female marketing - ผู้หญิง รูปลักษณ์ พนักงาน
วันนี้เราได้ไปนั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างอาจารย์และเพื่อนๆ ที่กองบัญชาการกัน พวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ใครมีเคสที่น่าสนใจก็มานั่งแชร์ประสบการณ์กัน และเพื่อนของเรา “อ๋อย” ก็ได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ อ๋อยเล่าว่า มีน้องผู้หญิงที่รู้จัก มาบ่นให้ฟังว่า จะไปซื้อรถที่โชว์รูมรถแห่งหนึ่ง ให้เป็นของขวัญน้องชายที่พึ่งเรียนจบ ซึ่งจริงๆแล้วครอบครัวของน้องคนนี้เป็นคนมีฐานะดี ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่ง และวันนั้น ด้วยความที่น้องเค้าเป็นคนไม่ค่อยชอบแต่งตัว คือ ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ พอน้องเค้าเข้าไปถามว่ามีรถรุ่นใดบ้าง พนักงานก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ เพราะว่าเห็นแต่งตัวไม่ดีคงไม่ได้สนใจมาซื้อ ซึ่งน้องเค้าก็ไม่พอใจอย่างมาก จึงโทรศัพท์ไปหาคุณพ่อว่าที่นี่บริการไม่ดี คุณพ่อของน้องเค้าก็โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการสาขาทันที หลังจากนั้น พนักงานคนนั้นก็โดนไปหลายกระธง พอน้องเค้าไปที่โชว์รูมนั้นอีกครั้งก็ปรากฏว่าพนักงานคนนั้นก็ต้อนรับเป็นอย่างดีจนถึงกับทำงานเอาหน้าด้วยซ้ำ
เราก็มีอีกเคส คือ อาจารย์ภิญโญ เล่าว่า มีลูกศิษย์ของอาจารย์ทำงานที่ธนาคาร พี่เอ(นามสมมุติ) ก็เห็นคุณป้าคนหนึ่งมาเปิดบัญชี วันนั้นก็ไม่ค่อยมีใครสนใจคุณป้า พี่เอก็เลยเข้าไปหาคุณป้า พี่เอก็ยิ้มให้กับคุณป้าและบอกว่าให้ช่วยอะไรมั้ยครับคุณป้า คุณป้าก็ยิ้มและบอกว่าดีจังที่เข้ามาถามคนแก่ พี่เอเค้าก็ชวนคุยจนทำรายการเสร็จ พอวันต่อมาปรากฏว่ามีเงินฝากไหลเข้ามาในธนาคารนั้นเป็น 10 ล้าน มารู้ทีหลังว่าคุณป้าคนนั้นเป็นแม่ของส.ส และคุณป้าก็ให้เครดิตกับพี่เอ ที่มาให้บริการวันนั้น
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เรายกมาเปรียบเทียบ ระหว่าง พนักงาน และ ลูกค้า เห็นมั้ยค่ะว่า people ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ที่ธุรกิจนั้นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าก็เป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่จะกำหนด ว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อโดยเฉพาะกับลูกค้าที่เป็นผู้หญิง ดังตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นว่า ผู้หญิง มีอำนาจในการกำหนดทุกสิ่งให้เป็นไปผู้หญิง เป็นคนตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ผู้หญิงเป็นคนบอกต่อว่าดีหรือไม่ดี และผลที่ได้ก็จะบอกต่อออกไปอีก 27 ทอด และในเรื่องของการแต่งกาย หรือ บุคลิกภาพภายนอก ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี หรือว่าใครมีเงินหรือไม่มีเงิน เพราะ คนทุกวันนี้ตัดสินและวัดค่ากันเพียงเปลือกภายนอก คนทุกคนจึงสวมหน้ากากเข้าหากัน และสร้างภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูดี แต่ถ้าทุกคนหันมาเอาใจใส่กับงานที่ทำ ทำงานด้วยใจ และมีความสุขกับงาน เมื่อไรที่เรามีความสุข ความสุขนั้นก็จะส่งผ่านไปถึงผู้อื่น เชื่อว่าถ้าทุกคนมีความสุข ให้แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ความสุข และ ความสำเร็จ ก็จะส่งผลกลับมาอย่างแน่นอน “ทำดีย่อมได้ดีค๊ะ”
ความเห็น (4)
ขอบคุณสำหรับเคสดีๆครับ
ผมเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าสักวันหนึ่งรวย จะใส่เสื้อห่านคู่ กางเกงขาสั้น ร้องเท้าดาวเทียม ไปเดินเล่นโชว์รูมรถสักหน่อย
แต่ผมว่าอาจจะไม่ผ่านตั้งแต่ยามแล้วมั้งครับ... ซึ่งในทางธุรกิจไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใคร พนักงานขาย มีหน้าที่ต้องดูแลครับ
ถึงเขาแค่จะมาดูเฉยๆ แต่ถ้าท่านไม่ดูแล ท่านจะโดนการบอกปากต่อปากในแง่ลบ และก็จะไม่มีคนมาใช้บริการอีกเลย
"ผ้าขี้ริ้วหอทอง"เยอะครับสมัยนี้ อย่าติดสินคนที่ภายนอก ^^
กรณีนี้ เหมาะกับ คุณแม่ผมมากๆ
คุณแม่เคยคิดจะซื้อรถยนต์ยี่ห้อนึง ขึ้นต้นด้วยตัว T
แม่ใส่เสื้อยืด กางเกงขายาว ตามสไตล์แม่บ้าน
ไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตา เดินเข้าไปถามราคารถ
แต่พนักงานผู้หญิงคนนั้น เธอไม่สนใจ ไม่พูดไม่จา
แม่ไม่พอใจมากๆ บอกว่า
"ถ้าวันนั้นเขาพูดดีกะแม่นะ วันต่อมาจะเอาเงินสดไปซื้อมายังได้เลย"
(ขี้โม้รึป่าวก็ไม่รู้)
"ดี มันไม่ได้เงินแม่แกง่ายๆหรอก"
มองคน อย่ามองแต่ภายนอกนอกครับ
ผมขายของทุกวันรู้ดี
ลูกค้าแต่งตัวดีๆ ต่อราคาเก่งมากๆ บางที เราบอกราคาทุนไป เขายังต่อ
ผิดกับลูกค้าบ้านๆ แต่งตัวมอซอๆ เขาซื้อของราคาสูง ไม่ต่อซักคำ
เราเองยังลดราคาให้เขาอย่างเต็มใจอีกตะหาก
แล้วเขาก็ ควักแบงค์พัน ฟ่อนใหญ่ๆมา นับจ่ายเราด้วย
คนมีตังเขาไม่ต้องแต่งตัวหรอกครับ
จริงไหม
โทรปรึกษาธุรกิจฟรี 3 ครั้ง
บริการฝึกอบรม สัมมนา การจับถูก
ค่าจ้างครึ่งนึงยกให้การกุศล
081-965-4832
น่าสนใจมากเลยค่ะ
วันนิก็โดนพนักงาน เล่นงาน จนทำให้ยอมควักกระเป๋าซะด้วย
โฮะๆๆ อันนี้สำคัญจริงๆค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย
เคสที่ยกตัวอย่าง เห็นด้วยค่ะ
เคยเจอมากับเตวเองเยอะเหมือนกัน
ขอบคุณนะคะ จะได้เอาไปปรับใช้ เวลาทำงาน
บุญรักษาค่ะ ^_^