กัด..ไม่ปล่อย


บางที กลับบ้านไปผู้ป่วยเดินมาก ทำให้เท้าบวม ทานอาหารตามใจชอบ ต้องให้คำแนะนำตลอด แบบกัดไม่ปล่อยค่ะ.

 วันนี้ถึงแม้จะเป็นวันหยุด แต่ผู้เขียนมีนัดกับผู้ป่วยรายหนึ่งตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง ค่ะ

พอถึงเวลานัด ลูกชายของผู้ป่วยก็โทรแจ้งทันที ความจริงเมื่อเช้านี้เขาก็โทรมาปรึกษาตั้งแต่เช้า ด้วยว่า แม่มีอาการปวดจี้ดๆที่นิ้วเท้าขาข้างซ้าย ผู้เขียนประเมินแล้วเห็นว่า น่าจะเกิดจากขาดเลือดไปเลี้ยง..แนะนำให้ทานยาแก้ปวด งดการเดิน ดื่มน้ำมากขึ้นและสังเกตุอาการต่อ ถ้าไม่ดีขึ้นก็คงต้องไปพบแพทย์ ..พอตอนบ่ายเจอกันทราบว่าอาการดีขึ้น ค่ะ

ผู้ป่วยหญิงรายนี้อายุกว่า 70 ปีเป็นเบาหวานมาหลายปี รักษาที่โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง กระทั่งมีแผลเรื้อรังที่เท้าขวามา 4 เดือน แพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแนะนำให้ตัดขา แต่ผู้ป่วยมีลูกทำงานที่ขอนแก่น จึงให้ลูกพามาโรงพยาบาลศรีนครินทร์

ที่นี่แรกๆแผลเน่า มีกลิ่นเหม็น มีหนองไหลออกมา แพทย์ก้อแนะนำให้ผู้ป่วยตัดขา แต่ผู้ป่วยไม่พร้อม ผู้เขียนจึงช่วยเจรจา ต่อรองขอนอนรักษาให้ยาฆ่าเชื้อร่วมกับตกแต่งบาดแผลดูก่อน ถ้าไม่ดีขึ้น..ก็จะยอมตัดขา

หลังจากแพทย์ตกแต่งบาดแผลในห้องผ่าตัด 3 ครั้งร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อ และตลอดระยะเวลาที่นอนรักษา ผู้ป่วยให้ความร่วมมือดีมาก (กลัวถูกตัดขา) ควบคุมอาหารดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ไม่นานแผลดีขึ้นมาก  (ดังภาพ) ผู้ป่วยจึงได้กลับบ้าน เร็วกว่าที่คาดไว้

ก่อนหน้านั้นผู้ป่วยเคยบอกผู้เขียนว่าอีกไม่นานลูกชายจะบวช ยังไงก็จะขอกลับบ้านก่อนนะ (ถ้าแผลไม่หาย) ผู้เขียนบอกว่าจะพยายาม ฯ (ถ้าแผลไม่ติดเชื้อ) วันนี้ได้กลับบ้านแล้ว ผู้เขียนก็ดีใจด้วย และจะดีใจมากขึ้นถ้าแผลของป้าหายก่อนงานบวชของลูกชาย อีกอย่างลุกชายป้าบอกว่า "อีก 10 วันผมจะไปราชการ(ทหาร)ชายแดนใต้ ผมขอฝากแม่ด้วยนะครับ"..!!!

ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนจึงต้องไปดูแลแผลเองค่ะ ทั้งนี้นอกจากจะล้างแผลแล้ว ต้องประเมินปัจจัยอื่นๆ ด้วยค่ะ บางที กลับบ้านไปผู้ป่วยเดินมาก ทำให้เท้าบวม ทานอาหารตามใจชอบ มากไป น้อยไป หรือไม่ก็ลืมกินยา คุมน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี ต้องให้คำแนะนำตลอด แบบกัดไม่ปล่อยค่ะ..เอิ๊กกๆๆๆ

หมายเลขบันทึก: 334444เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2010 21:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

จึ๊ย....น่ากลัวจัง

ชื่อเรื่อง เหมือนกันเปะเลย แต่ของเราเป็นนิทานจ้ะ

นิทานคุณธรรม(เรื่องกัดไม่ปล่อย)

 

P ครูจิ๋ว ค่ะ

เอาแบบน่ากลัวๆ มาให้ดูค่ะ จะได้คอบเตือนว่า แผลเท้าเบาหวาน น่ากลัว เรื้อรัง ค่ะ

ดีที่สุดคือ"ป้องกัน" เท่านั้นค่ะ 

ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

ชื่อเรื่องน่ากลัว

แต่แผลน่ากลัวมาก มาก ค่ะ

เพิ่งไปตรวจสุขภาพประจำปีมา

หมอบอกว่าไขมัน(ตัวร้าย)สูง

กลับมาบ้านอดอาหารเลยค่ะ

อะไรที่ชอบ งดหมด

กลัวไขมันไม่ลดค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกดี ดี นะคะ

ขอบคุณค่ะ

คนในครอบครัวเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คอเรสเตอรอลสูง รวมทั้งเตกริกเซไรท์ด้วย เรียกว่าได้มรดกมาครบชุดเลยค่ะ ตัวเองตรวจเจอทั้ง 4 โรคเมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว คุณหมอให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและให้กลับไปตรวจใหม่อีกครั้งในเดือนถัดไปหากทุกอย่างไม่ดีขึ้น จะให้ทานยา นับจากนั้นจนบัดนี้ล่วงมา 11 ปีแล้ว ปัจจุบันนอายุ 44 ปี ดิฉันยังไม่ได้ทานยาเลยน่ะค่ะ ตรวจสุขภาพทุก 3 เดือน เต้นแอโรบิก 1 ชม กับปั่นจักรยานอีก 10 กิโลทุกวัน ควบคุมอาหาร หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อเฝ้าระวังตัวเอง แต่ก้อมีบ้างเหมือนกันที่บางครั้ง ทั้งน้ำตาลในเลือด ความดันสูงขึ้นนิดหน่อย แต่ก้อประคองตัวเองรอดมาได้ทุกครั้ง ได้คติเตือนตัวเองก้อคือ "อย่าตามใจปากและต้องออกกำลังกายทุกวัน"

ความร่วมมือของคนไข้และความตั้งใจจริงของเจ้าหน้าที่

ทำให้การดูแลคุณยายได้ผลดีนะคะ

P  Natcha Chalermklang
เมื่อ อา. 07 ก.พ. 2553 @ 00:44
#1841312 [ ลบ ]
อยู่ที่เรียนรู้ และเข้าใจค่ะท่าน ..อาหารที่มีไขมันสูง..มีหลายอย่าง เช่น เครื่องในสัตว์ ฯ 
อย่างน้ำซุบก๋วยเตี๋ยว ก็ตัวร้าย..ตอนร้อนๆ น่าทานค่ะ
..แต่พอเย็นลง อื้อฮือ ไขมันเพียบ..
เปลี่ยนวิธีการทำอาหาร ก็ช่วยได้เยอะค่ะ เช่น จากผัด ทอด ก็เป็น ต้ม นึ่ง..แทนนะค่ะ
แล้วคอยดูผลตรวจไขมัน..ครั้งต่อไป ค่ะ
ยังมีโอกาส..ให้กำลังใจค่ะ

To ..ครูน้อง [IP: 222.123.8.8]
เมื่อ อา. 07 ก.พ. 2553 @ 21:17
#1842654 [ ลบ ]
 ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีมาก สำหรับการดูแลตนเองเมื่อเป็นเบาหวาน ค่ะ

ส่วนตัว ดิฉันเอง คิดว่า เบาหวาน อาจไม่ต้องรักษาด้วยยา..ถ้า การดูแลตนเองดี

การออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหาร..เป็น EBP สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ค่ะ

แต่ที่ยังมีปัญหา เพราะ..ยังทำได้ไม่เพียงพอ ค่ะ

ให้กำลังใจ ขอให้สม่ำเสมอค่ะ

แวะมาส่งข่าวบ้างจะดีมาก ค่ะ

 

เอามาฝากครับพี่

คิดถึง ๆ ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท