่มาเรียนที่ศูนย์เด็กก่อสร้าง แต่ละคนจะมีประวัติเด็กซึ่งเป้นรายละเอียดของเด็กแต่ละคนว่า อยู่กับบิดา มารดาหรือไม่  พ่อแม่มีรายได้เท่าไร  มีพี่น้องกี่คน  เคยเรียนหนังสือหรือไม่อย่างไร  มีปัยหาที่ต้องให้แก้ไขให้ต้องการอะไร  เป็นต้น

           เคสแรกที่ครูจิ๋ว  พบและต้องประสานงานอย่างต่อเนื่อง  คือ เด็กชายสมชาย อายุ 6 ปี เป็นโรคปากแหว่งเพดานโห่ว ตั้งแต่กำเนิด  เป็นสิ่งที่ต้องติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต ถ้าไม่มีโอกาสได้รับการรักษาพยาบาล ในช่วงที่เป็นเด็กอายุน้อยๆอย่างนี้  สิ่งแรกที่ครูจิ๋ว ทำ คือ

            (1) ประสานงานกับไปที่ผู้ประสานโครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง  (ครูหน่อง)  ปรึกษาว่า โรงพยาบาลไหนรับการผ่าตัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

            (2) ผู้ประสานงานให้ประสานงานไปกับโครงการพิเศษ ของสหทัยมูลนิธิ  วึ่งมีโครงการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลเลิศสิน  ครูจิ๋วเลยโทรประสานงานกับพี่ป้อม (โสมเพ็ญ) ซึ่งก็ได้สอนวิธีการประสานงานกับฝ่ายสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาล  ตลอดจนการต่อรองกับพยาบาลและแพทย์ที่รักษา

            (3) ครูจิ๋วก็นำรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งขั้นตอนการผ่าตัด การรักษาแผล  ตลอดจน ช่วงเวลาในการที่จะต้องนอนที่โรงพยาบาล  และค่าใช้จ่ายในส่วนที่พ่อแม่ของเด็กต้องออกเอง  ได้แก่ ค่ารถ ค่าอาหารที่โรงพยาบาล ค่าอุปกรณ์การล้างแผล  ตลอดจนอาหารเสริมที่จะช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น

             เมื่อได้คุยรายละเอียดพร้อมทั้งการวางแผนงานของครูที่ในช่วงเด็กต้องผ่าตัด ใครจะเป็นคนสอนที่ศูนย์เด็กก่อสร้าง ซึ่งมีจำนวนมาก  และพ่อแม่จะต้องวางแผนเช่นเดียวกันคือ การหยุดงานซึ่งหมายถึงรายได้ของครอบครัวจะไม่ได้  และไม่มีเงินเข้ามา แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่าย   ซึ่งแม่เด็กอายุน้อยมาก  ประมาณ 18 ปี ซึ่งอ่านหนังสือไม่ออกเลย  และเดินทางคนเดียวไม่ได้แน่นอน  ไม่ทราบสายรถเมล์ที่ผ่านเลย  จะให้พ่อเด็กไปก็ไม่มีคนทำงานรายได้ของครอบครัวก็ไม่มี เช่นกัน  มีลูกอีก 2 คนที่ต้องดูแล 

          เป็นปัญหาใหญ่ของครูประจำศูนย์เด็กก่อสร้างอย่างมาก  เพราะหันไปทางไหนก็เป็นปัญหาไปหมด  แต่ถ้าไม่ผ่าตัดตอนนี้เมื่อเด็กอายุมาก  แผลที่ปากกับจมูกจะไม่สมานกัน  ทำกันแผลติดยากมากเลย

หมายเลขบันทึก: 340882เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2010 11:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะคุณครูจิ๋ว

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะที่ครูพาเด็กไปหาหมอ ส่งผลให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้น

สมัยก่อนดิฉันเคยทำงานเกี่ยวกับงานทันตกรรม เห็นเด็กปากแหว่งเพดานโหว่น่าสงสารค่ะ มีทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง

เห็นพ่อแม่เด็กอุ้มลูกมาพิมพ์ปากเพื่อใส่เครื่องมือให้เด็กดูดนมได้ จะได้ไม่สำลัก

และสงสารแม่เด็ก ต้องอดทนมาก ๆ เวลาลูกดูดนม โดยเฉพาะบางคนเพดานโหว่หายไปเลยค่ะ

แต่บางคนปากแหว่งอย่างเดียวก็ค่อยยังชั่วค่ะ

ขอกำลังใจคุณครูค่ะ

ขอแก้ไข "ขอให้กำลังใจคุณครูค่ะ"

สวัสดีค่ะ ครูจิ๋ว

- ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ

- อ่านบันทึกแล้วขออนุโมทนาสาธุนะค่ะ

- จิ๋วเคยทำมูลนิธิสงเคราะเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. เจ้าค่ะ

- อ่านบทความแล้ว คิดถึงงานที่เคยทำมากเลยค่ะ อิอิ.. ถ้ามีโอกาสอยากทำมากเลยค่ะ เพราะชอบมากๆ ทำแล้วมีความสุข

- แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่สอนเด็กไปก่อน หุหุ

- น่าดีใจมากขอเป็นกำลังใจให้ครูจิ๋ว และองค์กรทำโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงแคสกรณีอื่นๆ ขอเด็กที่ด้อยโอกาสด้วยนะค่ะ

- ขอให้บุญกุศลนำส่งให้ครูจิ๋วและครอบครัวมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะค่ะ สาธุๆ

สวัสดีค่ะ คุณ nana งาน พสว.ศอ.8

ที่มาให้กำลังใจในการทำงาน เป็นงานที่ต้องอดทน แต่เมื่องานสำเร็จแล้วมีความสุขค่ะ หวังว่าโอกาสหน้าได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Rattanaporn Chaichon

ที่มีชื่อเล่นเหมือนกันเลยน่ะ ดีใจมากที่ได้พบคนงานด้านองค์กรเอกชนเหมือน ขอเป็นกำลังให้ซึ่งกันและกันน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท