เมื่อเวลาสายๆ ของวันที่ 9 มิถุนายน คิดว่าคนไทยทุกคนคงได้เห็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม และเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกว่า เพราะเหตุใด คนไทยถึงรักในหลวง และเทิดทูนพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีประเทศใดในโลกนี้ เหมือนประเทศไทย ....
สมควรอย่างยิ่งที่เราคนไทย ควรใช้โอกาสอันดียิ่งนี้ สอนลูกหลานไทยของเรา ปลูกฝังให้เขาภูมิใจในความเป็น "ไทย" และภูมิใจในเอกลักษณ์ของชาติ
เรามีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐสุด พระองค์ท่านทรงเป็นยิ่งว่า "King" ทรงเป็น " พ่อ" ของพสกนิกรไทย ทรงเป็นศูนย์รวมใจไทย ทั้งในยามสุขและยามทุกข์
และเนื่องในมหามงคลสมัย วโรกาสเฉลิมฉลองครองราชย์ 60 ปีนี้ จะมีพระราชพิธีหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งขบวนเรือพระที่นั่ง ที่สวยงามและหาชมได้ยากยิ่ง พระราชพิธีเวียนเทียนสมโภช ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ที่ผ่านไปเมื่อวันที่ 10 มิย. เราควรภูมิใจที่ประเทศไทยเรารักษาเอกลักษณ์ของชาติ และขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่เหล่านี้ไว้ได้ยาวนาน
ถึงแม้ประเทศไทย เป็นประเทศเล็กๆ ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย และไม่ได้เป็นมหาอำนาจยิ่งใหญ่ แต่เราจงภูมิใจที่เรามีความเป็นชาติเอกราชมานาน มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่พึ่งของประชาชน มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในหลวงของเราทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินแนวทาง " เศรษฐกิจพอเพียง " พระองค์ท่านเคยตรัสว่า " เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง " เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศเกษตรกรรม หากเราอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ประเทศไทยเราต้องอยู่รอดได้แน่นอน
ขออ้างอิงถึงกระราชดำรัสเกี่ยวกับเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ( คลิกได้ค่ะ ) จากบทความหนึ่งที่อ้างมาจากแหล่งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ได้อ่านอีกครั้งค่ะ
วันนี้ได้ฟังข่าวว่าภาคเอกชนจะนำเรื่องเศรฐกิจพอเพียงนำมาใช้ในการประกอบกิจการไม่ทำเพื่อหวังผลกำไรจนมากเกินไป รู้สึกดีใจเพราะบางครั้งรู้สึกนำวิธีการตลาดมาใช้จนเกินไปไม่คิดถึงผลกระทบในภายหลังตัวอย่างเช่น การโทรฟรีทำให้เด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่บางท่านใช้เวลาไม่เกิดประโยชน์เลย และอาจสิ้นเปลืองภายหลังเนื่องจากติดนิสัยโทรนาน ๆ พวกเราจะคงช่วยกันจับตามองและให้กำลังใจเอกชนที่นำ เศรฐกิจพอเพียงไปใช้ในการบริหารงาน
จรัสศรี