ผู้หญิง หนังสือ และจิตวิทยาการขอ


Appreciative Inquiry : การขอด้วยสินค้า (Product)

สวัสดีตอนดึกๆวันอาทิตย์ครับ... ชาว Go2Know ทุกท่าน ^^

วันนี้ขอนแก่นอากาศเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว ความร้อนเริ่มมาเยือน

แต่ตอนเย็นยังโอเคอยู่ครับ ถือว่ายังเย็นในระดับหนึ่ง อยู่ได้สบายๆ

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มาเข้าเรื่องของวันนี้กันเลยดีกว่าครับ

เรื่องราวในวันนี้ก็จะเป็นเรื่องราวจากประสบการณ์ของ "คุณผู้หญิง"

ที่ได้ประสบพบเจอมาจะเป็น P ตัวไหนใน 9P ไม่ต้องลุ้นให้เสียเวลา ตามผมมาเลยครับ ^^



เรื่องในวันนี้ ผมได้มาจากน้องสาวคนหนึ่งครับ... เธอคนนี้ชื่อ "น้องมีน" พอดีเจอกัน

เลยถือโอกาสสัมภาษณ์ซะเลย.. ผมถาม "น้องมีนๆ Product ตัวไหน ที่มีนประทับใจ หรือชอบที่สุดในชีวิต"

น้องมีนตอบ "Product คือยังไงค่ะพี่" ผมตอบ "จะเป็นสินค้า หรือบริการก็ได้จ๊ะ เอาแบบที่ชอบที่สุดเลยนะ"

น้องมีนนั่งคิด... แล้วตอบกลับมาว่า "งั้น... มีนชอบอ่านนิยายค่ะ ฮ่าๆ" ผมถามต่อ "ชอบนิยายเรื่องอะไร... และชอบตรงจุดไหน"

น้องมีนตอบ "มีนชอบนิยายแฟนตาซีค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยมีถูกใจ เวลาซื้อก็จะดูสำนวนภาษามัน กับพลอตเรื่องต้องดีทั้งคู่ อย่างของไทย

ที่อ่านตอนนี้ มีคนเดียว คือของ "พัณณิดา ภูมิวัฒน์" คนอื่นไม่แตะเลย" ผมถามต่อ "แล้วชอบเรื่องไหนของพัณณิดาที่สุดละ"

น้องมีนตอบ "ชอบ ...ไมรอน กับผู้เสกทรายค่ะ... ชอบตรงไหนที่มันแปลกดีค่ะ จิตนาการสูงมาก ถึงจะพูดว่าแฟนตาซี

แต่มีนก็ไม่อ่านเรื่องที่เวทย์มนตร์ธรรมดาๆ อะค่ะ พัณณิดาใช้ภาษาสวยค่ะ เหมือนนิยายแปลเลย"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ
... มาดูกับครับว่า เคสนี้ให้อะไรกับเราบ้าง ทำไมน้องมีนถึงได้ชอบ Product ตัวนี้... ตามมาครับ ^^

จะเห็นได้ว่า... Product ที่น้องมีนชอบคือ "หนังสือนิยาย" ครับ ซึ่งก็มีมากมายหลายรูปแบบในท้องตลาด

แต่น้องมีนเจาะจงที่จะอ่านเฉพาะงานของ "พัณณิดา ภูมิวัฒน์" เท่านั้น ถ้าเป็นนิยายของไทย เพราะว่าชอบสำนวนภาษา

และจินตนาการของผู้เขียน ให้ความรู้สึกเหมือนนิยายแปล โดนเฉพาะเรื่อง "ไมรอน กับผู้เสกทราย" เป็นอะไรที่เธอชอบมาก

ซึ่งหนังสือที่แต่งโดย "พัณณิดา ภูมิวัฒน์" นี้เปรียบได้กับสินค้าโดนใจเธอครับ เป็นอะไรที่เฉพาะเจาะจง "ต้องอันนี้เท่านั้นถึงจะซื้อ"

นี่ก็คือ "การขอด้วยสินค้า" ครับ สินค้าต้องสร้างจุดต่าง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครเลียนแบบไม่ได้ เหมือนอย่างเคสนี้ครับ

สำนวน ภาษา และจิตนาการแบบนั้น มีแต่ "พัณณิดา ภูมิวัฒน์" คนเดียวเท่านั้น ที่จะสรรค์สร้างมันออกมาได้... จริงไหมครับ ^^



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ
... กับ "การขอด้วยสินค้า" จะเห็นได้ว่าสินค้าที่ตอบโจทย์โดนใจ"คุณผู้หญิง"มักจะมีลักษณะดังนี้ครับ

ต้องเป็นอะไรที่เฉพาะเจาะจง มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนใคร ซึ่งผู้ผลิตทั้งหลายต้องพยายามสร้างจุดต่างนี้ขึ้นมาให้ได้

เพื่อให้สินค้า/บริการของคุณไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ จะเป็นอะไรที่พวกเธอชอบครับ เมื่อพวกเธอรู้สึกประทับใจ

และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สินค้า/บริการของคุณจะถูกซื้อ/ใช้ซ้ำ และบอกต่อในท้ายที่สุด ( ผู้หญิง 1 คน จะบอกต่อถึง 27 คน )

ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ
... ผมเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นอะไรที่สำคัญ หาเอกลักษณ์ของตัวเองให้เจอ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จครับ



แล้วคุณละคิดยังไง ^^

 

ถ้าสนใจเคสที่ตอบโจทย์โดนใจ"คุณผู้หญิง"แบบนี้ สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่

>>> AI-Sheativity (จิตวิทยาการขอสำหรับผู้หญิง) <<<

หมายเลขบันทึก: 338955เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2010 22:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สินค้าทุกชนิดมีเป้าหมายที่ผู้หญิงกับเด็กครับ

จริงคะ......เพราะ "จุดต่าง" ที่ว่านั้น มันก็คือ "จุดขายนั้นเอง"

ถ้าต่างแล้วตรงใจ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จคะ ^^

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ

@อาจารย์พรชัย >>> เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ... สมัยนี้สินค้าใหม่ๆออกแบบมาเพื่อผู้หญิงและเด็ฏโดยเฉพาะมากขึ้นจริงๆครับ ^^

@หนิง >>> อะฮะ... ใช่ครับ จุดต่างที่โดนใจผู้บริโภค เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของเราขายได้ และประสบความสำเร็จครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

เห็นด้วยค่ะ ต้องทำอะไรที่แตกต่างแต่โดนใจ ^^

ไม่เห็นด้วยกับอาจารย์พรชัยครับ ว่าสินค้าทุกอย่างเน้นที่ผู้หญิงกับเด็ก เพราะสินค้าเกษตรไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ทำอย่างไรให้เด็กและผู้หญิงสนใจสินค้าเกษตรบ้างครับ แฮ่ๆ

เห็นด้วยครับ คนแปลมีผมมากมาย

หนังสือเล่มเดียวกัน คนแปลคนละคน ก็สำนวนต่างกันแล้ว โดนเฉพาะถ้าผู้ประพันธ์เขาเล่นคำหรือสำนวนในภาษาของเขา เอามาแปลเป็นไทยแล้วมันก็ไม่รู้จะว่ายังไง

อย่างหนังสือที่ผมอ่านตอนนี้ครับ "แกะรอยแกะดาว" ต้นฉบับเป็นญี่ปุ่น (ไม่มีปัญญาอ่านครับ) คือมีคนวิจารญ์ว่าเค้าใช้สำนวน เล่นคำ และเทคนิกต่างๆ ได้ดีครับ แต่พอแปลไทยแล้วอาจจะมีข้อจำกัดตรงนั้น อย่างเราจะพูดว่า "เช้าฟาดฝัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด" หรือจะเล่นคำผผวนอะไรในภาษาเรา ถ้าจะเอาไปแปลเป็นภาษาฝรั่งแล้วหละก็ ไม่รู้จะว่ายังไงกันดี จะเสพความงานของภาษากันยังไง อย่างสัตว์หรือผลไม้บางอย่างที่มันไม่มีในท้องถิ้นเรา แต่มันมัสัญญะกับความเชื่อ คนแปลบางคนก็แปลมาเป็นสัตว์หรือผลไม้บ้านเราที่มีสัญญะเดียวกันก็มีครับ ก็ได้แต่อ่านเอาเนื้อเรื่องหละครับ ฮ่าๆๆๆ

คนแปลมีความสำคัญมากๆ คับ ยิ่งคนแปลดังๆ เขาก็จะเลือกแปลหนังสือดีๆ เดี๋ยวเสียชื่อเสียงเขา ก็เหมือนมีคนคัดกรองหนังสือดีๆ ให้เราอีกชั้นหนึ่งครัับ

เอ้า... บ่นยาวอีกแล้วผม วันพรุ่งนี้เจอกันนะครับ เดี๋ยวมานั่งเรียนด้วย

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ

@คุณเพลินเพลง >>> อะฮะ... แล้วผมจะหา Product ที่สร้างความแตกต่างแต่โดนใจมานำเสนอครับ ^^

@คุณเจษฎา >>> ก็ไม่เสมอไปนะครับคุณเจษฎา... ผมว่าผู้หญฺงออกจะสนใจสินค้าเกษตรนะครับ... พวกข้าว ผลไม้ ผัก อะไรพวกนี้สินค้าเกษตรทั้งนั้น พวกเราผู้ชายหลายๆท่าน เลือกไม่เป็นแน่นอนครับ ก็จะเป็นคุณผู้หญิงมากกว่าที่จะสนใจสินค้าพวกนี้มากเป็นพิเศษ อย่างผลไม้บางอย่างพวกเธอไม่ทานเพราะกลัวอ้วนหันมาทานอีกประเภทหนึ่งอะไรแบบนี้เป็นต้นครับ ขอบคุณมากครับ ^^

@พี่วิ่ว >>> เห็นด้วยเลยครับเรื่องที่ว่าคนแปลมีผลอย่างมากต่อความสนุกในหนังสือ เพราะถ้าแปลมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง หรือเข้าใจยาก ไม่สนุก หนังสือดีๆก็จะกลายเป็นหนังสือดาดๆได้ในพริบตากันเลยทีเดียว แต่ชอบมุมมองที่พี่เสนออีกมุมมากครับ เรื่องที่ว่าคนแปลก็เหมือนกันกลั่นกรองหนังสือดีๆมาให้เราอ่านแล้วอีกรอบ อันนี้ผมว่าจริงนะ แต่หลายๆคนไม่คิดถึงเรื่องนี้ ขอบคุณพี่มากครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะครับ แสดงความคิดเห็น/หรือแชร์ประสบการ์ Product ที่ท่านประทัยใจกันมาได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

ก็จริงนะ ถ้าจะซื้ออะไรซักอย่างก็ดูเหมือนกันว่าเป็นของคนนี้ ยี่ห้อนี้ หรือเปล่า ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ใช้แล้วมันตอบโจทย์ของเราได้มากสุด โดนใจมากสุด

ผู้เสกทรายเป็นอีกหนึ่งนิยายแนวแฟนตาซีที่น่าอ่านมากครับ ^^

ปล.อาทิตย์นี้พี่เขียนครบแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ

@คุณpoupae >>> มันน่าจะมีนัยสำคัญครับ... เดี๋ยวต้องลองทำหลายๆเคสน่าจะเจออะไรมากขึ้น ^^

@พี่โย >>> โอเคครับพี่... พรุ่งนี้เจอกัน เดี๋ยวไว้มาวาง Tactics กันเรา 555+

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาครับผม ^^

...สวัสดีค่ะ...คุณเอิร์ท...

สินค้าแต่ล่ะชนิด ลองสังเกตให้ดีนะ จะเน้นที่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พูดง่ายๆนะ ผู้หญิงถึงไม่มีกินแต่ก็ขอให้สวยไว้ก่อน ส่วนเด็กก็ขอมีของเล่นมากกว่าถึงไมเงินกินก็ไม่เป็นไร ยอมอดเพื่อที่จะซื้อของเล่น

แต่ถ้าพูดถึงหนังสือดีดีสักเล่น ถ้าเราชอบคนเขียน ชอบลักษณะการเขียน การเรียบเรียงถ้อยคำ มันก็ยอมคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เพราะตัวเอง ก็เสียไปมากกับนักเขียนท่านหนึ่ง ซื้อทุกเล่มที่นำออกมาขายเลยล่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท