นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประชุมระดับสูงด้านการศึกษาเพื่อปวงชน ครั้งที่ ๙ ของยูเนสโก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ที่กรุงแอดดิส อบาบา
การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการหาแนวทางให้ทุกประเทศบรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน แต่จะเน้นมากในเรื่องการจัดการศึกษาสำหรับเด็กกลุ่มชายขอบ หมายรวมถึงเด็กตามแนวชายแดน เด็กชาวเขา เด็กเร่ร่อน เด็กในภาวะสงคราม ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึงและจัดการศึกษาได้ยาก เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษาเพื่อปวงชนที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี ค.ศ.๒o๑๕ จะต้องบรรลุเป้าหมาย ๖ ข้อ คือ ๑.ให้เด็กเข้าถึงการศึกษาระดับปฐมวัยอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ๒.เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ๓.ให้เด็กมีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ ๔.ลดเป้าหมายอัตราไม่รู้หนังสือทั่วโลกจาก ๗๘๘ ล้านคนลง ๕o เปอร์เซ็นต์ ๕.เกิดความเสมอภาคทางการศึกษา และ ๖.ทุกประเทศมีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ยังได้มีการหารือเรื่องผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจที่มีต่อการศึกษาด้วย เพื่อหาแนวทางปกป้องกลุ่มเด็กด้อยโอกาสจากวิกฤติเศรษฐกิจ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ รมว.ศธ.ได้หารือกับ Mrs.Irina Bokova ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ว่าทางยูเนสโกได้ขอความร่วมมือจากทุกประเทศให้เร่งเดินหน้าขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง และครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม เนื่องจากขณะนี้ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในการบรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษาเพื่อปวงชนไปทุกทีแล้ว ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในปี ค.ศ.๑๙๙๐ ยูเนสโกและประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันประกาศปฏิญญาจอมเทียน กำหนดเป้าหมายให้เด็กทั่วโลกทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานภายในปี ค.ศ.๒๐๑๕ ซึ่งเหลือเวลาอีก ๕ ปี แต่ปัจจุบันยังมีเด็กอีกจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มเด็กชายขอบและเด็กด้อยโอกาสซึ่งมีจำนวนประมาณ ๗๒ ล้านคนทั่วโลก เพราะฉะนั้นยูเนสโกจึงต้องการให้ประเทศสมาชิกเร่งมือในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน และยูเนสโกยินดีจะให้ความช่วยเหลือ แต่ต้องการให้แต่ละประเทศช่วยเหลือตนเองก่อนเพราะเจ้าของประเทศย่อมรู้ข้อมูลของตนเองมากที่สุด Mrs.Irina Bokova ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ยังได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการช่วยเหลือตนเองด้านการศึกษา ซึ่งยูเนสโกต้องการให้ทุกประเทศแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในการให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา เพราะหากการเมืองไม่ให้ความสำคัญแล้ว การจัดการศึกษาเพื่อปวงชนจะสำเร็จได้ยาก อีกทั้งในปัจจุบันทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ ส่งผลให้หลายประเทศต้องตัดลดงบประมาณด้านการศึกษาเพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ซึ่งยูเนสโกไม่ต้องการให้ประเทศต่างๆ ลดงบประมาณด้านการศึกษาลง นอกจากนั้นยังขอให้เข้าไปดูแลครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจอีกด้วย
ขอบคุณค่ะ น้องชาย
ติดตามอ่านต่อไปค่ะ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ
อาจารย์แผ่นดิน
Mrs.Irina Bokova ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ยังได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการช่วยเหลือตนเองด้านการศึกษา
ยูเนสโกและประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันประกาศปฏิญญาจอมเทียน กำหนดเป้าหมายให้เด็กทั่วโลกทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานภายในปี ค.ศ.๒๐๑๕ ซึ่งเหลือเวลาอีก ๕ ปี
เห็นเด็ก ๆ ....สมัยที่เป็นเด็ก อยากไปโรงเรียน...มีความสุขมากครับ
มาเยี่ยม มาชม มาให้กำลังใจค่ะ
จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
สวัสดีครับ ครูจิ๋ว
มาแต่เช้าเลยนะครับ
ขอบคุณครับที่มาทักทาย...ด้วยความยินดีครับ