6 องศาโลกาวินาศ
ปัจจุบันภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลร้ายให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน พื้นที่ที่เคยชุ่มชื้นเริ่มแห้งแล้ง พายุตามฤดูกาลทวีความรุนแรงขึ้น การเพิ่มระดับของน้ำทะเล และธารน้ำแข็งอายุกว่าหนึ่งแสนปีเริ่มละลายจนใกล้จะหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เหตุการณ์เหล่านี้ยืนยันว่าโลกร้อนไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแส แต่มันคือหายนะที่จะเกิดขึ้นกับมนุษยชาติหากทุกคนยังนิ่งดูดาย
มาร์ก ไลนัส นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ภายในศตวรรษหน้า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะสูงขึ้น ถึง 6 องศา หากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในหนังสือ 6 องศาโลกาวินาศ ไลนัสได้นำข้อมูลบอกเล่าเป็น 6 องศา นำเสนอให้เรารู้ว่า หากอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเพียงแค่ 1 องศา โลกก็เดินทางสู่ประตูนรกแล้ว ทวีปอเมริกาเหนือจะประสบภาวะแห้งแล้งชั้นดินด้านบนจะถูกกัดเซาะออก เหลือเพียงดินชั้นล่างที่เคยเป็นทะเลทราย ยอดเขาคิลิมานจาโรจะไม่เหลือหิมะปกคลุม น้ำแข็งอาร์กติกละลายอย่างรวดเร็ว พายุเฮอร์ริเคนทวีความรุนแรงขึ้น ฯลฯ แล้วถ้าหากอุณหภูมิสูงถึง 6 องศาโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร ยุคน้ำแข็งอาจกลับมาอีกครั้ง? ผืนแผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ? และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้อาจสูญพันธุ์?
อย่างไรก็ตามเรื่องราวเหล่านี้คือสัญญาณเตือนภัย แต่ไม่ใช่ว่าจะมานั่งหวาดกลัวและรอรับชะตากรรมเพียงอย่างเดียว โลกอาจจะร้อนขึ้นถึง 6 องศาจริง หากเราปล่อยโลกใบนี้ไปตามยถากรรม แต่หากเราเลิกทำร้ายโลกใบนี้ ด้วยการช่วยกันลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เลิกการเผาไหม้เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลหรือถ่านหิน ฯลฯ อาจหยุดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาได้ แม้ว่าวิธีที่ว่ามาอาจจะทำได้ยาก แต่ถ้าทุกคนช่วยกันในวันนี้ เราก็อาจไม่ต้องเผชิญกับหายนะในวันที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 6 องศา
ผมว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาส รับรู้ เข้าใจ ความเป็นไปของโลกที่เราอยู่ร่วมกันนี้นะครับ...หากมีโอกาส สมควรกระจายความรู้เป็นวิทยาทาน...เพื่อโลกของเราทุกคนนะครับ
ครูเสรี...(คนสุรินทร์...เหลา)
โลกร้อนขึ้นทุกๆวัน คนก็ใจร้อนขึ้น เช่นกัน
แต่อีก 4 วันข้างหน้า อยากให้คนไทยท่องคำว่าใจเย็นไว้ค่ะ