ทำไมแพทย์ต้องทำงานหนัก?


น้องๆไม่ต้องเป็นห่วงจบออกไปแล้วได้ทำงานหนักแน่ๆสมกับที่พวกเราอุตส่าห์เรียนหนักมาตั้ง 6 ปี

      ผมยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย ในงานประชุมวิชาการงานหนึ่งมีการเชิญแพทย์รุ่นพี่มาเล่าประสบการณ์ทำงานให้ฟัง ประโยคหนึ่งที่ยังก้องอยู่ในความคิดผมก็คือ น้องๆไม่ต้องเป็นห่วงจบออกไปแล้วได้ทำงานหนักแน่ๆสมกับที่พวกเราอุตส่าห์เรียนหนักมาตั้ง 6 ปี จากนั้นในอีกงานหนึ่งผมได้ฟังอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นครูที่ดีของพวกเราท่านหนึ่ง ท่านได้กลับมาเล่าประสบการณ์หลังจากลาออกไปอยู่เอกชนได้พักใหญ่ ได้ความว่าชีวิตมันช่างแตกต่างกันมากจริงๆ ท่านยอมรับว่าคุณภาพชีวิตท่านดีขึ้น..ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยัง งงๆ อยู่กับงานราชการ

      ทุกวันนี้เวลาแพทย์เราพบหน้ากันก็มักจะถามกันจนติดปากว่าเป็นงัย คนไข้เยอะมั้ย ถ้าบอกว่าไม่ค่อยมีก็จะถูกมองว่าใช้แพทย์ไม่คุ้ม ....ทำอะไรไร้สาระอยู่หรือปล่าว?

      ผมว่าต้องปรับทัศนคติและการรับรู้ของคนสองส่วน คือ

1. แพทย์ต้องรู้สึกชื่นชมและยินดีอย่างจริงใจต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพที่ ได้มีโอกาสทำงานในที่ทำงานในที่ที่มีคนไข้น้อยๆ ได้ดูแลคนไข้อย่างละเอียด

2. ผู้บริหารต้องรับรู้ ยกย่อง(ที่แพทย์ได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มกำลัง) สนับสนุนให้เกิดที่ทำงานอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และปกป้องคุ้มกันไม่ให้ที่ทำงานน่าอยู่ น่าทำงานเหล่านี้ต้องมีอันล่มสลายไปด้วยแรงฉุดของ คนและระบบที่ไม่เข้าใจเป้าหมายสุดท้ายที่จะเกิดผลดีต่อคนไข้(เลิกคิดที่จะเอาแรงงานไปเติมจุดขาดเป็นการเฉพาะหน้า แล้วกลับมาวางแผน ขยายที่ทำงานน่าอยู่ของแพทย์ให้มากขึ้นเรื่อยๆไม่ดีกว่าหรือครับ?)

 สำหรับประชาชน ผมลองนึกตอนผม หรือญาติป่วย ก็ต้องการไปรักษากับแพทย์ และสถานบริการแบบข้างบนอยู่แล้ว

  สุดท้ายผมเชื่อว่ามีที่เช่นว่านั้นจริงในเมืองไทย.....แต่จะหาได้ที่ใหนใครรู้ช่วยบอกที 

หมายเลขบันทึก: 335240เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2010 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 18:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ผมอยากเห็นแพทย์เฉพาะทางอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศครับ

ผมว่าน่าจะหัดถามกันใหม่ว่า วันนี้หมอมีความสุขในการทำงานแล้วหรือยังมากกว่านะ

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ที่โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่ง มีผู้รับบริการเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ โรงพยาบาลจังหวัด ก็ไม่ได้ลดลง เห็นหมอ(ดีๆ) ทำงานหนักจริงๆ ยี่งมึการบังคับให้โรงพยาบาลพัฒนาคุณภาพด้วย HA แล้ว และมีแพทย์ เพียง 1-3 คน หมุนเวียนเปลี่ยนทุกปี อย่างที่ร.พ.ก็ต้องนำเวลาส่วนหนึ่งไปทบทวนสารพัดทบทวน ที่ HA นำเสนอมา และพยาบาลก็ต้องเสียเวลาทำเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานในการขอประเมิน ทำแล้วทำอีกแก้แล้วแก้อีก ก็ยังไม่ผ่าน โดยส่วนตัวคิดว่าบริการของสาธารณสุขเรามีมาตรฐานที่ชัดเจนอยู่แล้วหากเรานำมมาตรฐานเป็นตัวตั้งและให้บริการตามบริบทของแต่ละแห่งค่อยๆ พัฒนาไปตามมาตรฐาน จะมีเวลาใส่ใจดูแลผู้รับบริการมากขึ้น และไม่เหนื่อยค่ะ

ยอมรับว่าเรื่องบรรยากาศที่ทำงาน มีผลต่อความสุขในการทำงานจริงๆคะ

ที่ทำงาน ที่ขาดพลังงาน เป็นขั้วลบ..เวลาเดินเข้าไป จะรู้สึกเลยคะ ว่าพลังงานตก โดนดูดพลัง :>

" ผู้บริหารต้องรับรู้ ยกย่อง" ข้อนี้ ขอเสริมว่า เพื่อนร่วมงานด้วย..ซึ่งส่วนนี้สามารถเริ่มที่ตัวเราเอง

หลังจากถามแบบพี่โรจน์ว่า หมอมีความสุขแล้วหรือยัง..อยากให้ถามด้วยคะ ว่าวันนี้คุณชม เพื่อนร่วมงาน หรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือยัง

การชมนี่ก็เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์นะครับ หากหน่วยงานนั้นๆขาดการเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวก็ยากที่จะเกิด เอ...แล้วใครเป็นคนดูในภาพรวมของการพัฒนาบุคลากรในภาครัฐอย่างจริงจังบ้างครับ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข

สวัสดีค่ะ

  • ขอเป็นกำลังใจให้กับแพทย์ที่ทำงานทุกท่าน อย่าพึ่งท้อกับระบบการทำงานที่เป็นอยู่ค่ะ
  • แพทย์เองก็ต้องอย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยเช่นกันค่ะ เนื่องจากท่านเป็นกำลังสำคัญของประเทศค่ะ
  • ขอบคุณที่อาจารย์แวะไปเยี่ยมค่ะ.

สวัสดีครับคุณ หมอสีอิฐ

แวะมาฝากข่าวถึงเพื่อนลูกจ้างว่า

วันที่28 มีค.สมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข จะทำพิธีเปิดที่ทำการสมาคม

ที่รพ.พระนครศรีอยุธยา

เรียนเชิญเพื่อนลูกจ้างไปให้กำลังใจด้วย

หมายกำหนดการจะออกตามมาครับหมอ

ด้วยความขอบคุณที่ใสใจในเพื่อนร่วมงานครับ

ยินดีกับคุณวอญ่า และทีมงานครับ

จะช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรง

อยากให้โรงพยาบาลสมุทรสาคร

มีคนไข้น้อยลงสักวันละ1000 คน

สงสารหมอและพยาบาลค่ะ

ไม่ได้ไปชุมนุมประท้วงอะไรใครนะคะ

แต่เราไปออกกำลังกายเพื่อลดปริมาณผู้ป่วยและปฏิบัติธรรมกันค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

วันจันทร์ที่ 8 มีค นี้ คุณหมดไปถอดบทเรียน KM ที่ รพ.พระนครศรีอยุทธยา มั้ยคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท